เสน่ห์ ‘ช็อลลาใต้’ ปวศ. เก่าแก่ ธรรมชาติงดงาม อาหารอร่อย บ้านเกิดศิลปิน K-Pop
ชวนเที่ยวจังหวัด 'ช็อลลาใต้' เมืองทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลี ที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาหารพื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลี และบ้านเกิดของศิลปิน K-Pop ชื่อดัง
หากพูดถึงการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ สถานที่ยอดนิยมในหมู่คนไทยมักหนีไม่พ้นกรุงโซล เกาะเชจู เมืองปูซาน แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เช่น จังหวัดช็อลลาใต้ (Jeollanam-Do) ที่เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกันในวันนี้
เพราะช็อลลาใต้ (Jeollanam-Do) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเมืองปูซานกับเกาะเชจู มีครบทุกสิ่งที่คนไทยคาดหวังว่าจะได้รับในยามไปเยือนเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็น อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย สถานที่ธรรมชาติอันงดงาม สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอันโดดเด่นไม่แพ้ใคร และที่ขาดไม่ได้คือความเกี่ยวพันกับซีรีส์เกาหลี และดนตรี K-Pop ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี
ทำความรู้จักจังหวัดช็อลลาใต้
ช็อลลาใต้ หรือ ช็อลลานัมโด (Jeollanam-Do) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีกวางจู (Gwangju) เป็นเมืองเอก ด้วยความที่ภูมิประเทศติดชายฝั่งทะเลยาว 6,100 กิโลเมตร และเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 2,000 เกาะจึงทำให้ช็อลลาใต้ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนว Ecotourism ที่สำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และอาหารพื้นเมืองก็เข้มข้นไม่แพ้ภูมิภาคอื่นเช่นกัน
สำหรับทริปนี้เราจะไปเยือน 4 เมือง ได้แก่ ยอซู (Yeosu) มกโพ (Mokpo) นาจู (Naju) และกวางจู (Gwangju) ที่มีเอกลักษณ์ของช็อลลานัมโดอยู่ครบครัน
คัตกิมจิ (Gat-kimchi) หาชิมได้เฉพาะที่ช็อลลาใต้
กิมจิ ที่บางคนอาจมองว่าธรรมดา เพราะสามารถหากินได้ทั่วไปในเกาหลีใต้ หรือแม้แต่ในประเทศไทยเองก็ตาม แต่เมนูที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “อาหารประจำชาติ” มีอายุยาวนานหลายพันปีนี้มีความหลากหลาย และลึกซึ้งให้ได้ศึกษาเรียนรู้ มากกว่าแค่การซื้อยี่ห้อที่มีขายอยู่ทั่วไปมาลิ้มลอง
สำหรับจังหวัดช็อลลาใต้มี คัตกิมจิ Gat-kimchi (갓김치) เป็นอาหารประจำถิ่นที่ห้ามพลาด ต้องมากินที่นี่เท่านั้นถึงจะได้รสชาติของแท้และดั้งเดิม
ทริปนี้เรามีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การทำ คัตกิมจิ (Gat-kimchi) ด้วยตัวเอง ณ Gatgoeul Center ซึ่งนอกจากจะได้รับความสนุก และกิมจิโถใหญ่ รสชาติแสนอร่อยกลับบ้านมาด้วยแล้ว ยังได้รับรู้ความเป็นมาว่า Gat-kimchi เป็นกิมจิที่ทำจากใบมัสตาร์ดซึ่งปลูกได้ดีในภูมิภาคแถบนี้
ส่วนรสชาติจะมีความเปรี้ยวอมหวาน เจือด้วยความขมติดปลายลิ้นของใบมัสตาร์ด ส่วนเท็กซ์เจอร์นั้นขอบอกว่าเคี้ยวสนุก เต็มปากเต็มคำกว่ากิมจิหลายประเภทที่เคยลิ้มลองมา (ขอสารภาพว่าผู้เขียนถึงกับน้ำลายสอกันเลยทีเดียวเมื่อเขียนถึงตรงนี้)
นอกจากกิมจิแล้ว จังหวัดช็อลลาใต้ที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศยังมีอาหารพื้นเมืองที่น่าลิ้มลองอีกหลายอย่าง เช่น บุลโกกิ ของที่นี่จะย่างด้วยถ่านไม้โอ๊คจากภูเขา Baekunsan ทำให้มีกลิ่นและรสชาติอร่อยเฉพาะตัว ปูดอง หรือ เกจัง (Gejang) เมนูขึ้นชื่อของเมืองยอซูที่มีทั้งแบบดั้งเดิม และแบบใส่พริกที่สำหรับลิ้นของคนไทยแล้วจะรู้สึกว่าออกหวานมากกว่าเผ็ด
