"พระพยอม" พูดแล้ว! กรณีดราม่า "หลวงตาล้วงกอดสีกา" หลังคลิปแชร์ว่อนโซเชียล
ผิดเต็มๆ "พระพยอม" ชี้ "หลวงตาล้วงกอดสีกา" เป็นเมตตาแบบอวิชชา อ้างเป็นอัลไซเมอร์ฟังไม่ขึ้น ขณะที่ "พระหนุ่ม" ยุส่งเสริมถือว่าร่วมกันฆาตกรรมธรรมวินัยด้วย
พระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้ความเห็นกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปของ "เจ้าอาวาส" อายุ 100 ปี สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร ซึ่งถูกระบุว่ามีพฤติกรรมลวนลามสีกาด้วยการโอบกอด จับหน้าอก จับอวัยวะเพศ โดยอ้างตัวว่ามีคุณวิเศษในการรักษาโรคต่างๆ
ซึ่งต่อมาฝ่ายสีกาซึ่งเป็นผู้เสียหายรายหนึ่งได้ทำการซ่อนกล้องเพื่อแอบถ่ายพฤติกรรมของ เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์แห่งนี้ไว้เป็นเป็นหลักฐาน โดยพบว่าในขณะที่เจ้าอาวาสกำลังแสดงพฤติกรรมลวนลามผู้เสียหายอยู่นั้น มีพระหนุ่มซึ่งเป็นพระเลขาและลูกศิษย์ผู้ชายนั่งร่วมอยู่ด้วย จากคลิปที่ปรากฏนั้นพระหนุ่มพยายามพูดแนะนำให้หญิงสาวยินยอมให้เจ้าอาวาสโอบกอดและล้วงจับของสงวนด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ "พระพยอม" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ได้ให้ความเห็นว่า เห็นว่าลูกศิษย์ออกมาปฏิเสธพัลวันว่าหลวงตารูปนี้เป็นอัลไซเมอร์ แต่คงฟังไม่ขึ้น เรื่องนี้ไม่ได้แย่แค่หลวงตารูปนี้ แต่พระหนุ่มซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆด้วย กลับไปสนับสนุนชี้แนะให้ฝ่ายหญิงเข้าไปให้หลวงตาทั้งล้วงทั้งกอดใกล้ๆ ด้วยอ้างว่าหลวงตาเมตตานั้น โบราณถึงบอกว่า "ไม่รู้ต้องไม่ชี้"
พระหนุ่มไม่รู้หรือว่าการจับต้องกายหญิงนั้นผิด ถึงจะอ้างว่าเป็นการจับต้องโดยไม่มีความกำหนัดก็ตาม แม้จะอ้างว่าเป็นการกระทำด้วยความเมตตา แต่มันเป็นเมตตาแบบอวิชชา ไม่ใช่เมตตาแบบปัญญา แล้วยิ่งพระหนุ่มไปชี้แนะให้หลวงตากระทำแบบนี้อีก ถือว่าหลวงตากับพระหนุ่มรูปนี้ได้ร่วมกันฆาตกรรมพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าแล้ว
พระพยอม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เจ้าคณะจังหวัดและสำนักพุทธต้องออกมาดำเนินการได้แล้ว โดยเฉพาะพระหนุ่มรูปนั้นด้วยที่ทำการยุยงส่งเสริม ซึ่งเกรงว่าจะรับพฤติกรรมแบบนี้ไปสืบทอดต่อ การจับต้องกายหญิงนั้นหากเป็นกรณีที่พระไปเห็นผู้หญิงตกน้ำแล้วกำลังจะจมน้ำแล้วพระไปช่วยไปดึงขึ้นมาจากน้ำโดยไม่มีความกำหนัดแบบนั้นไม่ผิด แต่นี่ถูกเนื้อต้องตัวแล้วไปล้วงไปจับของลับของสงวนอีก เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ แก้ตัวไม่ขึ้น ผู้รู้ย่อมตำหนิติเตียน
พระพยอม กล่าวต่ออีกว่า อาตมาอยากฝากบอกเตือนพระหนุ่มคนรุ่นใหม่ว่าอะไรที่ไม่รู้จริงอย่าไปชี้แนะนำเขา ไม่รู้ก็อย่าไปชี้ ไม่รู้ท่านบวชมากี่พรรษาถึงไม่รู้พระธรรมวินัย ไม่ศึกษานวโกวาท ว่าภิกษุจับต้องกายหญิงเป็นสังฆาทิเสส เหตุการณ์พระสงฆ์มีอุบายไปหลอกไปจับของสงวนฝ่ายหญิงในลักษณะนี้ในอดีตก็เคยมีเกิดขึ้นมาเหมือนกัน แต่ยุคนี้มีอุปกรณ์มีเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถบันทึกหลักฐานได้อย่างชัดเจน
ข่าวโดย ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ จ.นนทบุรี