สมาคมภัตตาคารไทยส่งหนังสือขอ "คนละครึ่งเฟส 5" พร้อมให้เหตุผล
สมาคมภัตตาคารไทย ส่งหนังสือลงนามเรื่อง ขอให้รัฐบาลจัดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่งเฟส 5" พร้อมให้เหตุผล
สมาคมภัตตาคารไทย ส่งหนังสือลงนามเรื่อง ขอให้รัฐบาลจัดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่งเฟส 5" ชี้เมื่อการใช้จ่ายเงิน "คนละครึ่ง" ของประชาชนครบจำนวนเงินตามสิทธิ์ ปรากฏว่า ยอดขายของร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการลดลงอย่างมากส่งผลกระทบให้แต่ละร้านต้องปรับตัวเพื่อประคองให้กิจการอยู่รอด จึงอยากให้ดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐบาล ลุยเอาผิดคนทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน - คนละครึ่ง - เราชนะ”
- "นายกฯ" ปลื้ม "คนละครึ่ง" คึกคัก ช่วง "สงกรานต์" ยอดใช้จ่ายทะลุ 6 หมื่นล้าน
โดยทาง สมาคมภัตตาคารไทย ได้ส่งหนังสือเรียนถึง นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านโฆษกรัฐบาล เพื่อขอให้รัฐบาลจัดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่งเฟส 5" ต่อซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ ดังนี้
ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดค่าครองชีพช่วยเหลือประชนมาอย่างต่อเนื่องนั้น หนึ่งในมาตรการที่ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในแง่วัตถุประสงค์และเป้าหมายคือมาตรการ "คนละครึ่ง" ซึ่งดำเนินผ่านมาถึง 4 เฟส มีผู้เข้าร่วมโครงการรวม 26.38 ล้านราย และยอดใช้จ่ายรวม 55,749.6 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้จ่ายผ่านโครงการ 28,352.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 27,397.4 ล้านบาท และจากข้อมูลกระทรวงการคลังผลของโครงการคนละครึ่งมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้า พบว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่มมีการใช้จ่ายผ่านโครงการสูงสุด 23,300.3 ล้านบาท ซึ่งผลเชิงบวกในความสำเร็จของโครงการนี้ส่งผลโดยตรงและโดยอ้อมต่อภาคเศรษฐกิจ SME และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศอย่างมาก
กล่าวคือ ภาคธุรกิจร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติที่ไม่โครงการนี้อย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดเงินหมุนเวียนในภาคธรุกิจ เกิดกำลังซื้อวัตถุดิบ สินค้าต่างๆเพิ่มขึ้น คงการจ้างงาน และเพิ่มการจ้างงาน ภาครัฐสามารถเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจภาพรวมประเทศ
และทันทีที่โครงการนี้สิ้นสุดลงหรือประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีการใช้จ่ายจนครบจำนวนเงินตามสิทธิ์ พบว่า ยอดขายของร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบให้แต่ละร้านต้องปรับตัวเพื่อประคองให้กิจการอยู่รอดได้ อาทิ ลดจำนวนพนักงาน ลดปริมาณการซื้อวัตถุดิบเพื่อสำรองไว้ อันมีผลมาจากรายได้ที่ลดลง
แต่ในขณะเดียวกันต้นทุนการผลิตกลับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งยอมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพร่วมตามมาได้ ดังนั้น ทางสมาคมภัตตาคารไทยในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ซึ่งได้รับฟังขอร้องเรียนและขอเสนอแนะจากผู้ประกอบการมาตลอด ถึงความต้องการจะให้รัฐบาลยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการให้มีมาตรการ คนละครึ่ง
จึงขอให้รัฐบาลได้ดำเนินโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" ต่อ เพื่อลดค่าครองชีพ เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศเช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่ง 4 เฟสที่ผ่านมา
ในการนี้ สมาคมภัตตาคารไทยขอกราบขอบคุณ พณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้กรุณาออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆด้วยความเข้าใจและเห็นใจผู้ประกอบการมาโดยตลอด