ปักหมุดด่วน! เช็กอิน@"อุทยานแห่งชาติน่าเที่ยวช่วงหน้าหนาว" ที่ไม่ควรพลาด
ในช่วงฤดูหนาวและใกล้เทศกาลปีใหม่ แบบนี้หลายๆ คนคงกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แนะนำ "7 อุทยานแห่งชาติ"ให้ทุกคนได้ม สัมผัสกับอากาศหนาวๆ บนยอดดอย ตื่นมาชมพระอาทิตย์ยามเช้า ทิวทัศน์ ดอกไม้ป่านานาชนิด
"อุทยานแห่งชาติ" ในประเทศไทยปัจจุบันมี 131 แห่งตามที่มีราชกิจจานุเบกษาแล้ว และพื้นที่เตรียมการอีก 23 แห่ง รวม 154 แห่ง ซึ่งในจำนวนอุทยานแห่งชาติทั้งหมด วันนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" เอาใจคนรักธรรมชาติ ชอบเที่ยวป่าเขา สูดอากาศดีๆ ใช้ชีวิตท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว และสัตว์ป่า ไปกับ 7 อุทยานแห่งชาติในภาคเหนือที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป เริ่มด้วย
1.อุทยานแห่งชาติขุนน่าน จังหวัดน่าน
อุทยานแห่งชาติขุนน่าน เป็นอุทยานฯ ที่ตั้งอยู่ใน จังหวัดน่าน อำเภอบ่อเกลือ โดยมีพื้นที่ครอบคลุม ตั้งแต่ ป่าดอยภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบลภูฟ้า รวมแล้วมีพื้นที่ประมาณ 153,982 ไร่ หรือประมาณ 246.37 ตารางกิโลเมตร
มีเทือกเขาที่สำคัญ คือ เทือกเขาภูฟ้า เทือกเขาขุนน้ำว้าน้อย เทือกเขาน้ำว้ากลาง และเทือกเขาผีปันน้ำ ซึ่งมี ยอดเขาผีปันน้ำ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุด อยู่ที่ประมาณ 1,745 เมตร โดยภายใน อุทยานแห่งชาติขุนน่าน เต็มไปด้วยที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะน้ำตกสวยๆ ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ หนึ่งในนั้นก็คือ น้ำตกสะปัน นั่นเอง รวมไปถึงมีจุดชมวิวด้านตะวันออกและตะวันตก และสามารถนอนกางเต็นท์ชมดาวในตอนกลางคืนได้อีกด้วย
นอกจากนั้น วิวสวยๆ ของ อุทยานแห่งชาติขุนน่าน แห่งนี้ จะสามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านสะปันมุมสูงได้สวยงดงามมากๆ และมีเทือกเขาหลวงพระบางอยู่ด้านหลัง ส่วนบริเวณลานกางเต็นท์ ช่วงต้นปีเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ สามารถมาชมดอกพญาเสือโคร่งได้อีกด้วย แต่ถ้าไปช่วงปลายฝนต้นหนาวสามารถเห็น ต้นก่วมภูคา ที่คล้ายกับใบเมเปิล บอกเลยว่าไปแต่ละช่วง ไหนก็ Happy สุดๆ ไปเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
น่านจัดใหญ่งานมหกรรม "ส้มสีทอง" และของดีเมืองน่าน 23-25 ธ.ค.65
ปีใหม่ 2566 รถไฟเพิ่ม 6 ขบวนรถพิเศษรับการเดินทาง เริ่มจองตั๋ววันนี้ เช็กเลย
สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ อากาศหนาวที่ไม่ควรพลาด
หากใครชอบดูสัตว์ป่า ก็สามารถชมได้ในบริเวณของอุทยานแห่งชาติขุนน่าน มีตั้งแต่ เก้ง เลียงผา หมูป่า ชะมด หมี เม่น กระรอก กระแต ไก่ป่า เป็นต้น และชนิดพันธุ์ไม้มีมากมายเช่นกัน ทั้งก่อเดือย ก่อแป้น ก่อน้ำ ก่อตาหมู ก่อนก กำลังเสือโคร่ง มณฑาป่า จำปีป่า หว้า ผักกูด มอส กล้วยไม้ดิน ยาง กระบาก มะหาด มะยมป่า ไผ่บง ไผ่ฮก หวาย ตาว ฯลฯ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าแบบนี้ ผู้ไปเยือนนักท่องเที่ยวแบบเราๆ อิ่มเอมใจเมื่อได้สัมผัส แต่อย่าลืมปฏิบัติตามกฎของอุทยานฯ
- การเดินทาง ไป อุทยานแห่งชาติขุนน่าน
ถ้าตรงมาจากตัวเมืองน่าน ก็ให้ใช้ถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 1080 (น่าน-ทุ่งช้าง) พอถึงอำเภอปัวก็ให้แยกขวาไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-ดอยภูคา-บ่อเกลือ) และพอถึงทางแยกที่อำเภอบ่อเกลือ ก็ให้เลี้ยวซ้ายไป ไม่นานก็จะเจอทางแยกด้านขวามือ จะเจอกับทางเข้าที่ทำการ อุทยานแห่งชาติขุนน่าน ค่ะ
