ส่องเทรนด์แฟชั่นยุค “Y2K” ที่กลับมาฮิตอีกครั้งใน พ.ศ.นี้

ในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา คงไม่มีเทรนด์แฟชั่นใดได้รับความนิยมไปกว่า เสื้อผ้าช่วงปลายยุค 90 ถึง ช่วงกลางยุค 2000 หรือที่เรียกว่า “Y2K” ซึ่งศิลปินที่เป็นแฟชั่นไอคอนในยุคนั้น ได้แก่ “ปารีส ฮิลตัน” “บริทนีย์ สเปียร์ส” และ “คริสตินา อากีเลรา” รวมถึงภาพยนตร์วัยรุ่นที่เปรียบเสมือนตัวแทนแห่งยุคอย่าง “Means Girls” ที่ตัวละครมักจะนิยมเสื้อครอปท็อป รองเท้าแตะส้นหนาเตอะ และชุดวอร์มผ้ากำมะหยี่สีสันสดใส

 

เป็นปรกติที่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว มักจะโหยหารำลึกถึงอดีตความทรงจำอันหอมหวานในวัยเด็ก เหมือนอย่างที่ในช่วงก่อนหน้าเทรนด์ยุค 90 กำลังระบาดอย่างหนัก แต่ตอนนี้เมื่อกาลเวลาได้ผันเปลี่ยนไป ถึงคราวของยุค 2000 ได้กลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้ง โดยเฉพาะในวงการแฟชั่น ที่เซเลบระดับโลกอย่าง  เป็นหนึ่งในผู้พลิกฟื้นเทรนด์แฟชั่นยุค Y2K ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง พร้อมเป็นการเชิญชวนให้คนรุ่นเจน Z ลงมาได้ลองแต่งตัวตาม 

 

การแต่งหน้าและแต่งกายแฟชั่น Y2K ของ “เฮลีย์ บีเบอร์” และ “เบลลา ฮาดิด”

 

จากนั้นช่วงปลายปี 2564 เทรนด์แฟชั่นนี้ได้ลุกลามไปยังฝั่งเกาหลี เมื่อผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นอย่าง “เจนนี่ BLACKPINK” ได้โพสต์รูปของเธอที่สวมใส่ชุด Juicy Couture สีเขียวสดใส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อผ้ายุค Y2K ยิ่งทำให้เทรนด์แฟชั่นนี้ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสาว ๆ ในวงการ K-POP ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแนวนี้ในชีวิตประจำวัน

เจนนี่ BLACKPINK ในชุด Juicy Couture

ทั้ง “คิม ฮย็อน-อา” ที่ใส่อวดหุ่นแซ่บในลุคอันเดอร์บู๊บ ที่เป็นการใส่เสื้อตัวสั้น ๆ เผยให้เห็นช่วงใต้ของหน้าอกเล็กน้อย หรือจะเป็น อิม ยุน-อา และ จาง วอนยอง จากวง IVE ที่ใส่เสื้อเอวลอยคู่กับมินิสเกิร์ตเอวต่ำ ยิ่งทำให้เหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ในอินสตาแกรมต่างกระโดดเข้าสู่เทรนด์นี้ และนับตั้งแต่นั้นทุกพื้นที่ในโซเชียลมีเดียล้วนมีแต่เทรนด์ Y2K

วอนยอง วง IVE กับเสื้อเอวลอยคู่กับมินิสเกิร์ตเอวต่ำ

 

นอกจากนี้ ใช้เสื้อผ้าแนว Y2K มาเป็นคอนเซ็ปต์ในการคัมแบ็กและเดบิวต์ศิลปินหลายต่อหลายวง ไม่ว่าจะเป็นบรรดาตัวแม่อย่าง SUNMI กับคัมแบ็กเพลง “You Can’t Sit With Us” (2564) หรือ Taeyeon หนึ่งในสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานอย่า Girls’ Generation ในเพลง “Weekend” (2564) รวมไปถึง Hwa Sa สมาชิกวง MAMAMOO ในเพลง “Somebody” (2565) ที่ได้ Loco แร็ปเปอร์หนุ่มมาร่วมร้องด้วย ยังมี “CHOBOM” ซับยูนิตแรกจาก “Apink” ในเพลง “Copycat” (2565)

