ขอพร 'ความรัก' แช่ 'ออนเซ็น' แชะภาพ 'ไทเป 101' ที่ 'ไต้หวัน'
'ไต้หวัน' เป็นประเทศที่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ ไปขอพรเรื่องความรัก นอนแช่ออนเซ็น ในเมืองที่เงียบสงบ
ไต้หวัน ประเทศที่เป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 5 แห่ง คือ จินเหมิน, ไต้หวัน, เผิงหู, หมาจู่, อูชิว และเกาะเล็กเกาะน้อยอีกจำนวนหนึ่ง
ทิศตะวันตกติดกับประเทศจีน ทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือติดกับญี่ปุ่น ทิศใต้ติดกับฟิลิปปินส์
มี ไทเป เป็นเมืองหลวง มีประชากรหนาแน่นที่สุดในเมืองใหญ่ เกาสง, ไถจง, ไถหนาน, เถาหยวน 23.5 ล้านคน
เกาะไต้หวัน เดิมเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมือง ต่อมามีชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาอยู่อาศัยด้วย ศตวรรษที่ 17 ชาวสเปนและฮอลันดาเข้ามาล่าอาณานิคมยึดครองพื้นที่
Cr. Kanok Shokjaratkul
ค.ศ. 1662 ราชวงศ์หมิงถูกราชวงศ์ชิงแทนที่ เจิ้ง เฉิงกง ขุนศึกหมิง รวบรวมกำลังหนีมาเกาะไต้หวัน ขับไล่สเปนและฮอลันดาออกไป ตั้งเป็นราชอาณาจักรตงหนิง
ปี 1683 ราชวงศ์ชิงปราบปรามอาณาจักรตงหนิงสำเร็จ ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน
ปี 1895 ญี่ปุ่นเข้ามายึดครองไต้หวัน หลังสงครามโลกครั้งที่สองไต้หวันกลายเป็นของจีน
ปี 1949 พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอำนาจ พรรคก๊กมินตั๋ง พาผู้คน 1 ล้าน 5 แสนคนอพยพจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งหลักที่ไต้หวัน
ปี 1975 เจียง ไคเช็ก ถึงแก่อสัญกรรม ลูกชาย เจียง จิ่งกั๊วะ ปกครองไต้หวันต่อ วางรากฐานประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 1996
ปี 1980 ถึงต้นทศวรรษ 1990 ไต้หวันเจริญรุ่งเรือง เป็น 1ใน 4เสือเอเชีย มีอุตสาหกรรมล้ำหน้า มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 19 ของโลก
ช่วงที่ไต้หวันถูกญี่ปุ่นยึดครอง ทำให้มีวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่ นั่นก็คือ การแช่บ่อน้ำพุร้อน หรือ ออนเซ็น
Cr. Kanok Shokjaratkul
- บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว
เช้าวันนี้เราเดินทางไปที่ ซิน เป่ยโถว (Xin-Beitou) สถานที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อน แหล่งท่องเที่ยวตากอากาศที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1900 หลังจากชาวญี่ปุ่นค้นพบว่า น้ำที่นี่มีแร่ธาตุเหมาะสมแก่การแช่ หรือออนเซ็น
เมืองนี้มีบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นอยู่มาก เป็นย่านเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทและสปาน้ำพุร้อนมากมาย
Cr. Kanok Shokjaratkul
มีห้องอาบน้ำสาธารณะ บ่อแช่เท้า ร้านน้ำชา คาเฟ่ ร้านอาหาร ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม
ซินเป่ยโถว เป็นสถานที่แช่น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือของไต้หวัน
Cr. Kanok Shokjaratkul
- พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อน
หลังจากเดินดูบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุด มีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา อุณหภูมิ 100 องศา เราก็เข้ามชม พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อน ที่ต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้า
ภายในจัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาและความรู้เกี่ยวกับบ่อน้ำพุร้อนและห้องอาบน้ำ แบ่งเป็น 2 ชั้น
Cr. Kanok Shokjaratkul
ชั้นที่ 1 มีห้องอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าในอดีต มีโซนถ่ายภาพแบบ Interactive จำลองการแช่น้ำพุร้อน
ชั้นที่ 2 เป็นพื้นที่จัดแสดง 6 นิทรรศการ ได้แก่ ประวัติความเป็นมาจากรูปภาพ ข่าว และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอดีต, ไต้หวันฮอลลีวูด ภาพยนตร์ยุค 50-60 ที่มีบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวเป็นสถานที่ถ่ายทำ,