- ข้อมูล อุทยานแห่งชาติขุนน่าน
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
ที่อยู่ : ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
โทร : 09-6697-6954
2.อุทยานแห่งชาติดอยจง จังหวัดลําปาง
อุทยานแห่งชาติดอยจง อยู่ในท้องที่อำเภอสบปราบ อำเภอเถิน อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง และอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีพื้นที่ประมาณ 207,500 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 133 ของประเทศไทย
โดยทั่วไปของอุทยาน เป็นเทือกเขาสูงต่ำสลับซับซ้อนตามแนวเทือกเขาถนนธงชัย ทอดตัวยาวจากทิศเหนือไปทางทิศใต้ ยาวประมาณ 40 กิโลเมตร มีความสูงระหว่าง 270-1,379 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มียอดดอยจงเป็นยอดเขาสูงที่สุดในพื้นที่ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,379 เมตร เป็นแหล่งกำเนิดลำห้วยสำคัญหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังทางจังหวัดลำปาง และแม่น้ำปิงทางจังหวัดลำพูน โดยฤดูหนาว เริ่มต้นตั้งแต่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศเย็นและหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 4 องศาเซลเซียส
- พืชพรรณและสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติดอยจง
ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยจง ประกอบด้วยสภาพป่าหลายชนิด ได้แก่ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดิบเขา นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสชื่นชมพรรณไม้ที่ปกคลุมหนาแน่นสองฟากถนน นอกจากนี้ยังมีที่ราบกว้างซึ่งมีป่าสนเขาขึ้นกระจายเป็นกลุ่ม ๆ และมีหน้าผาเป็นจุดชมทิวทัศน์อยู่หลายแห่ง สามารถชมทิวทัศน์ได้ทั้งยามดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าในยามเช้าและลับขอบฟ้าในยามเย็น
ไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างบนดอยจง คือ ดอกกล้วยไม้นานาพรรณ โดยเฉพาะ กล้วยไม้ฟ้ามุ่ย (Vanda Coerulea) เป็นกล้วยไม้ของไทยชนิดเดียวในโลกที่มีสีน้ำเงินฟ้าอมม่วงสดใส ซึ่งเป็นสีที่งดงามแปลกกว่าฟ้ามุ่ยในพื้นที่อื่น ถือว่าเป็นสีที่หายากและมีขนาดใหญ่ เป็นช่อตั้งสวยงามสะดุดตา
เส้นทางส่วนใหญ่ในอุทยานดอยจงเป็นทางชัน ขึ้นเขา เหมาะสำหรับนักเดินป่า ปีนเขา ที่รักธรรมชาติ ต้องการมาท้าทายขีดความสามารถของตัวเอง
- แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่
ดอยจง : เป็นดอยที่สูงที่สุด เคยเป็นสถานีโทรคมนาคมของกองทัพอากาศมาก่อน
ผากาน : อยู่ห่างจากยอดดอยจงประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นทางดิ่งลงเขาตลอด เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับดูนก
ผาข้าง : อยู่ตรงข้ามที่ทำการอุทยานฯ เป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยอง
นอกจากนี้ยังมีถ้ำและน้ำตกอื่น ๆ ที่สำรวจพบ แต่ยังไม่ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น น้ำตกห้วยแม่ปู น้ำตกห้วยค่าง ผายอง ถ้ำห้วยแดง ถ้ำก้นหอย และถ้ำแม่เก่ง เป็นต้น
- ที่พักในอุทยานแห่งชาติดอยจง
ทางอุทยานยังไม่มีบ้านพักและร้านอาหารเอาไว้บริการนักท่องเที่ยว แต่มีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ หากสนใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยาน นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์และอาหารไปเอง หรือติดต่อขอใช้บริการเต็นท์ของอุทยานได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยจง -Doi Chong National Park โทรศัพท์ 08-1724-6732
- ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติดอยจง
ในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติดอยจงจะมีค่าธรรมเนียมดังนี้
ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท / เด็ก คนละ 10 บาท / ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฟรี
รถยนต์ คันละ 30 บาท / มอเตอร์ไซค์ คันละ 20 บาท / จักรยาน ฟรี
- การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยจง
สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ มีเส้นทางไปอุทยานแห่งชาติดอยจง โดยเริ่มต้นที่จังหวัดลำปาง จากอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ลงไปทางใต้ประมาณ 54 กิโลเมตร ถึงที่ว่าการอำเภอสบปราบ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนกรมโยธาธิการสายบ้านหล่าย-บ้านแก่น เมื่อถึงบ้านนาไม้แดง จากถนนพหลโยธิน ประมาณ 8 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยจง รวมระยะทางจากอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยจง ประมาณ 68 กิโลเมตร
- ข้อมูล อุทยานแห่งชาติดอยจง
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยจง เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
ที่อยู่ : หมู่ 6 บ้านนาไม้แดง ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง
โทรศัพท์ : 08-1724-6732
เว็บไซต์ : อุทยานแห่งชาติดอยจง -Doi Chong National Park
3.อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน อุทยานที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดทั้งปี และที่เป็นไฮไลท์ของดอยภูคาเลยก็คือ ดอกชมพูภูคา ที่จะบานช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และยังต้นไม้หายากที่มีที่นี่ที่เดียวในเมืองไทย นอกจากนี้ทางอุทยานฯ ยังมีบ้านพักและพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว หน้าหนาวที่จะถึงนี้ ลองหนีมาเที่ยว มาสูดโอโซนให้เต็มปอดและมานอนที่ดอยภูคากันสักคืน รับรองความฟินที่ต้องมาสัมผัสให้ได้สักครั้ง
เส้นทางมายังอุทยานฯดอยภูคาเป็นอีกหนึ่งเส้นทางถนนสวย ที่เรียกว่า ถนนลอยฟ้า ที่สามารถเห็นวิวภูเขาที่สลับซับซ้อนที่ยิ่งใหญ่ไกลสุดสายตา
อุทยานแห่งชาติดอยภูคามีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่ 8 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ อำเภอแม่จริม ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 1,704 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,065,000 ไร่ จึงทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าอันจะเห็นได้จากการพบพืชพรรณ และสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิด และนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดน่าน
ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ทุ่งหญ้า และ ป่าสนธรรมชาติ เป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ ชมพูภูคา (Bretschneidera sinesis Hemsl.) ในเขตป่าดิบเป็นแหล่งต้นเต่าร้างยักษ์ ปาล์มดึกดำบรรพ์ เมเปิ้ลใบ 5 แฉก ต่างจากเมเปิ้ลที่อื่นซึ่งมี 3 แฉก และยังเป็นแหล่งนกเฉพาะถิ่นที่หายากสองชนิด คือ นกมุ่นรกคอแดง และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย
- สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่
