"ปุ๋ยแพง" ราคาพุ่งสูงเท่าตัว ชาวนาโอดขายข้าวขาดทุนยับ

"ปุ๋ยแพง" ราคาพุ่งสูงเท่าตัว ชาวนาโอดขายข้าวขาดทุนยับ

"ปุ๋ยแพง" ชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ โอดครวญถือเป็นช่วงวิกฤติ เหตุปุ๋ยเคมีบำรุงรวงข้าวนาปรังราคาสูงกระสอบละ 1,400 บาท จึงลดการให้ปุ๋ย ส่งผลให้เมล็ดข้าวติดรวงและผลผลิตน้อย น้ำหนักเบา ผลผลิตต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมาครึ่งต่อครึ่ง

(21 เมษายน 2565) "ปุ๋ยแพง" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศชาวนานำข้าวเปลือกนาปรังไปขาย ตามลานรับซื้อทั่วไปซึ่งพื้นที่ทำนาปรังในโซนต้นน้ำเขต

  • ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์
  • ต.ลำคลอง อ.เมืองกาฬสินธุ์
  • ต.นาเชือก, ต.บัวบาน อ.ยางตลาด

ได้เริ่มเก็บเกี่ยวกันแล้ว โดยมีเสียงสะท้อนจากชาวนา ที่พูดเสียงเดียวกันว่าขายข้าวขาดทุนย่อยยับเนื่องจากผลผลิตตกต่ำ เพราะขาดปุ๋ยเคมีบำรุง

 

ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากราคาปุ๋ยเคมีสูงถึงกระสอบละ 1,450 บาท น้ำหนักกระสอบละ 50 กก. ขณะที่ราคารับซื้อข้าวเปลือกที่ลานรับซื้อตั้งไว้ต่ำเพียงกิโลกรัมละ 6.30 - 6.50 บาท ทำให้ประสบปัญหาขายข้าวขาดทุนซ้ำซาก

 

นายวิวัฒน์ ชาวนา ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า ตนมีที่นา 18 ไร่ ในการทำนา ทั้งนาปี นาปรัง เคยใช้ปุ๋ยเคมีบำรุงต้นข้าวเฉลี่ยไร่ละ 2 กระสอบ คือปุ๋ยแตกกอและปุ๋ยรับรวง จึงใช้ปุ๋ยไปประมาณ 36 ถุง แต่ในช่วงทำนาปรังปีนี้ ราคาปุ๋ยเคมีทุกสูตรทุกยี่ห้อเพิ่มสูงจากปีที่ผ่านมาถึง 1 เท่าตัว จากเดิมถุงละ 700 - 800 บาท กลับพุ่งสูงถึงถุงละ 1,450 - 1,500 บาท จากการสอบถามพ่อค้าขายปุ๋ยกลับอ้างว่าจำเป็นต้องขึ้นราคาเพราะน้ำมันแพง

 

นายวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในเมื่อปุ๋ยเคมีราคาสูงดังกล่าว ประกอบกับการทำนามีหลายขั้นตอน ทำให้ต้นทุนการทำนาสูงเป็นเงาตามตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างรถไถนา ค่าแรง ค่ารถเกี่ยวข้าว ค่าขนส่ง รวมต้นทุนทำนาเฉลี่ยไร่ละ 4,000 บาท ที่ผ่านมาได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 250 - 300 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ปุ๋ยแพง จึงต้องลดการใช้ปุ๋ยลงเท่าตัว

 

ทำให้ต้นข้าวไม่โตเต็มที่ ได้เมล็ดข้าวต่อรวงน้อยและน้ำหนักเบา สำหรับข้าวของตนที่เก็บเกี่ยวและนำมาขายวันนี้ ผลผลิตลดลงจากทุกปีที่ผ่านมาครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว เฉลี่ยได้ไร่ละ 100 - 150 กิโลกรัม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตนเท่านั้นที่ประสบปัญหานี้ จากการสอบถามเพื่อนชาวนาหลายคนต่างประสบปัญหาเดียวกัน สรุปคือ ขายข้าวขาดทุน คนที่ได้เงินกลับเป็นพ่อค้าขายปุ๋ย ผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวและรถขนส่งข้าว

 

 

นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่า หากสถานการณ์การทำนาเป็นเช่นนี้ ถือว่าเป็นวิกฤติชาวนา โดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมีแพง ราคาข้าวตกต่ำราคาเพียงกิโลกรัมละ 6.30 - 6.50 บาท อนาคตคงเลิกทำนาหรือทำแค่พอได้กินในครัวเรือนเท่านั้น เพราะสู้ราคาปุ๋ยเคมีไม่ไหว

 

อย่างไรก็ตาม หากราคาปุ๋ยเคมีตามท้องตลาดลดลงมาที่ถุงละ 700 - 800 บาท และราคาขายข้าวได้กิโลกรัมละ 8 - 9 บาท ชาวนาก็พอจะคุ้มทุนอยู่รอดหรือมีกำไรบ้าง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาช่วยชาวนาด้วย