เช็คข้อปฏิบัติผู้ป่วยโควิด-ปชช.ทั่วไป เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-ส.ก. 22 พ.ค.65
เปิดข้อปฏิบัติผู้ป่วยโควิด-ปชช.ทั่วไป เดินทางเข้าคูหาลงคะแนนเลือกตั้ง "ผู้ว่าฯกทม.-ส.ก." วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.2565
เหลือเวลาอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) และสมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. ระว่างเวลา 08.00-17.00 น. ซึ่งขณะนี้ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. กำลังเร่งลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อหาเสียงสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯในช่วงโค้งสุดท้าย
การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.วันที่ 22 พ.ค. ไม่ใช่ครั้งแรกที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดการเลือกตั้งในสถานการณ์แพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด แต่ที่ผ่านมา กกต.มีประสบการณ์จัดเลือกตั้งท้องถิ่นมาแล้ว ตั้งแต่การเลือกตั้งสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศระบาดไม่ต่ำกว่าหมื่นคน
สำหรับ การเลือกตั้งสนาม กทม.ครั้งนี้หน่วยงาน กทม.ได้กำหนดมาตรการจัดเลือกตั้งทั้ง 50 เขต ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 4 ส่วน ประกอบด้วย
• คูหาเลือกตั้ง
เลือกสถานที่เปิด มีการระบายอากาศที่ดี ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ เตรียมพื้นที่คูหาลงคะแนนให้เพียงพอกับประชาชนที่มาใช้สิทธิ เพื่อลดความแออัดขณะรอลงคะแนน
นอกจากนี้จัดเตรียมคูหาแยกสำหรับผู้ที่มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือประชาชนที่มีอาการเป็นหวัด ไอหรือจามผิดปกติ โดยเฉพาะเตรียมสถานที่สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด ในกลุ่มอาการไม่รุนแรง และได้รับการรักษาแบบ Home Isolation หรือได้รับการดูแลรักษาจากโรงพยาบาลระยะสั้นแล้วกลับมาพักฟื้นที่บ้าน สามารถออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดย กทม.จัดเตรียมสถานที่ ดังนี้
1.เตรียมพื้นที่โดยแยกพื้นที่ แยกโซน ไม่ปะปนกับคนทั่วไป ทั้งนี้ให้อยู่ในการกำกับของเจ้าหน้าที่และปรับให้เหมาะสมบริบทพื้นที่
2.เตรียมคูหาพิเศษ สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด สำหรับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ต้องสวมถุงมือ หน้ากากอนามัย face shield ในขณะปฏิบัติหน้าที่
• เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน
การเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค.2565 สำนักอนามัยกำหนดข้อปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด หรือร่วมกิจกรรมที่มีคนรวมกัน ก่อนการปฏิบัติงาน 5 วัน
2.กรณีเจ้าหน้าที่มีประวัติเดินทางไปในสถานที่มีความเสี่ยงสูง มีความใกล้ชิดกับบุคคลที่ติดเชื้อ หรือมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่และตรวจ ATK ก่อนการปฏิบัติงาน
3.สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในหน่วยเลือกตั้ง 4.หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูก ปาก หรือสัมผัสกับหน้ากากอนามัย
5.หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หรือเมื่อสัมผัสกับพื้นผิวหรือมือผู้อื่น
6.ระหว่างการนับคะแนน ควรจัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างน้อย 1-2 เมตร และขอความร่วมมือกับประชาชนให้หลีกเลี่ยงการตะโกนเชียร์ขณะนับคะแนน
7.เมื่อเสร็จจากการปฏิบัติหน้าที่และกลับถึงบ้านให้รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที
8.เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง 7 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยสงสัยติดเชื้อโควิดให้ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ทันที
• ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ติดโควิด
ขณะที่ข้อปฏิบัติสำหรับประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ดำเนินการ ดังนี้
1.เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เจลแอลกอฮอล์ ปากกาส่วนตัวสำหรับใช้ลงทะเบียนและกาบัตรเลือกตั้ง
2.สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อออกจากบ้านและขณะอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง
3.ตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าหน่วยเลือกตั้ง หากมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส เป็นหวัด ไอหรือจามผิดปกติ ให้ใช้สิทธิลงคะแนนในคูหาพิเศษ ที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้จัดเตรียมไว้
4.เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร
5.ทำการหย่อนบัตรเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่
6.ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนออกจากหน่วยเลือกตั้ง
• ผู้มีสิทธิเลือกตั้งติดเชื้อโควิด
ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด ต้องดำเนินการปฏิบัติวันลงคะแนนเลือกตั้ง 22 พ.ค.2565 ดังนี้
1.เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เจลแอลกอฮอล์ ปากกาส่วนตัวสำหรับใช้ลงทะเบียนและกาบัตรเลือกตั้ง
2 สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อออกจากบ้านหรือสถานที่กักตัวและขณะอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง
3.หลีกเลี่ยงการใช้บริการขนส่งสาธารณะโดยไม่จำเป็น แนะนำให้เดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งรถที่หน่วยงานท้องถิ่นมีการจัดเตรียมไว้เท่านั้น
4.เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร
5.ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ให้ออกจากบ้านหรือสถานที่กักตัว เพื่อไปเลือกตั้งตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ และเข้าคูหาสำหรับผู้ติดเชื้อโควิดเท่านั้น
6.ทำการหย่อนบัตรเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่
7.เมื่อเสร็จจากการเลือกตั้งให้รีบกลับบ้านหรือกลับสถานที่กักตัวทันที ไม่แวะทำกิจกรรมใดๆ ระหว่างทางโดยเด็ดขาด