เผยภาพ! ยาน DART พุ่งชน "ดาวเคราะห์น้อย" Dimorphos จบภารกิจซ้อมปกป้องโลก
เผยภาพ! ยานอวกาศ DART พุ่งชน "ดาวเคราะห์น้อย" Dimorphos ด้วยความเร็วกว่า 22,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จบภารกิจซ้อมปกป้องโลกอย่างเสร็จสมบูรณ์
เมื่อเวลา 06:16 น.ของเช้าวันนี้(27 กันยายน 2565) ตามเวลาประเทศไทย ยานอวกาศ DART ได้พุ่งชนเข้ากับ "ดาวเคราะห์น้อย Dimorphos" ด้วยความเร็วกว่า 22,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้ยาน DART ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง และสามารถส่งข้อมูลภาพถ่ายในเสี้ยววินาทีสุดท้ายกลับมาได้สำเร็จ นับเป็นการสิ้นสุดภารกิจของ DART อย่างเสร็จสมบูรณ์ในภารกิจซ้อมปกป้องโลก
ภาพที่เห็นนี้เป็นซีรีส์ภาพถ่ายสุดท้ายของ ยานอวกาศ DART หรือ Double Asteroid Redirection Test ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนที่จะชนเข้ากับพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อย Dimorphos และตัวยานก็ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิงในระหว่างการส่งข้อมูลภาพสุดท้ายกลับมาได้สำเร็จ
แต่การพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยครั้งนี้กลับเป็นเรื่องที่น่ายินดีของเหล่าวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์มากมายที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เนื่องจากเป็นการชนกันตามที่วางแผนเอาไว้ และนับเป็นการสิ้นสุดภารกิจของยาน DART และยังเป็นจุดเริ่มต้นอีกมากของการศึกษาที่จะตามมาในภายหลัง
ภารกิจ DART นี้ เป็นภารกิจที่ออกแบบมาเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการป้องกันภัยอันตรายจากดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก เช่นเดียวกับที่เราอาจจะคุ้นเคยในภาพยนต์ดัง ๆ มากมาย เช่น Armageddon , Deep Impact หรือ Don’t Look Up ที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่วันหนึ่งอาจจะมีอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก
ในความเป็นจริงเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าอุกกาบาตนั้นสามารถพุ่งชนโลกได้ ในแต่ละปีมีอุกกาบาตที่ตกลงมาถึงพื้นโลกด้วยกันกว่า 17,000 ดวง แต่อุกกาบาตส่วนมากนั้นเล็กเกินกว่าที่จะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้ และส่วนมากมักจะตกลงในมหาสมุทร หรือพื้นที่อันห่างไกลที่ไม่มีคนอาศัยอยู่
แต่ทั้งนี้ก็จะมีอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่กว่านั้น ที่อาจจะสามารถทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกได้เป็นวงกว้าง เช่นเดียวกับเมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว ที่อุกกาบาตขนาด 10-15 กิโลเมตร พุ่งชนเข้ากับคาบสมุทรยูคาทาน ในประเทศเม็กซิโกปัจจุบัน ก่อให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป และเปลี่ยนโฉมหน้าของสิ่งมีชีวิตบนโลกไปโดยตลอดกาล
ไม่ช้าก็เร็วอาจจะมีอุกกาบาตลูกใดลูกหนึ่งที่กำลังจะพุ่งมาชนกับโลกของเรา ทุกวันนี้เรามีโครงการและกล้องโทรทรรศน์มากมายที่สังเกตการณ์และคอยติดตามหาอุกกาบาตที่อาจจะเป็นภัยต่อโลกได้ในอนาคต ซึ่งสามารถช่วยค้นหาอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่อาจจะ "ทำลายล้างโลก" ได้เป็นอย่างดี และยิ่งเทคโนโลยีการสังเกตการณ์ที่ดีขึ้นเราอาจจะสามารถพบกับอุกกาบาตขนาดเล็กกว่าที่อาจจะชนกับโลกและทำความเสียหายในระดับที่เล็กกว่าได้ในอนาคตอันใกล้
แนวคิดหนึ่งที่จะป้องกันภัยจากอุกกาบาตเหล่านี้ก็คือ การส่งยานอวกาศเข้าไปพุ่งเช้าชนกับดาวเคราะห์น้อย เพื่อเปลี่ยนวิถีการโคจรของมัน และภารกิจหลักของ DART ก็คือการสำรวจความเป็นไปได้นี้ โดยการนำยานอวกาศพุ่งชนเข้ากับดวงจันทร์บริวาร Dimorphos ที่โคจรรอบ ๆ ดาวเคราะห์น้อย Didymos ซึ่งหากภารกิจสำเร็จไปได้ด้วยดี นักวิทยาศาสตร์จะสามารถสังเกตและวัดการเปลี่ยนแปลงวิถีการโคจรได้จากคาบและรัศมีวงโคจรที่เปลี่ยนไปของดาวเคราะห์น้อยบริวารดวงนี้ เนื่องจากการชนกันนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนวิถีวงโคจรของดาวบริวาร จึงไม่มีอันตรายใด ๆ ที่อาจจะเป็นภัยต่อโลกในอนาคตอย่างแน่นอน
โดยต่อจากนี้นักวิทยาศาสตร์จะคอยศึกษาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการพุ่งชน กล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นโลกกว่า 40 กล้อง รวมทั้งกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล และกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ จะคอยศึกษาวิถีวงโคจรที่เปลี่ยนไปของระบบดาวเคราะห์น้อยหลังจากการพุ่งชน นอกจากนี้ยังมี LICIACube ยานอวกาศขนาดเล็ก ที่ถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับ DART ที่จะคอยศึกษาฝุ่นที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชนครั้งนี้
ภารกิจของ DART นี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้มีการทดสอบระบบป้องกันภัยอันตรายจากอุกกาบาตนอกโลก ซึ่งภารกิจเช่นนี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจระบบนำทาง ความท้าทายในการสร้างยานอวกาศที่จะไปพุ่งชน พร้อมทั้งช่วยทดสอบและยืนยันหลักการของระบบป้องกันภัยอันตรายจากนอกโลกในอนาคต
ข้อมูลโดย ดร. มติพล ตั้งมติธรรม นักวิชาการดาราศาสตร์ สดร.