"พิพัฒน์" ตื๊อของบ 2 พันล้าน กระตุ้น "ท่องเที่ยว-กีฬา" ดันรายได้ 1.5 ล้านล้าน
“กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เตรียมเสนอของบประมาณจากรัฐบาล ภายใต้มาตรการ “Booster Shot” (บูสเตอร์ช็อต) ซึ่งเปรียบเสมือนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ “ภาคการท่องเที่ยวและกีฬา” วงเงินรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณก้อนแรก บูสเตอร์ช็อตกระตุ้น “ภาคท่องเที่ยว” ประมาณ 1,000 ล้านบาท มุ่งส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มความถี่และจำนวนที่นั่งในเส้นทางบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศกลับมาไม่น้อยกว่า 50% รวมถึงการจัดงานโรดโชว์ส่งเสริมการขายในประเทศต่างๆ และกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทย
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่า การของบประมาณบูสเตอร์ช็อตกระตุ้นภาคท่องเที่ยว 1,000 ล้านบาทนั้นคุ้มค่า! เมื่อแลกกับรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 300 เท่าจากงบฯที่ขอไป!!
“มั่นใจว่าถ้าได้งบประมาณก้อนนี้ จะทำให้รายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2565 ไปถึงเป้าหมาย 1.5 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องเบ่งยอดให้ถึง 12 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากแนวโน้มรายได้รวมฯซึ่งน่าจะปิดที่ 1.2 ล้านล้านบาทเท่านั้น ในกรณีที่ไม่ได้งบประมาณบูสเตอร์ช็อตมาช่วยกระตุ้น”
โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากตนได้นำคณะผู้ประกอบการภาคเอกชนท่องเที่ยว 20 ราย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือข้อเสนอของภาคเอกชน เกี่ยวกับแนวทางการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทย ภายใต้มาตรการ “ABC ฟื้นฟูประเทศ และพลิกโฉมการท่องเที่ยว”
ประกอบด้วย 1.มาตรการ A : Accelerate Travel & Tourism Spending เร่งรัดให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่นานขึ้น โดยเสนอให้ “ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า” เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปี 2565 และขอขยายระยะเวลาพำนักออกไปเป็นสูงสุด 45 วัน นายกฯมอบหมายให้ไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)
2.มาตรการ B : Booster Shot เพื่อหมุดหมายในการฟื้นประเทศ “เราฟื้นด้วยกัน” ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ทางนายกฯได้สั่งการให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปหารือเรื่องการจัดหางบประมาณกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในส่วนนี้จะต้องของบประมาณเพิ่มเติม โดยตนมองว่าสามารถของบฯจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ ได้ ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินคงเหลือราว 7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท.จะเร่งจัดทำข้อมูลมาตรการและงบประมาณที่ต้องใช้ เพื่อนำเสนอต่อนายกฯ ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ให้สามารถออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวได้เร็วที่สุด
“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตั้งแต่เข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านสภาพัฒน์หลายต่อหลายโครงการแล้ว ไม่เคยมีสักโครงการเลยที่ผ่านการพิจารณา และไม่เคยได้เงินสนับสนุนการดำเนินโครงการเลย ยกเว้นโครงการของ ททท.ที่ได้รับการสนับสนุนจากสภาพัฒน์ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่ครั้งนี้จะลองอีกครั้งเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวได้ เผื่อสภาพัฒน์จะเข้าใจกลไกการทำงานของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นำไปสู่การพิจารณางบประมาณเงินกู้ให้มากระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว”
และ 3.มาตรการ C : Cost-effectiveness สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิผล ลดต้นทุน เพิ่มสภาพคล่อง ส่งเสริมขีดความสามารถในระยะยาว โดยผ่อนผัน แก้ไขระเบียบ คำสั่ง หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราว ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเหมาะสมและยืดหยุ่น ต้องไปหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนงบประมาณบูสเตอร์ช็อตก้อนที่ 2 สำหรับกระตุ้น “ภาคการกีฬา” อีก 1,000 ล้านบาทนั้น จะของบพิเศษต่างหากจาก “กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ” เพื่อนำมากระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) เช่น จัดการแข่งขันกีฬาในประเทศ บางงานผนึกความร่วมมือกับ ททท. เพื่อสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวเชิงกีฬา ให้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศปี 2565 ไปถึงเป้าหมาย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7 แสนล้านบาท
“ทั้งนี้ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แล้ว ทางรองนายกฯบอกว่าให้ไปดูว่ามีเงินในกองทุนนี้เหลือเท่าไร ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีเงินเหลืออยู่เป็นหมื่นล้านบาท”
สำหรับการจัดงานแข่งขันกีฬาระดับไฮไลต์ที่จะนำงบประมาณบูสเตอร์ช็อตภาคการกีฬามาสนับสนุน ยกตัวอย่าง 3 งาน เช่น 1.การแข่งขันโมโต จีพี (Moto GP 2022) ที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-2 ต.ค.นี้ 2.การแข่งขันวิ่งเทรล “Doi Inthanon Thailand By UTMB 2022” ระหว่างวันที่ 8-11 ธ.ค.นี้ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
และ 3.การแข่งขันวิ่งเทรลชิงแชมป์โลก รายการ “Amazing Thailand World Mountain & Trail Running Championships” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย.นี้ ณ ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ มี ททท.ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน คาดมีนักวิ่งเทรลทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 3,000 คนจาก 60 ประเทศ แบ่งเป็นนักวิ่งเทรลชาวไทยไม่เกิน 200 คน และนักวิ่งเทรลชาวต่างชาติประเทศละ 50-60 คน