ห้ามเรือสำราญ กำจัดกัญชา ย้ายแหล่งค้าประเวณี | ไสว บุญมา
ชาวโลกมักพยายามทำทุกอย่าง เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยเฉพาะของชาวต่างประเทศ แต่กรุงอัมสเตอร์ดัมเริ่มพยายามจำกัดปัจจัยเนื่องจากมองว่าผลได้จากนักท่องเที่ยวปีละประมาณ 20 ล้านคนเริ่มไม่คุ้มผลเสีย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงอัมสเตอร์ดัมประกาศห้ามเรือสำราญเข้าจอดเทียบท่าทั้งที่แต่ละปี มีเรือจำพวกนี้มากกว่า 100 ลำนำนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาส่งลงชมแหล่งน่าสนใจในเมืองหลวงแห่งนี้
เทศบาลกรุงอัมสเตอร์ดัมอ้างว่าเรือสำราญแต่ละลำทำให้เกิดมลภาวะสูงมากเนื่องจากการวิจัยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาสรุปว่า แต่ละวันเรือ 1 ลำทำให้เกิดไนโตรเจนออกไซด์สูงเท่ากับรถบรรทุกถึง 3 หมื่นคัน
นอกจากนั้น เรือสำราญเข้าจอดเทียบท่าเป็นเวลาสั้นมาก นักท่องเที่ยวจึงมีเวลาไม่กี่ชั่วโมงลงชมเมือง ในเวลาอันสั้นนั้น พวกเขาขาดเวลาที่จะไปแสวงหาความผ่อนคลาย หรืออาหารใจในแหล่งวัฒนธรรมจำพวกพิพิธภัณฑ์ โบสถ์วิหารอันงดงาม หรือตามหอศิลป์
พวกเขามีเวลาเพียงไปกินอาหารตามร้านจานด่วนเท่านั้น นักการเมืองบางคนถึงกับเปล่งออกมาว่า พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ลงจากเรือสำราญพร้อมกันเพื่อรีบชมเมืองแบบผิวเผินในเวลาอันสั้นรวมทั้งการกินอาหารตามร้านจานด่วนแต่ละครั้งนั้นไม่ต่างกับฝูงตั๊กแตนขนาดใหญ่ที่บินลงกินเมือง
นอกจากเรื่องร้านอาหารจานด่วนแล้ว ผู้บริหารกรุงอัมสเตอร์ดัมไม่ได้อ้างว่านักท่องเที่ยวจากเรือสำราญใช้เวลาอันสั้นทำอะไรกันอีก เนื่องจากเมืองนั้นมีร้านรวงและแหล่งที่มีลักษณะพิเศษอันโดดเด่น เป็นไปได้สูงว่านักท่องเที่ยวจะแยกเจียดเวลาไปหาประสบการณ์และซื้อของฝากกับของที่ระลึก
ร้านค้าที่มีความพิเศษที่สุดในกรุงอัมสเตอร์ดัมคงได้แก่ ร้านกาแฟที่มีกัญชาขายให้ลูกค้าสูบในร้านปริมาณไม่เกิน 5 กรัม ร้านเหล่านี้ห้ามสูบบุหรี่ แต่มีกัญชาชั้นดีหลายชนิดขาย
ทั้งที่โดยทั่วไปการมีกัญชาไว้ในครอบครอง หรือขนย้ายผิดกฎหมายของประเทศ กระนั้นก็ตาม ยังมักมีผู้แอบนำกัญชาไปสูบในย่านที่เป็นแหล่งกิจการค้าประเวณีที่โด่งดังเป็นพิเศษของอัมสเตอร์ดัม การละเมิดนั้นทำกันมากขึ้นจนเทศบาลเพิ่งออกกฎหมายใหม่โดยปรับผู้ถูกจับได้ครั้งละ 100 ยูโร (ราว 3,800 บาท)
สำหรับด้านกิจการค้าประเวณี ซึ่งมีกฎหมายคุ้มครองและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เทศบาลมองว่ามันสร้างปัญหามากขึ้นทุกวันจนถึงขั้นทนไม่ไหว จึงเริ่มพิจารณาหาทางให้ย้ายออกไปจากใจกลางเมือง
เรื่องนี้อาจใช้เวลาเพราะมีรายงานว่าการต่อต้านอย่างแข็งขันยังมีอยู่บ้างซึ่งคงรวมทั้งจากกิจการร้านค้าอุปกรณ์ทางเพศด้วย ร้านจำพวกนี้มีอยู่ทั่วไปในใจกลางเมืองและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมาก เนื่องจากมักหายากในประเทศอื่น
อย่างไรก็ดี ไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ว่านักท่องเที่ยวจากต่างประเทศซื้อสินค้า หรือของฝากจากร้านเหล่านั้นกันอย่างทั่วถึงหรือไม่
ความเป็นเอกลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเทศบาลกำลังหาทางรณรงค์ให้ลดลง นั่นคือ กลุ่มหนุ่มอังกฤษพากันไปจัดงานฉลองความโสด
เทศบาลมองว่าหนุ่ม ๆ เหล่านั้นมักสร้างปัญหาเกินกว่าค่าของรายได้ที่เกิดจากการใช้จ่ายของพวกเขา แต่คงจะทำได้ไม่มากนักเนื่องจากเนเธอร์แลนด์เปิดกว้างให้ชาวต่างประเทศ
เรื่องของกรุงอัมสเตอร์ดัมทำให้คิดต่อไปได้ถึงหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นกัญชาเสรี การค้าประเวณี หรือภาคการท่องเที่ยวโดยรวม การทำให้กัญชาและการค้าประเวณีเป็นกิจการถูกกฎหมายมีผลทำให้รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีเพิ่มขึ้นตามคำจำกัดความทั้งที่ตามความเป็นจริงอาจไม่มีอะไรเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เพราะกิจการเหล่านั้นมักมีอยู่แล้ว แต่จีดีพีนับเฉพาะกิจการถูกกฎหมายเท่านั้น การใช้กัญชาและการค้าประเวณีล่อใจนักท่องเที่ยวอาจได้ผล แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจเป็นคนที่ประชาชนโดยทั่วไปไม่ปรารถนา
การท่องเที่ยวโดยทั่วไปอ่อนไหวสูงต่อปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือความขัดแย้งรุนแรงระหว่างประเทศ
สิ่งเหล่านี้น่าจะชี้ให้ตระหนักกันอีกครั้งหนึ่งว่า อย่ามองตัวเลขทางเศรษฐกิจปราศจากความเข้าใจในความเป็นมาของมันและการได้มานั้นมีต้นทุนเสมอ ข้อคิดทางเศรษฐกิจจึงเน้นประเด็นที่ว่า โลกนี้ไม่มีของเปล่า.