ถ้ำผาแดง, ถ้ำผาผึ้ง เป็นถ้ำที่มีความสวยงามและยาวมากที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา (บ้านมณีพฤกษ์) อ.ทุ่งช้าง ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และยังมีน้ำตกและลำธารขนาดใหญ่ภายในถ้ำอีกด้วย นอกจากนี้ที่บ้านมณีพฤกษ์นี้ยังสามารถชมดอกชมพูภูคาซึ่งจะบานในราวเดือน กุมภาพันธ์ได้ด้วย
ถ้ำผาฆ้อง เป็นถ้ำขนาดกลางบริเวณปากถ้ำจะมีขนาดเล็ก ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย และลำธารไหลผ่าน แต่ช่วงฤดูฝนไม่สามารถเข้าชมได้ เนื่องจากอาจมีน้ำท่วมในถ้ำอยู่ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 7 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 2 กม.
น้ำตกต้นตอง เป็นน้ำตกหินปูน มี 3 ชั้น อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
น้ำตกศิลาเพชร น้ำตกลงมาจากหน้าผาหลายชั้นลดหลั่นกันไป เหมาะกับการเล่นน้ำ น้ำตกศิลาเพชรอยู่ที่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 71 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 สายน่าน-ปัว ก่อนถึงอำเภอปัว ตรงหลักกิโลเมตรที่ 41-42 มีทางแยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 1170 ไปประมาณ 10 กิโลเมตร
น้ำตกภูฟ้า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ และมีความสวยงามมาก หลายชั้น มีกิจกรรมปีนผา อยู่ในอ.แม่จริม การเดินทางเข้าไปยากลำบากจะต้องเดินเท้าประมาณ 2 วัน
น้ำตกตาดหลวง บ้านทุ่งเฮ้า อ.ปัว และเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลาพลวง
ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นเส้นทางล่องแก่งระดับ 3-5 ประมาณ 20 กว่าแก่ง เป็นสุดยอดแห่งความตื่นเต้นสนุกสนานช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่งอยู่ ระหว่างเดือน ส.ค.-ธ.ค.
ยอดดอยภูแว เป็นยอดดอยที่มีวามสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร มีลักษณะโดดเด่นเป็นทุ่งหญ้าบนดอย อีกทั้งยังมีลานหินและหน้าผาสูงชันอีกด้วย และมีพรรณไม้เฉพาะถิ่นและพรรณไม้หายาก เช่น ค้อ กุหลาบพันปี ฯลฯ ในช่วงฤดูหนาว(พ.ย.-ก.พ.)นั้นจะมีความสวยงามมาก
เส้นทางศึกษาธรรมชาติชมพูภูคา ดอยภูคานับเป็นบ้านแห่งสุดท้ายของต้นชมพูภูคาพันธุ์ไม้หิมาลัย ดร.ธวัชชัย สันติสุข ผู้เชี่ยวชาญพฤกษศาสตร์ป่าไม้ กรมป่าไม้ เป็นผู้สำรวจพบเป็นครั้งแรกในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ชมพูภูคาจะผลิดอกตามปลายกิ่งเป็นช่อสีชมพูยาว 30-35 เซนติเมตร เมื่อบานจะทำให้ช่อดอกเป็นพุ่มสวยงาม ชมพูภูคาเป็นพันธุ์ไม้ที่เคยมีการสำรวจพบตามหุบเขาแถบมณฑลยูนนานทางตอนใต้ ของประเทศจีนและทางเหนือของเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบพืชชนิดนี้อีก พื้นที่ป่าดิบเขาดอยภูคาจึงอาจเป็นแหล่งกำเนิดสุดท้ายของชมพูภูคา ซึ่งเป็นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งในโลก จุดชมต้นชมพูภูคาที่เข้าถึงง่ายที่สุดจะอยู่ริมถนนห่างจากที่ทำการไป 5 กิโลเมตร
- การเดินทาง ไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
โดยรถยนต์จากที่ทำการอุทยานฯ ไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทางประมาณ 63 กม. และเดินทางขึ้นยอดดอยภูแวประมาณ 8 กม. และมีลูกหาบไว้บริการ
การเดินทาง จากจังหวัดน่าน โดยทางรถยนต์ไปตามทางหลวงหมายเลข 1080 ถึงอำเภอปัว ระยะทาง 60 กิโลเมตรแยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ระยะทาง 25 กิโลเมตร
ผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสามารถใช้บริการรถ สองแถวสีน้ำเงินสายปัว-บ่อเกลือ ซึ่งผ่านหน้าอุทยานฯ วิ่งบริการระหว่างเวลา 07.30-14.00 น. ท่ารถอยู่บริเวณสามแยกปัว-บ่อเกลือ
