This is SPARTAN! ฝ่าด่านสุดโหดของโคตรคนพันธุ์แกร่ง “SPARTAN Race”

“This is SPARTAN!” ประโยคสุดคลาสสิคจากหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง 300 ที่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน คำพูดของ ลีโอนีดาส (Leonidas) กษัตริย์ยอดนักรบแห่งนครรัฐกรีกสปาร์ตา ยังคงปลุกใจให้ฮึกเหิมได้เสมอ

นอกจากปลุกใจแล้ว ยังสะท้อนความแข็งแกร่ง ดุดัน ตามแบบฉบับของงานแข่ง SPARTAN Race ที่จัดมาแล้วทั่วโลก รวมถึงที่ประเทศไทย ซึ่งสนามที่ผ่านมาคือที่จังหวัดเชียงใหม่ มีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ), จังหวัดเชียงใหม่, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก และสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยร่วมเป็นเจ้าภาพ และกำลังจะระเบิดความมันอีกครั้งที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงปลายปีนี้

สำหรับ SPARTAN Thailand 2022 สนามเชียงใหม่ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12-14 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม มีนักกีฬาพันธุ์แกร่งจากนานาชาติกว่า 30 ประเทศ ตบเท้าเข้าร่วมจำนวนมากถึง 3,000 คน แม้การแข่งจะแบ่งเป็น 2 วัน แต่ก็เนืองแน่นในทุกวัน และถึงแม้แต่ละด่านจะยากแค่ไหน ทุกคนก็พยายามต่อสู้กับความเหนื่อยล้า ความร้อนของไอแดด ความสูงชัน และความหนักหนาสาหัสกว่าจะผ่านอุปสรรคและสิ่งกีดขวางไปได้

การแข่งขันครั้งนี้ประกอบด้วยการวิ่งบนเส้นทางวิบาก ลุยโคลน โหนเชือก ปีนตาข่าย ไต่กำแพง และอีกมากมาย มีการชิงชัย 2 ประเภท คือ SPARTAN Super ระยะ 10 กิโลเมตร และ SPARTAN Sprint ระยะ 5 กิโลเมตร

สำหรับมือใหม่ ประเภท SPARTAN Sprint ระยะ 5 กิโลเมตร ดูจะเหมาะสมที่สุด เพราะถึงแม้จะเป็นระยะเริ่มต้นของ "SPARTAN Race" แต่ก็มีอุปสรรคถึง 20 ด่าน ที่แค่เริ่มต้นก็เปรอะเปื้อนแล้วบนเส้นทางวิ่งวิบากซึ่งเต็มไปด้วยดินโคลนและทางลาดชัน

แต่ความเดือด ความมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่ออุปสรรคแรกตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า นั่นคือกำแพงสูงที่ต้องอาศัยทักษะทั้งการกระโดดและปีนป่ายเพื่อข้ามไปให้ได้ ถือเป็นด่านเรียกน้ำย่อยให้ร่างกายพร้อมรับกับอีกหลากหลายความโหดที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากนั้นทั้งด่านเพื่อทดสอบกำลังใจอย่างการปีนที่สูงที่แม้หลายคนจะผ่านไปได้ แต่ก็เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับคนที่กลัวความสูง หรือจะเป็นด่านที่ท้าทายความแข็งแกร่งของร่างกาย เช่น การแบกของหนักซึ่งไม่ได้มีแค่ด่านเดียว หากร่างกายใครไม่แกร่งจริงก็อาจต้องยอมทิ้งแล้วไปรับบทลงโทษที่เรียกว่า “เบอร์พี (Burpee)” หรือท่าพุ่งหลังที่เหมือนจะง่ายแต่ก็เรียกเหงื่อกับบั่นทอนเรี่ยวแรงไปได้เยอะทีเดียว

นอกจากแบกของหนัก ร่างกายยังต้องถูกทดสอบด้วยอีกสารพัดด่าน อาทิ การไต่เชือกที่ถ้าคุณไม่มีกล้ามเนื้อแขนที่แกร่งจริงก็ต้องมีเทคนิคเพื่อไต่เชือกขึ้นไปตีระฆังที่บนสุดให้ได้ หรือจะเป็นการไต่กำแพงในแนวขวางที่ต้องใช้มือที่ทรงพลัง หรือการขว้างหอกให้เข้าเป้า ที่เหมือนจะไม่ยาก และเป้าก็อยู่ใกล้แค่นิดเดียว แต่ถ้าไม่รู้เทคนิค ไม่มีพละกำลัง แค่จะปาหอกหนักๆ ไปให้ถึงเป้าก็ยากมากๆ แล้ว แต่นักกีฬาหลายคนก็ทำได้ด้วยกำลังกายและพลังใจ

บางด่านที่เป็นเสมือนสีสัน (สีโคลน) อย่างการลอดลวดหนาม ไม่ยากนักแต่ได้เลอะกันทุกคนแน่นอน เมื่อผ่านด่านประเภทนี้ไปได้ก็เหมือนประทับตราบนร่างกายและเสื้อผ้าว่าคุณได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ "SPARTAN Race" แล้ว

ไม่ว่าจะต้องเลอะเทอะเปรอะเปื้อน, แบกของ ลากของหนัก หรือเหน็ดเหนื่อยจากด่านสุดโหดแค่ไหน แต่สุดท้ายที่กองไฟซึ่งกำลังลุกโชน ที่ตรงนั้นคือเป้าหมายให้ทุกคนกระโดดข้ามผ่าน เป็นสัญญะว่าทุกคนได้พิชิตอุปสรรคของ "SPARTAN Race" ได้สำเร็จแล้ว

ถึง "SPARTAN Race" จะขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งขันที่โหดติดอันดับโลก แต่สังเกตได้ว่าท่ามกลางความเอาจริงเอาจังของนักแข่ง ท่ามกลางคราบดินคราบโคลน จะมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าอยู่เสมอ

ใครอยากพิสูจน์ตัวเองว่าจะเป็นหนึ่งในคนพันธุ์แกร่งได้หรือไม่ การแข่งขันสนามต่อไปจะจัดขึ้นที่ Blue Tree Phuket ในรายการ PHUKET – Spartan Asia Pacific Championship ในวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2565 รายละเอียดการสมัคร ที่นี่

แล้วไปส่งเสียง “AROO!” แบบนักรบสปาตั้นด้วยกัน

 

(สนับสนุนการเดินทางโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)