ตึกแดง สถานที่ถ่ายทำซีรีส์ Hotel Del Luna
สำหรับคอซีรีส์เกาหลี หากมาท่องเที่ยวเมืองมกโพ (Mokpo) ต้องห้ามพลาด พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ (Mokpo Modern History Museum) Hall 1 ตึกสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Hotel Del Luna ที่นำแสดงโดย ไอยู (IU), ยอจินกู, อีโดฮยอน
Mokpo Modern History Museum Hall 1 เป็นอาคารที่มีความเก่าแก่ที่สุดในเมืองมกโพ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1898 ถูกใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานมากมาย ทั้งศาลาประชาคม สถานกงสุลญี่ปุ่น ห้องสมุด ศูนย์วัฒนธรรม ก่อนจะมาถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในปี 2014
การยืนหยัดผ่านกาลเวลามายาวนานถึง 126 ปี ทำให้ Mokpo Modern History Museum ทรงคุณค่าทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรรม และล่าสุดที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้าไปคือ Soft Power จากการเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลีเรื่องดัง
โดยจุดที่แฟน Hotel Del Luna ห้ามพลาดก็คือ บริเวณบันไดด้านหน้าที่มองเห็นตัวตึกสีแดงตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง เพราะเป็นจุดเดียวกับที่ ‘ไอยู’ ยืนให้เห็นกันในซีรีส์ พอเดินเข้าไปข้างในก็จะมี backdrop ของ Hotel Del Luna พร้อมเสื้อผ้าแบบเดียวกับตัวละครในเรื่องให้เปลี่ยนใส่ถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกจุดหนึ่ง
สำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ ด้านในมีการจัดแสดงผังเมืองมกโพในยุคที่เกาหลีใต้ตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น (1910-1945) ข้าวของเครื่องใช้ของผู้คนในยุคนั้น เช่น นาฬิกาพก แว่นตากลม ฯลฯ ตลอดจนระบบคมนาคม การติดต่อสื่อสาร การศึกษา การแพทย์ หรือแม้แต่เพลงยุคนั้นมาให้ชมให้ฟังกัน
ผังเมืองเก่า
ข้าวของเครื่องใช้คนยุคนั้น
หนังสือพิมพ์
รถลาก
ภาพวาดชาวมกโพเดินขบวนประท้วงที่คุณสามารถไปยืนถ่ายรูปเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขาได้
‘กวางจู’ จุดกำเนิดประชาธิปไตย - บ้านเกิดเจโฮป BTS
สำหรับกวางจู (Gwangju) เมืองเอกของจังหวัดช็อลลานัมใต้ นอกจากจะเป็นที่รู้จักกันในฐานะของ “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์” ในการเรียกร้องประชาธิปไตยของเกาหลีใต้อันนำมาสู่เหตุการณ์ Gwangju Uprising เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1980 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลีใต้แล้ว
กวางจูยังเป็นเมืองสำคัญสำหรับแฟน K-Pop เช่นกัน เพราะเป็นบ้านเกิดของศิลปินอย่าง เจโฮป (J-Hope) วงบีทีเอส, U-KNOW หรือ ยุนโฮ TVXQ! (ทงบังชินกิ), ฮยองวอน ไอ.เอ็ม มินฮยอก Monsta X, ยุนโฮ ATEEZ, ซูยอง Girls' Generation, ฮเยริ Girl's Day, คูฮารา KARA, โซยอน Laboum, ซึงริ อดีตสมาชิก BIGBANG ขณะที่ทางสายนักแสดงมี พัคชินฮเย, เบซูจี
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญสำหรับสายประวัติศาสตร์มีอาทิเช่น Statue of Fighters of the Armed Resistance ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานน้ำพุ สถานที่ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยนองเลือด, สุสาน May 18 National Cemetery ที่ฝังร่างผู้เสียชีวิตกว่า 900 ศพ
ตึก Jeonil Building 245 ซึ่งยังมีร่องรอยกระสุนที่ทหารนั่งเฮลิคอปเตอร์มากราดยิงใส่ตัวอาคารให้เราได้เห็นกันเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความโหดเหี้ยมของผู้นำเผด็จการในสมัยนั้น
ร่องรอยกระสุนจริงที่ถูกเก็บรักษาไว้