- สิ่งอำนวยความสะดวก ในบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
สถานที่สำหรับตั้งเต็นท์พักแรม บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และลานดูดาวซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ได้ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ตามถนนสายปัว-บ่อเกลือ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรในบริเวณพื้นที่กางเต็นท์ทั้ง 2 แห่งนี้มีห้องน้ำ ห้องสุขาไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว
จองบ้านพักที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 ป่าไม้จังหวัดน่าน โทร. 0 5471 0815 หรือ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0 1224 0789, 0 5470 1000 ตู้ปณ . 8 ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120 หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่ http://www.dnp.go.th
ข้อมูลอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ที่อยู่ :ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120
โทร: 082-194-1349, 054-731-623
เว็บไซต์ :https://www.facebook.com/profile.php?id=100067849770542
4.อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จังหวัดน่าน
อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จะครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองน่านและอำเภอบ้านหลวง รวมทั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ สภาพป่ารอบๆ ค่อนข้างมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งอดีตเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เกิดขึ้น
ส่วนที่เที่ยวสำคัญๆ ของ อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จะมีทั้ง น้ำตกสันติสุข น้ำตกสองแคว น้ำตกห้วยพริก จุดชมวิวดอยผาจิ ดอยผาช้าง และ ดอยวาว ฯลฯ
อุทยานฯ ก็บริการทั้งบ้านพักเป็นหลังๆ และ จุดกางเต็นท์นอน ให้เราได้ซับซึมบรรยากาศของธรรมชาติรอบๆ กัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมไปชมวิวกันที่ ดอยผาจิ เพราะเป็นดอยที่มีความสวยงาม และมีธรรมชาติมากมาย ที่นี่เลยเป็นจุดที่ห้ามพลาดในการมา อุทยานแห่งชาตินันทบุรี นั่นเองค่ะ อีกทั้งบริเวณใกล้ๆ ยังมีชุมชนอาศัยอยู่ด้วย เลยสามารถชมวิถีชีวิตเพลินๆ
ข้อมูล อุทยานแห่งชาตินันทบุรี น่าน
เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
ที่อยู่ : 289 หมู่ 7 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
โทร : 08-9999-2420, 08-0131-1395
เว็บไซต์ : https://th-th.facebook.com/NanthaburiNationalPark/
5.อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อของ 3 จังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ เป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติแปลก และสวยงาม ทั้งยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์เป็นยุทธภูมิ ที่สำคัญ อันเนื่องจากความขัดแย้งของลัทธิ และแนว ความคิดทางการเมือง
อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า จึงเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่รักษาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ ของการสู้รบและความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์
เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นอุทยานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีสภาพธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาผิดจาก อุทยานแห่งชาติโดยทั่วไป
- สถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ อาทิ
ลานหินแตก อยู่ห่างจากฐานพัชรินทร์ ประมาณ 300 เมตร ลักษณะเป็นลานหินที่มีอาณาบริเวณ ประมาณ 40 ไร่ ลานหินมีรอยแตกเป็นแนว เป็น ร่อง เหมือนแผ่นดินแยก
ลานหินปุ่ม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กม. อยู่ริมหน้าผา ลักษณะลานหินซึ่ง มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่า เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน
ผาชูธง อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 500เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง ไกลโดยเฉพาะภาพวิวพระอาทิตย์ตกดิน
น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ห่างจากโรงเรียนการเมืองการทหารและกังหันน้ำประมาณ 600 เมตร มีทางแยกเดินลงน้ำตก ระยะทางประมาณ 400 เมตร จะถึง น้ำตกร่มเกล้าก่อน และเดินลงไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเป็นน้ำตกภราดร ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำตกร่มเกล้า เกิดจากลำธาร เดียวกันแต่มีความสูงน้อยกว่าและกระแสน้ำแรงกว่า
น้ำตกศรีพัชรินทร์ ตั้งชื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารค่ายศรีพัชรินทร์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นทหารหน่วยแรกที่ขึ้นมาบนภูหินร่องกล้า น้ำตกศรีพัชรินทร์มี ความสูงประมาณ 20 เมตร มีลักษณะคล้าย น้ำตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่ แต่มีขนาดเล็กกว่าบริเวณน้ำตก มีแอ่งขนาดใหญ่เหมาะสำหรับ เล่นน้ำ
- สิ่งอำนวยความในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
มีบ้านพัก บริการจำนวน 9 หลัง พักได้หลังละ 5-7 คน ราคา 1,000-1,600 บาท/คืน
เต็นท์ขนาด 20 คน ราคา1,000 บาท/คืน
มีค่ายพัก ศูนย์บริการพักผ่อนท่องเที่ยว ร้านอาหาร และสถานที่ สำหรับกางเต็นท์ ไว้บริการ
- การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
นิยมใช้ทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก ถึงสามแยกบ้านแยง มีป้ายบอกทางแยกขวาผ่านบ้านห้วยตีนตั่ง-บ้านห้วยน้ำไซ-ฐานพัชรินทร์ สู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร
อีกเส้นทางหนึ่ง จากเพชรบูรณ์ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า บ้านวังบาล บ้านเหมืองแบ่ง บ้านทับเบิกถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ควร-ขับรถด้วยความความระมัดระวังอย่างมาก
ข้อมูล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ที่อยู่ : ตู้ ป.ณ. 3 อ.นครชัย จ.พิษณุโลก 65120
โทร.: 0-5523-3527
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/PhuhinrongklaNP
6.อุทยานแห่งชาติแม่ปืม จังหวัดพะเยา
อุทยานแห่งชาติแม่ปืม มีอาณาเขตไม่มากนัก แต่ป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังที่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติเป็นจุดเด่นที่สร้างสีสันงดงามในยามหน้าแล้งที่ผืนป่าพากันเปลี่ยนสี
อุทยานแห่งชาติมีพื้นที่ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ป่าดอยปุย และป่าแม่ปืม ป่าดอยปุยอยู่ในเขตอำเภอพานและอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ป่าแม่ปืมอยู่ในพื้นที่อำเภอพานและอำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย และอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา พื้นที่ประมาณ 222,500 ไร่ หรือ 356 ตารางกิโลเมตร (พื้นที่อยู่ในเขตจังหวัดเชียงราย ประมาณ 137,431 ไร่ หรือ 220 ตารางกิโลเมตร และอยู่ในเขตจังหวัดพะเยา ประมาณ 85,069 ไร่ หรือ 136 ตารางกิโลเมตร) ภายในอุทยานฯ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ คือ อ่างเก็บน้ำแม่ปืม
