"น้ำมันแพง" ประชาชนใช้บริการแพขนานยนต์มากขึ้น เหตุราคาถูกย่นระยะทาง
"น้ำมันแพง" ชาวกันตัง หันมาใช้บริการแพขนานยนต์ข้ามฟากกันมาก เพราะราคาถูกย่นระยะทาง ขณะที่เรือประมง - เรือขนส่งสินค้าไปต่างประเทศจอดสนิทนับปี อันเนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 65 จากสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงปรับราคาสูงขึ้น เช่น น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ หรือเบนซินอยู่ที่ลิตรละ 40 บาท และกลุ่มดีเซล ปรับราคาขายปลีกสูงขึ้นลิตรละ 32 บาท ทำให้ผู้ใช้รถต้องประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น จะพบว่าที่ท่าแพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำตรัง จากตัวเทศบาลเมืองกันตัง ถึง บ้านท่าส้ม มีประชาชนที่ใช้รถทุกชนิดทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หันมาใช้บริการกันมากกว่าปกติ เพราะสามารถย่นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ดังนั้นจะเห็นรถทุกชนิดข้ามฟากแม่น้ำตรังกับแพขนานยนต์กันมากในช่วงนี้เพราะค่าบริการแพขนานยนต์ถูกกว่าน้ำมันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ขับระยะทาง 10 กิโลเมตร อัตราค่าโดยสารแพขนานยนต์ทางเทศบาลเมืองกันตังเก็บในอัตราที่ถูกมากๆ รถยนต์กระบะ เก๋ง คันละ 10 บาท รถจักรยานยนต์ 5 บาท และคนโดยสารคนละ 2 บาทเท่านั้น
ที่ท่าเทียบเรือต่างประเทศเทศบาลเมืองกันตัง มีเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจำนวนมาก เรือประมง และเรือท่องเที่ยว ยังไม่สามารถแล่นออกทะเลได้มาจากหลายปัจจัย เรือขนส่งสินค้าต่างประเทศช่วงประเทศจีนปิดประเทศการระบาดโรคโควิด-19 ไม่นำเข้าสินค้า เช่น ไม้ยางพาราแปรรูป น้ำยางข้น และสินค้าอื่นๆ จากประเทศไทย รวมไปถึงเรือขนส่งสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเช่น ปูนซิเมนต์เม็ด แร่ยิปซั่ม และอื่นๆ ไม่มีสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ทำให้เรือขนส่งสินค้าจำนวนมากจอดทอดสมอมานานนับปีแล้ว
ส่วนเรือประมงพาณิชย์ ก็เช่นกัน ต่างประสบปัญหาราคาน้ำมันดีเซลมีราคาแพงลิตรละ 32 บาท ทยอยกลับเข้าฝั่งจอดทอดสมอที่ท่าแพของตนเองกันเป็นจำนวนมาก ส่วนเรือบางลำก็ยังนำเรือออกทะเล เพื่อไปทำการประมง เพราะบางครั้งโชคดีอาจจะจับปลาและสัตว์น้ำได้กลับเข้าฝั่งพอมีกำไรบ้าง เพราะหากจอดเลยทำให้มีค่าใช้จ่ายคนงาน แต่ส่วนใหญ่ดูสถานการณ์น้ำมันดีเซลว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายอย่างไรกับกลุ่มประมง แต่หากยังไม่มีทางช่วยเหลือ ออกเรือแต่ละครั้งก็ขาดทุน อาจจะต้องจอดทั้งหมดในวันข้างหน้า
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์