สำหรับสายเคป็อปต้องห้ามพลาด Chungjang-ro KPOP STAR Street ซึ่งมีภาพวาดศิลปินสีสันสดใสของศิลปินที่เกิดในเมืองกวางจูอยู่บนกำแพง นอกจากนี้ยังมีม้านั่งประดับภาพปกอัลบั้มของศิลปิน K-Pop วงต่าง ๆ ทั้ง BLACKPINK, ITZY, MAMAMOO ฯลฯ ลายพิมพ์มือของศิลปิน
แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือวงบีทีเอส (BTS) ที่นอกจากจะมีม้านั่งธีมเพลง Butter ให้นั่งพักผ่อนแล้ว แล้วยังมีภาพปกอัลบั้ม HOPE WORLD และภาพปกอัลบั้มเพลง Chicken Noodle Soup ของเจโฮป ถูกวาดติดผนังให้ถ่ายรูปกันเก๋ ๆ รวมไปถึงรูปปั้น Hope World ที่แฟน ๆ วงบีทีเอส หรือ ARMY จากทั่วโลก ร่วมมือกันทำมาตั้งไว้ที่นี่อีกด้วย
Hope World Sculpture ในค่ำคืนวันฝนตก รูปจึงออกมาค่อนข้างมืด
Art Land ดินแดนแห่งศิลปะ
ผู้ที่มีความคุ้นเคยกับเกาหลีใต้คงทราบกันดีว่าบ้านเมืองเขาให้ความสำคัญกับสุนทรียภาพ (Aesthetic) ที่สอดแทรกให้เห็นผ่านแฟชั่น การแต่งกายของผู้คน การจัดร้านคาเฟ่เก๋ ๆ การออกแบบผลิตภัณฑ์ได้สวยงามน่าซื้อไปแทบทุกอย่าง
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องของงานศิลปะ เกาหลีใต้จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยในทริปเที่ยงจังหวัดช็อลลาใต้ที่เราไปมีสถานที่จัดแสดงงานศิลปะที่นักท่องเที่ยวสายติสจะต้องกรีดร้อง ดังนี้
Yeosu Art Land (ยอซู)
นอกจากเอกลักษณ์สำคัญอย่างรูปปั้นมือขนาดยักษ์ (Hand of Midas) ที่ยื่นออกไปให้คุณได้ถ่ายรูปโดยมีทะเลเป็นแบ็คกราวน์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับสวนประติมากรรมด้านนอกท่ามกลางทิวทัศน์อันและบรรยากาศอันงดงาม และพิพิธภัณฑ์ศิลปะลวงตา (3D trick-art museum) ที่ด้านในอีกด้วย
ตรวจสอบรายละเอียดทั้งค่าตั๋ว เวลาเปิดให้บริการได้ที่ www.alr.co.kr
ประติมากรรมในสวน
trick art museum สุดอลังการ ถ่ายภาพสนุกมาก
ARTE MUSEUM (ยอซู)
สถานที่จัดแสดงนิทรรรศการศิลปะแบบ immersive media art ที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเนื้อที่ร่วม 1,400 ตารางเมตร ผลงานการสร้างสรรค์ของ d’strict บริษัทดิจิทัลดีไซน์ของเกาหลีใต้ที่กำลังสั่งสมชื่อเสียงในแวดวงงานศิลปะอย่างเงียบ ๆ
นิทรรศการไฮไลท์ของที่นี่จะมีธีมเกี่ยวกับธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เช่น Waterfall, Flower ซึ่งช่วงที่เราไปชมมีการนำดอกคามิเลีย ดอกไม้ประจำถิ่นมาใช้, Beach ที่มีทั้งความสมจริงและความเหนือจริง ราวกับไปยืนอยู่ริมหาดจริง ๆ ในดินแดนแห่งจินตนาการ, Romantic Thunder, Star, Moon
ที่ห้ามพลาดคือ GARDEN ARTE MUSEUM X MUSEE D’ORSAY ที่เป็นความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ออร์แซ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำภาพถ่ายจากที่นั่นมาจัดแสดงในธีมสวนได้อย่างงดงาม
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.artemuseum.com
Asia Culture Center (กวางจู)
นอกจากจะเป็นสถานที่ถ่ายหนังยอดฮิตเรื่อง Exhuma ฉากในโรงพยาบาลตอนต้นเรื่องแล้ว ศูนย์วัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองกวางจูแห่งนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะในรูปแบบที่สร้างสรรค์ และหลากหลาย เช่น 360 Circle in Asia ที่ใช้เทคโนโลยี VR อันล้ำสมัย ทำให้เราเห็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเอเชียในแบบ 360 องศา
ACC FOCUS ที่จะมีนิทรรศการของศิลปินต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ชมกัน อย่างช่วงที่เราไปมีนิทรรศการ Koo Bohnchang ศิลปินผู้บุกเบิกการถ่ายภาพร่วมสมัยของเกาหลีมาจัดแสดง
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.acc.go.kr