 

ตลอดจนวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่พึ่งเดบิวต์ไปเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมาอย่าง “NewJeans” ก็มาในคอนเซ็ปต์ Y2K เช่นกัน ทั้งคอนเซ็ปต์ กลยุทธ์ และตัวเพลงที่แปลกใหม่กว่าวงอื่น ๆ ในวงการ ทำให้ NewJeans ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี กลายเป็นวงน้องใหม่ที่น่าจับตามองอย่างรวดเร็ว

 

ขณะที่วงเกิร์ลกรุ๊ปจาก “JYP Entertainment” ทั้ง “ITZY” ในเพลง “Sneakers” (2565) และ “Twice” ในคัมแบ็กล่าสุด “Talk That Talk” (2565) ต่างมาในคอนเซ็ปต์ Y2K ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สีสันสดใส กราฟิกและฟอนต์ที่เป็นสไตล์ยุค 2000 ซึ่งสอดคล้องกับอุปกรณ์ประกอบฉากต่าง ๆ ที่มาจากยุคเดียวกัน

 

แม้ว่ามีหลายคนกระโจนเข้าไปร่วมเทรนด์ Y2K แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ “ซื้อ” เทรนด์แฟชั่นนี้ โดยเฉพาะชาว “Generation MZ” ในเกาหลีที่มีรสนิยมแตกต่างจากตลาดผู้บริโภคอื่น ๆ 

Generation MZ คือคนรุ่นไหน ?

Generation MZ หรือ เจน MZ เป็นการรวมคนยุคมิลเลนเนียล และ เจน Z เข้าด้วยกัน ทำให้มีช่วงอายุที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ในวัย 40 ต้น ๆ แม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างวัยอยู่มาก แต่แนวคิดที่มีเทรนด์แฟชั่นและการแสวงหาสไตล์ที่เหมาะกับตนเองของคนยุคมิลเลนเนียล และ เจน Z นั้นคล้ายคลึงกันอยู่

วัฒนธรรมของเกาหลีใต้ยังถือว่ามีความอนุรักษนิยมอยู่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่การแสดงออกส่วนบุคคลและข้อห้ามทางสังคม ดังนั้นแฟชั่นยุค Y2K หรือได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคนั้น จึงถือว่า “โป๊เกินไป” ในสายตาของเจน MZ 

หญิงสาววัย 23 ปีรายหนึ่งได้ให้สัมกับสำนักข่าว Newsian ว่า “ฉันคิดว่าเสื้อเอวลอย โดยเฉพาะกับ อันเดอร์บู๊บ มันเปิดเผยเนื้อหนังมากเกินไป ฉันคิดว่าการแต่งตัวควรให้เหมาะสมกับทั้งกาละและเทศะ”

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เจน MZ ทุกคนจะไม่ชอบเทรนด์ Y2K หลายคนบอกว่า เทรนด์แฟชั่นนี้ทั้งสดและทันสมัย ขณะเดียวกันก็ได้ปลดปล่อยและมีรสนิยมด้วย

นักศึกษาวัย 20 ปีเปิดเผยกับ E-Today Korea ว่า “มันไม่ผิดเลยที่จะเปิดเผยบางส่วนของร่างกายของคุณด้วยความกล้าหาญ มันคือแฟชั่นที่ไม่เหมือนใคร” ขณะที่หญิงสาวอีกคนเผยว่า เธอรู้สึกดีกับเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน

แม้ว่าแฟชั่น Y2K จะได้รับความนิยมในหมู่ไอดอลและคนดังจนถูกนำไปใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในเกิร์ลกรุ๊ปหลายวง แต่กลับเป็นเทรนด์แฟชั่นที่คนทั่วไปไม่ได้นิยมสวมใส่ เพราะสาธารณชนยังคงตั้งคำถามกับการแต่งกายที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสานี้เป็นการเผยให้เห็นถึงรูปร่างที่สวยงามและเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้หญิง หรือเป็นเพียงการทำให้ผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุทางเพศเท่านั้น

 

แฟชั่น Y2K มีแต่โป๊เปลือย ?

