ผกก.บ้านไร่ ยันยังไม่เจอตัวพ่อแม่ลูก 4 ชีวิต พบมีการระดมทุนก่อนหายตัว
ตำรวจ สภ.บ้านไร่ นำพ่อและลูกสาวคนโตเข้าตรวจสอบบ้านหนุ่มสุโขทัยหายตัวพร้อมลูกเมีย 4 ชีวิต พบสภาพปกติ ขณะที่พ่อและลูกสาวกินไม่ได้นอนไม่กลับ วอนให้ติดต่อกลับหาครอบครัว เบาะแสจากญาติพี่น้อง เผยก่อนหายตัวมีการระดมทุนจากชาวบ้านก้อนใหญ่มาลงทุน
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายล้วน บุญชู อายุ 69 ปี เลขที่ 120/1 หมู่ 8 ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นพ่อของนายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 12 ปี และด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี ที่หายตัวไปพร้อมรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีเทาหมายเลขทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย
ล่าสุด พ.ต.ทสมชาย บุญมีจ้อย สว.สส.สภ.บ้านไร่ จ.สุโขทัย ได้พานายล้วน พร้อมด้วยน.ส.หิรัญญา หรือ น้องอุ้ย ลูกสาวคนโตของนายนิรุตน์ ไปยังบ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 2 ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านที่นายนิรุตน์ อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกๆ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่า ข้าวเครื่องใช้ยังอยู่ครบไม่มีร่องรอยการรื้อค้นภายในบ้านแต่อย่างใด สภาพบ้านเป็นปกติไม่มีสิ่งใดผิดสังเกต
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับน้องอุ้ย ท่ามกลางความเสียใจและร้องไห้ตลอดเวลว่า ขณะนี้พ่อและแม่ติดต่อกลับมาหรือยังซึ่งน้องอุ้ย แจ้งว่ายังไม่มีการติดต่อกลับมาเลยและหนูก็พยายามติดต่อไปยังบ้านญาติ และบ้านเพื่อนๆของพ่อแม่แล้วแต่ไม่มีใครรู้เลย ส่วนที่หอพักของตนที่เชียงใหม่ก็ไม่มี หนูอยากจะบอกว่าพ่อแม่ไปไหนไม่บอกหนูเลย
ด้านนายล้วน พ่อของนายนิรุตน์ กล่าวว่า ลูกอยู่ไหนอยากให้ลูกกลับมาเร็วๆ หรือให้ติดต่อพ่อมาบ้าง ซึ่งขณะนี้ลูกชายและลูกสะใภ้ ยังไม่ติดต่อกลับมาเลยซึ่งทุกวันนี้ตนก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ
ด้าน พ.ต.อ.สายัณห์ จันทร์แจ่มกระจ่าง ผกก.สภ.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย กล่าวว่า ล่าสุดจากการสืบสวนพบว่า รถยนต์โตโยต้าสีเทาหมายเลขทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย ไปโพสต์ขายที่เต้นท์รถที่อุดรธานี และ มีการขายต่อไปหลายทอด สรุปได้ความว่าเมื่อวันที่ 7 เมษายน นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี ผู้เป็นภรรยานำรถไปขายให้กับคนนึงที่ปั๊ม ปตท.อำเภอพรมพิราม จ.พิษณุโลก จากนั้นผู้ซื้อรถคนที่ 1 ได้นำรถไปขายต่อ ให้ผู้ซื้อรายที่ 2 ที่ จ.ลพบุรี ส่งต่อไปผู้ซื้อที่ 3 ที่กรุงเทพ และหลังสุดที่เต้นท์รถ จ.อุดรธานี
อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบว่า นางสาวนฤมลเป็นคนนำรถไปขายด้วยตนเอง และทราบว่ามีการใช้รถอีกคันมารับหลังจากขายรถคันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ทำให้เชื่อว่า ทั้งสองพ่อแม่นั้นไม่น่าจะมีการเกิดประทุษร้าย หรือการถูกนำรถไป เพราะเป็นการนำรถมาขายเอง ซึ่งยืนยันได้จากภาพถ่ายของเต้นท์รถ
ส่วนสาเหตุของการติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้นั้นยังไม่ยืนยันสาเหตุ เพียงทราบว่า ก่อนหน้านี้ สองสามีภรรยามีการระดมทุนจากชาวบ้านจำนวนมาก มาเพื่อมาลงทุน ซึ่งยังระบุกิจการไม่ได้ จึงอาจเป็นสาเหตุให้ไม่อยากติดต่อพูดคุยกับใครรวมถึงเจ้าหนี้ ซึ่งหลังสุด น.ส.หิรัญญา หรือ น้องอุ้ย ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตติดต่อพ่อได้หลังสุด ช่วงเย็นของวันที่ 10 เม.ย และสัญญาณขาดหายไปที่ลาดกระบังในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ ทิศทางในการติดตามผู้สูญหายนั้นมีหลายวิธี ทั้งการตรวจเช็คการทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้ยานพาหนะ เส้นทางต่างๆ ญาติพี่น้อง โดยเจ้าหน้าที่จะใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อหาเบาะแสในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการติดต่อกลับมาแล้วทางตนเองได้ให้ จนท.ตำรวจสอบถามไปยังตาล้วน ปรากฏว่ายังไม่มีการติดต่อกลับมาจากนายนิรุตน์แต่อย่างใด