เปิดเหตุผลศาลสั่งจำคุก 1 ปี 15 วัน ไม่รอลงอาญา ตร.ขับบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายดับ
ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา "ส.ต.ต.นรวิชญ์" ขับบิ๊กไบค์ชน "หมอกระต่าย" ดับ บนทางม้าลาย ในความผิด 9 ข้อหา ก่อนสั่งจำคุก 1 ปี 15 วัน ไม่รอลงอาญา
25 เมษายน 65ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ. 399/2565 ที่ พนักอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) เป็นจำเลยในความผิด ฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆรวม9 ข้อหา
กรณีที่เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 เวลากลางวันส.ต.ต.นรวิชญ์ จำเลย ขี่จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ จักษุแพทย์รพ.ราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้า รพ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวง-เขตราชเทวี กรุงเทพฯซึ่งเป็นเขตชุมชุนด้วยความเร็ว 108-128 กม.ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 80 กม.ต่อชั่วโมง จนพญ.วราลัคน์ ถึงแก่ความตาย
ต่อมาวันที่ 22 ก.พ.65 พนักงานอัยการ โจทก์ได้นำตัวส.ต.ต.นรวิชญ์ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา รวม 9 ข้อหาได้แก่ 1. นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ 2. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี 3. ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย 4. นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง 5. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 6. ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด7. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 8. ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง 9. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการ ยังขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถจักรยานยนต์ที่ พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และมีคำขอให้ศาลเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย โดยการริบหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของศาลว่าจะให้พักใช้เป็นระยะเวลากี่ปี
ส.ต.ต.นรวิชญ์ แถลงให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี
ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ และพินิจ ประวัติการศึกษา สถานะทางครอบครัว และอื่นๆ ของส.ต.ต.นรวิชญ์ แล้วรายงานให้ศาลทราบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาพิพากษา
ทั้งนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ จำเลย ได้รับการปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา โดยศาลตีราคาประกัน 50,000 บาท.
โดยวันนี้จำเลยเดินทางมาศาล
ศาลพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา ลงโทษจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ความผิดฐานนำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้ มีการประกันความเสียหาย ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถโดยมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์ สำหรับรถไม่ครบถ้วน ปรับ 1,000 บาท ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุก 15 วัน ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือ ทรัพย์สินโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทางเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 1 ปี รวมโทษแล้วจำคุก 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท
พิเคราะห์รายงานการ สืบเสาะและพินิจของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงมาก ประมาณช่วงระหว่างความเร็ว 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วเกินกว่า ที่กฎหมายกำหนดและที่วิญญูชนทั่วไปคาดคิด ทั้งยังขับแซงรถคันอื่นใกล้กับบริเวณที่มี เครื่องหมายจราจรทางข้าม (ทางม้าลาย) ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับสถานพยาบาลและสถานที่ ราชการ ซึ่งเป็นเขตเมืองและเป็นเขตชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมากไปรับบริการและใช้ทางดังกล่าวเป็นปกติตลอดทั้งวัน อันเป็นการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและผู้สัญจรอื่นๆ บนท้องถนน ประกอบกับจำเลยขับรถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้และไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายกับผู้ประสบภัยจากรถ แม้จำเลยจะพยายามบรรเทาผลร้ายแล้ว แต่พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว ถือว่าเป็นร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษจำเลย หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 สำหรับรถจักรยานยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่ จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด จึงให้รับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) และหากจำเลยขับรถต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น จึงให้ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ฉบับที่ 64001268 ออกโดยสำนักงานขนส่ง จังหวัดนครสวรรค์ และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ฉบับที่64000905 ออกโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดนครสวรรค์ ตาม พรบ.จราจรทางบกฯ มาตรา 162วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้หลังจบการอ่านคำพิพากษา นาย ณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความหมอกระต่ายเปิดเผยว่า ได้แจ้งคำพิพากษากับพ่อและแม่ของหมอกระต่ายแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งหากจำเลยยื่นอุทธรณ์ก็พร้อมต่อสู้คดี โดยจะต้องหารือกับครอบครัวของ หมอกระต่ายอีกครั้ง และจะต้องเอาผลของคำพิพากษาของอาญาไปยื่นต่อศาลแพ่งด้วย เพราะคดีเเพ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งจำเลยทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้ขอขยายเวลาการยื่นคำให้การ ศาลเเพ่งจึงนัดพร้อมคดีในวันที่ 8 ส.ค.