ยลโฉม "ดาวพฤหัสบดี" ใกล้โลกที่สุดในรอบ 59 ปี

"ดาวพฤหัสบดี" ใกล้โลกที่สุดในรอบ 59 ปี อวดโฉมเหนือฟ้าเมืองเชียงใหม่ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า
เมื่อเวลา 05.30 น. วันนี้ (28 กันยายน 2565) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยภาพของ "ดาวพฤหัสบดี" โคจรใกล้โลกที่สุดในรอบ 59 ปี โดยบันทึกผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.4 เมตร ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา
นับเป็นโอกาสดีที่จะสังเกตดาวพฤหัสบดีในช่วงนี้ที่ปรากฏชัด สุกสว่างทางทิศตะวันออกในช่วงหัวค่ำ สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า
นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. กล่าวว่า ปรากฏการณ์ "ดาวพฤหัสบดีใกล้โลก" ในวันที่ 27 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นการโคจรเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบ 59 ปี นับตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2506 มีระยะทางห่างจากโลกประมาณ 591 ล้านกิโลเมตร
ในวันดังกล่าวสามารถสังเกตเห็นดาวพฤหัสบดีได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าจนถึงรุ่งเช้า หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 30 เท่าขึ้นไป เห็นแถบเมฆบนดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์บริวารทั้ง 4 ดวงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีดาวเสาร์ปรากฏสว่างถัดจากดาวพฤหัสบดีไปทางทิศตะวันตกอีกด้วย
สำหรับบรรยากาศกิจกรรมสังเกตการณ์ "ดาวพฤหัสบดีใกล้โลก" ที่จุดสังเกตการณ์หลัก ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ท้องฟ้าเป็นใจ ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดาวพฤหัสบดีปรากฏอวดโฉมให้เห็นชัดเจนทางทิศตะวันออก สามารถมองเห็นชัดด้วยตาเปล่า
แต่เมื่อมองผ่านกล้องโทรทรรศน์จะเห็นแถบเมฆและดวงจันทร์บริวารครบ 4 ดวง ได้แก่ ไอโอ, ยูโรปา, แกนิมีด, คัลลิสโต ได้อย่างชัดเจน ขณะที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีเมฆมาก จึงไม่สามารถสังเกตการณ์ได้
หลังจากนี้ "ดาวพฤหัสบดี" จะยังคงปรากฏบนท้องฟ้าในช่วงค่ำคืนจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และจะเข้ามาใกล้โลกครั้งต่อไปในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566
นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2565 ยังมีปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตามอีกหลายปรากฏการณ์ อาทิ จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 8 พฤศจิกายน, ดาวอังคารใกล้โลกในวันที่ 1 ธันวาคม และฝนดาวตกเจมินิดส์ในวันที่ 14 ธันวาคม ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
ข่าวโดย มานิตย์ สนับบุญ จ.ปราจีนบุรี