สยอง! กองทัพลูกงูเห่าบุกยึดบ้าน พบแล้ว 14 ตัว เจ้าของต้องย้ายหนี

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 ที่จ.สงขลา นายเอราวัณ มามะ อายุ 43 ปี หรือบังแบ เช่าบ้านเลขที่ 46/6 หมู่ 2 บ้านม่วงค่าย ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยปูน อยู่กับภรรยา และลูกอีก 3 คน รวม 5 คน มีเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าของบ้านต้องหวาดผวาและขนหัวลุก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่า ต้องอาศัยอยู่กับกองทัพลูกงูเห่ามาเป็นเดือนๆ และเริ่มเลื้อยออกจากโพรงใต้พื้นบ้านยั้วเยี้ยเต็มบ้านจนต้องย้ายบ้านหนีเพราะอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว

โดยเริ่มพบลูกงูเห่าตัวแรกเลื้อยออกมาจากรูใต้พื้นปูนในห้องเก็บของหลังบ้านเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จากนั้นทุกวันก็พบลูกงูเห่าเลื้อยออกมาจากโพรงอย่างต่อเนื่อง และไปขดตัวนอนอยู่ทั้งในรองเท้านักเรียนลูก ใต้หมอนที่นอน ใต้ผ้านวม ใต้กองผ้า ในตู้ ในกล่องเครื่องมือ ในถุงกระดาษ เรียกว่าแทบทุกซอกทุกมุมในบ้านโดยเฉพาะห้องนอนและห้องเก็บของ กลายเป็นที่อาศัยของลูกงูเห่า

จนสุดท้ายต้องอพยพครอบครัวออกไปอาศัยอยู่บ้านญาติในหมู่บ้านเดียวกันชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพราะอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว งูเห่าเต็มบ้านกลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะเชื่อว่าน่าจะมีลูกงูเห่าอยู่ในโพรงใต้พื้นบ้านอีกจำนวนมาก

จนเมื่อวานนี้หลังจากที่ย้ายออกจากบ้าน จึงตัดสินใจค้นหาที่ซ่อนของมันโดยใช้วิธีฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปตามรูตามซอกในบ้าน ปรากฏว่าไม่นานลูกงูเห่าพากันเลื้อยออกมาจากโพรงถึง 7 ตัว และล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันนี้ (ที่ 24 พ.ค.65) ที่ผ่านมาก็เพิ่งพบอีก1 ตัวสดๆร้อนๆ

เบ็ดเสร็จลูกงูเห่าที่เจอในบ้านทั้งหมด14 ตัวและต้องตีพวกมันจนตายเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรมันมากจนจับไม่หมด นอกจากนี้ยังพบคราบงูเห่าที่เพิ่งลอกคราบอีกนับ 10 คราบทั่วบ้านไม่ว่าจะเป็นในรองเท้าลูก กล่องเก็บของ ข้างตู้ ใต้เสื่อ

นายเอราวัณ เล่าว่า เป็นไปได้ว่าครอบครัวของตนอาศัยอยู่กับฝูงงูเห่ามาเป็นเดือนๆแล้ว ตั้งแต่มันมาวางไข่ ออกลูก โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์ที่พวกมันน่าจะเริ่มเลื้อยออกมาจากโพรงให้เห็น

แต่โชคดีมากที่คนในบ้านปลอดภัย เพราะปกติช่วงกลางวันที่ลูกงูเห่ามักจะออกมาจากโพรงไม่มีใครอยู่บ้านโดยเฉพาะลูกๆ เพราะจะออกไปเปิดร้านขายของในหมู่บ้าน จะกลับมานอนเฉพาะในตอนกลางคืน หรือในตอนกลางคืนอาจจะออกมาแต่พวกตนหลับจึงไม่เห็น

และทุกครั้งที่พบลูกงูเห่ามันจะส่งเสียงฟู่ๆขู่ก่อนจึงตั้งตัวทัน และเชื่อว่าพวกมันน่าจะทำรังและอาศัยอยู่ในโพรงใต้พื้นบ้าน และเชื่อว่าน่าจะมีอีก

จึงตัดสินใจอพยพครอบครัวออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านญาติชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวานนี้ และจะไม่กลับมาอาศัยที่บ้านเช่าหลังนี้อีกแล้ว เพราะไม่ปลอดภัยเป็นห่วงลูกๆ และทางเจ้าของบ้านเช่าก็เตรียมปรับปรุงบ้านหลังนี้ใหม่ทั้งหมดเพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยของงูเห่าอีกต่อไป

ด้านนายบุญมา พิณทอง อายุ 62 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเช่าบ้านหลังนี้อาศัยอยู่มาก่อนบอกว่าเมื่อราว1 เดือนก่อนก็เพิ่งพบงูเห่าขนาดเท่าข้อมือ 2 ตัวกำลังลอกคราบอยู่ข้างบ้านหลังนี้ และตีจนตายซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นพ่อแม่งูเห่าฝูงนี้