Y2K เป็นยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับยุคก่อน เพราะเป็นยุคที่อินเทอร์เน็ตได้รับความนิยม ผู้คนต่างมีความหวังและมองเทคโนโลยีว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตดียิ่งขึ้น ทำให้เป็นยุคที่ล้ำสมัย และยังมีความย้อนยุคในตัวเอง (เมื่อมองกลับไปจากตอนนี้) แฟชั่นที่โดดเด่นในยุคนี้ นอกจากเสื้อเอวลอยที่มักถูกโจมตีว่าโชว์เรือนร่างมากเกินไปแล้ว ยังมีเสื้อผ้าอีกหลายแบบที่สะท้อนยุค Y2K ได้อย่างดี 

ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นวัสดุสีแวววาว เช่น สีเงิน หรือ สีมุก ที่เข้ากับยุคเทคโนโลยีเฟื่องฟู รวมไปถึงเสื้อยืดขนาดเล็กกว่าตัวที่มีข้อความหรือตัวการ์ตูนน่ารักสกรีนกลางตัวที่มีความยาวอยู่เหนือสะดือ หรือที่เรียกว่าเสื้อยืดเด็ก (Baby Tees) และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไอเทมฮิตของยุคที่ตีคู่มากับมินิสเกิร์ตก็คือกระโปรงพลีตสีสันสดใส ขณะที่กางเกงยีนขาบานก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

ในขณะที่ชุดวอร์มผ้ากำมะหยี่ และ ใส่ยีนทั้งตัวก็กลายเป็นแฟชั่นที่ถูกพูดถึงมาก เนื่องจากบริทย์นี สเปียร์ส ไอคอนในยุคนั้นนิยมใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำนานชุดเดนิมที่สเปียร์สแต่งคู่กับจัสติน ทิมเบอร์เลคในงาน American Music Awards เมื่อปี 2544

ลุคต่าง ๆ ของบริทนีย์ สเปียร์ส ในแฟชั่นยุค Y2K

 

ส่วนกระเป๋าคงไม่มีอะไรได้รับความนิยมไปกว่ากระเป๋าทรงบาแกตต์ (Baguette Bags) กระเป๋าสุดรักสุดหวงของ แครี แบรดชอว์ จากซีรีส์ Sex In The City หนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของยุค ส่วนเครื่องประดับนั้นคงจะหนีไม่พ้นกิ๊บติดผมรูปผีเสื้อที่แฝงไปด้วยความน่ารักและสดใส ซึ่งจะหนีบด้วยกิ๊บเพียงตัวเดียว หรือจะมาเป็นฝูงกระจายทั่วศีรษะก็ย่อมทำได้ หรือจะใช้ผ้าพันคอ (Bandana) มาเป็นผ้าคลุมผมก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะท้อนความเป็น Y2K ได้อย่างดี

ซาราห์ เจสสิกา พาร์กเกอร์ ผู้รับบท แครี แบรดชอว์ จากซีรีส์ Sex In The City มาพร้อมกับกระเป๋าทรงบาแกตต์

 

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรูปแบบแฟชั่นในยุค Y2K เท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่าแฟชั่นในยุคนี้มีความหลากหลายมาก เนื่องจากเป็นยุคแห่งการลองผิดลองถูก และปล่อยใจสนุก ๆ เนื่องจากข่าวลือว่าโลกจะแตกและคอมพิวเตอร์จะล่มสลายในปี 2000 อันที่จริงการแต่งตัวและแฟชั่นก็ควรที่จะเป็นเรื่องที่สนุก ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟชั่นยุค Y2K เท่านั้น ทุกคนมีสิทธิแต่งตัวได้ตามที่ต้องการอยู่แล้ว มิกซ์แอนด์แมตช์ได้ตามต้องการ เพราะแฟชั่นไม่มีผิดไม่มีถูก ตราบที่เรามีความมั่นใจในการใส่ และถูกต้องตามกาลเทศะ

เสื้อผ้ายุค Y2K จากภาพยนตร์เรื่อง Mean Girls

ที่มา:  CNN, Southern China Morning Post, Sun Star, The Cool List, The Trend Spotter