ห้องมัลติมีเดีย แสดงสารคดี และ Tatami Lobby พื้นที่สันทนาการปูด้วยเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่น ให้ผู้ที่เพิ่งใช้บริการห้องอาบน้ำได้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจ
Cr. Kanok Shokjaratkul
- ตลาดตีฮวา
เราเดินทางต่อไปยังย่านเมืองเก่าโบราณ สถานที่เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองที่สุดในอดีต หัวใจของ Dadaocheng คือถนนตีฮวา Dihua ปัจจุบันก็ยังเป็นแหล่งซื้อของที่สำคัญ ไม่ว่าของแห้งหรือยาสมุนไพร
เต็มไปด้วยร้านค้าแบบดั้งเดิม ตึกเก่ามีสถาปัตยกรรมเก่าแก่หลงเหลือให้ได้ชม ผสมกับคาเฟ่สมัยใหม่ มีหอศิลป์ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์
Cr. Kanok Shokjaratkul
มีกำแพงเมืองไทเป-ประตูทิศเหนือ (ประตูเฉิงเก้น) ป้อมปราการ 1 ใน 5 ประตูเมืองประวัติศาสตร์ในไทเป สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง
ประตูตะวันออก (ประตูจิงฟู่) ประตูตะวันตก (ประตูเป่าเฉิง) ประตูทิศใต้ (ประตูลี่เจิ้ง) ประตูน้อยทางใต้ (ประตูฉงซี)
Cr. Kanok Shokjaratkul
มี วัดเสียไห่เฉิงหวง (Xia Hai City God Temple) ศาลเจ้าเก่าแก่สร้างขึ้นในปี 1859 ประดิษฐานองค์เทพมากมาย ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องความรัก
โดยมีรองเท้านำโชคเป็นของที่ระลึก เมื่อซื้อรองเท้าแล้ว ให้นำไปวนที่กระถางธูป 3 รอบ เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าห้องนอน หันหัวรองเท้าเข้าหาตู้จะทำให้ความรักราบรื่น
Cr. Kanok Shokjaratkul
- วัดหลงซาน (Lungshan Temple)
ช่วงเช้าของวันที่จะกลับประเทศไทย เราได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวไทเป ที่ วัดหลงซาน หรือ เหมงเจีย หลงซาน (Mengjia Longshan)
สร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ อีก 100 องค์ เช่น เจ้าแม่ทับทิม เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เทพเจ้ากวนอู ความซื่อสัตย์และหน้าที่การงาน เทพเย่ว์เหล่า ผู้เฒ่าจันทรา ผู้ผูกด้ายแดงให้สมหวังด้านความรัก
เจ้าแม่กวนอิม วัดหลงซาน Cr. Kanok Shokjaratkul
วัดหลงซาน เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี สร้างในปี ค.ศ.1738 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทิ้งระเบิดลงมาทำลาย แต่องค์เจ้าแม่กวนอินไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ
ขั้นตอนการเข้าวัด เดินเข้ามาจากประตูใหญ่ แล้วให้เข้าประตูมังกร (ด้านขวา) ส่วนขากลับ ให้ออกประตูเสือ (ด้านซ้าย) อย่าเข้าผิด มิฉะนั้นจะถูกเสือกิน
ไหว้องค์เทพทุกองค์แล้ว ได้เวลาไปสักการะขอพรผู้เฒ่าแห่งความรัก ก่อนที่จะหยิบด้ายแดง เครื่องรางให้สมหวังเรื่องความรักกลับไป
เทพเย่วเหล่า ผู้เฒ่าแห่งความรัก วัดหลงซาน Cr. Kanok Shokjaratkul
จะต้องหยิบไม้สีแดงรูปพระจันทร์เสี้ยว 2 อันประกบไว้ในมือ อธิษฐานแล้วโยนไม้เสี่ยงทาย ถ้าคว่ำ-หงาย ติดกัน 3 ครั้ง หมายถึง เทพเย่ว์เหล่าอนุญาตให้หยิบด้ายแดงไปได้ ให้นำไปวนที่กระถางธูป 3 รอบตามเข็มนาฬิกา
ถ้าคว่ำ-คว่ำ หมดสิทธิ์โยนต่อ ถ้าหงาย-หงาย ให้โยนต่อแล้วเริ่มใหม่ ซึ่งถ้าได้รับความรักสมหวังก็ต้องกลับมาไหว้ตอบแทนที่นี่ด้วย
ก่อนออกจากประตูเสือ จะมีจุดจำหน่ายเครื่องรางวัดหลงซาน ขั้นตอนคือ ให้จดหมายเลขเครื่องรางที่ต้องการใส่กระดาษ แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ เขาจะนำเครื่องรางมาให้พร้อมกับคิดเงิน ให้นำไปวนรอบกระถางธูป 3 รอบตามเข็มนาฬิกา
Cr. Kanok Shokjaratkul
- หมู่บ้านทหารผ่านศึก
ออกจากวัดหลงซาน เราไปท่องเที่ยวกันต่อที่ หมู่บ้านทหารผ่านศึก (SiSi South Village) ในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของทหารก๊กมินตั๋ง
ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ เป็นสถานที่จัดนิทรรศการ มีตลาดนัด มีสินค้าทำมือ ที่สำคัญ เป็นมุมถ่ายภาพกับตึก 101 ที่สวยงาม เป็นการปิดฉากทริปไต้หวันครั้งนี้ลงไปได้อย่างจบบริบูรณ์
Cr. Kanok Shokjaratkul