ลักษณะภูมิประเทศส่วนมากจะเป็นภูเขาสูงชัน และมีพื้นที่บนเขาน้อยมาก ความยาวจากทิศเหนือ-ใต้ ประมาณ 27 กิโลเมตร และยังเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่แก้วซึ่งตามลำน้ำจะมีลักษณะเป็นโขดหินที่สวยงามและมีน้ำไหลตลอดปี ทิศด้านลาดจะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกและตะวันตก จุดที่สูงที่สุดจะอยู่ทางด้านทิศเหนือมีความสูงตั้งแต่ 403-936 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ส่วนที่ 2 ลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบภูเขาสูงชันทอดตัวยาวจากทิศเหนือ-ใต้ มีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร ทิศด้านลาดจะอยู่ทางทิศตะวันออกและตะวันตกที่มีราบบนสันเขา ความกว้างโดยเฉลี่ยตลอด แนวกว้างประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยแม่ปืมซึ่งมีน้ำไหลตลอดปี จุดสูงที่สุดอยู่บริเวณทางด้านทิศเหนือมีความสูงตั้งแต่ 403-978 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ลักษณะภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติแม่ปืมเป็นแบบมรสุมเขตร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว อูณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 องศาเซลเซียส มีอุณหภูมิต่ำสุดในเดือนธันวาคม 9-12 องศาเซลเซียส ปกติฝนตกหนักในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้เฉลี่ยประมาณ 1,550 มิลลิเมตรต่อปี
ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปืมประกอบด้วยป่าที่แตกต่างกันถึง 4 ประเภท คือ ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าสนเขา มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ สัก แดง ประดู่ มะค่าโมง ชิงชัน เต็ง รัง เหียง พลวง สนสองใบ และไม้วงศ์ก่อ เป็นต้น
ด้วยความหลากหลายของพืชพรรณทำให้พบสัตว์ป่าประเภทนกอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 40 ชนิด เช่น นกเขาเขียว นกเขาเขียวก้านตองท้องสีส้ม นกเปล้าธรรมดา นกหัวขวานใหญ่สีเทา นกปรอดเหลืองหัวจุก และเหยี่ยวดง นอกนั้นก็มีสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เก้ง หมูป่า เสือปลา กระจง กระเล็นปลายขนหูสั้น และกระรอก เป็นต้น
ข้อมูล อุทยานแห่งชาติแม่ปืม
ที่อยู่:หมู่ 8 บ้านป่าตึง ต.แม่ใจ อ.แม่ใจ จ.พะเยา 56130
โทร: 088-290-9433, 093-265-3035
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/MaepuemNationalPark
7. อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล จังหวัดลำปาง
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สภาพพื้นที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ และอุโมงค์ขุนตานซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน มีเนื้อที่ประมาณ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาขุนตาลซึ่งเป็นเทือกเขาที่แบ่งระหว่างที่ราบลุ่มเชียงใหม่และที่ราบลุ่มลำปาง เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 325-1,373 เมตร จุดสูงสุดในเขตอุทยานแห่งชาติได้แก่ ดอยขุนตาล มีที่ราบอยู่เพียงเล็กน้อยอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งต้นน้ำส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิงซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของพื้นที่ และแม่น้ำวังซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตอุทยานแห่งชาติ ลำน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังได้แก่ น้ำแม่ค่อม น้ำแม่ต๋ำ น้ำแม่ไพร เป็นต้น ส่วนที่ไหลลงสู่น้ำแม่ทาและออกสู่แม่น้ำปิงในที่สุด ได้แก่ ห้วยแม่ป่าข่า ห้วยแม่ยอนหวายหลวง ห้วยทุ่งไผ่ ห้วยสองท่า ห้วยแม่โฮ่งห่าง เป็นต้น
- สังคมพืชของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลสามารถจำแนกออกได้เป็น
ป่าดิบแล้ง ขึ้นครอบคลุมพื้นที่ที่มีความชื้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะตามหุบเขาหรือร่องห้วย เช่น หุบเขาแม่ตาลน้อย ห้วยแม่ไพร ห้วยแม่เฟือง ห้วยแม่ออน ห้วยหลวง และห้วยแม่ค่อม โดยมีระดับความสูงจากน้ำทะเลเฉลี่ย 500-1,000 เมตร ชนิดไม้ที่พบได้แก่ โพบาย ยาง ตะคร้ำ สัตตบรรณ ตะเคียน ยมหอม มะหาด มะม่วงป่า กระท้อน พระเจ้าห้าพระองค์ ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หวาย พืชในวงศ์ขิงข่า ผักกูด ผักหนาม และเฟิน เป็นต้น
ป่าดิบเขา ขึ้นปกคลุมพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ชนิดไม้ที่พบได้แก่ ก่อเดือย ก่อแป้น ก่อหัวหมู ก่อน้ำ มะก่อ ทะโล้ จำปาป่า แหลบุก สารภีป่า รักขาว ลำพูป่า ฯลฯ
ป่าสนเขา พบกระจายเป็นหย่อมเล็กๆ บริเวณ ย.2 ย.3 และ ย.4 ป่าสนเขาในบริเวณนี้เป็นป่าที่ปลูกขึ้นมากว่า 50 ปี ชนิดสนที่พบได้แก่ สนสามใบ นอกจากนี้ยังมีไม้อื่นขึ้นปะปนได้แก่ กางขี้มอด กระพี้เขาควาย มะขามป้อม มะกอกเกลื้อน ประดู่ตะเลน อ้อยช้าง แข้งกวาง เป็นต้น
ป่าเต็งรัง ขึ้นปกคลุมตามเชิงเขาโดยรอบทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีสภาพดินเป็นกรวดหรือดินลูกรัง มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ชนิดไม้ที่พบได้แก่ พลวง เหียง รักใหญ่ เก็ดแดง กาสามปีก รกฟ้า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เป้งเขา และหญ้าชนิดต่างๆ
ป่าเบญจพรรณ เป็นป่าที่ขึ้นระหว่างป่าเต็งรังและป่าดงดิบบริเวณเชิงเขาทั้งทางด้านตะวันตกและตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ มีไผ่ซางขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ชนิดไม้ที่พบได้แก่ มะเกลือเลือด แดง มะกอกเกลื้อน สมอพิเภก ตะแบกแดง และงิ้วป่า เป็นต้น
- สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้
ประกอบด้วย เก้ง หมูป่า ชะมดแผงหางปล้อง อ้นเล็ก กระแตเหนือ กระรอกท้องแดง กระเล็นขนปลายหูสั้น กระจ้อน ค้างคาวขอบหูขาวกลาง หนูท้องขาว ไก่ป่า นกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางไฟหัวน้ำตาล นกคุ่มอกลาย นกปากซ่อมหางพัด นกชายเลนน้ำจืด นกเด้าดิน นกเขาไฟ นกอีวาบตั๊กแตนนกบั้งรอกใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกเค้ากู่ นกแอ่นตาล นกกะเต็นน้อย นกจาบคาเล็ก นกตะขาบทุ่ง นกตีทอง นกเด้าลมเหลือง นกเขนน้อยปีกแถบขาว นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า นกปรอดเหลืองหัวจุก นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ นกกินปลีอกเหลือง จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสอสวน งูเขียวหางไหม้ท้องเขียว คางคกบ้าน กบหนอง และอึ่งข้างดำ เป็นต้น
ข้อมูล อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ลำปาง
ที่อยู่:ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน 51140
โทร: 081-032-6341
เว็บไซต์:https://nps.dnp.go.th/parksdetail.php?id=140
อ้างอิง: สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช