"ผักแพง" ชาวสวนแจงเหตุต้นทุนสูง-ฝนถล่ม ผักชีราคาพุ่งขายหน้าสวนกิโล 120 บาท

วันนี้ (2 มิถุนายน 2565) จากกรณี "ผักแพง" ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านมะกอก หมู่ที่ 10 ต.สีมุม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ประกอบอาชีพปลูกผักสวนครัวขายให้กับพ่อค้าคนกลางตลาดค้าส่งผักผลไม้ เพื่อสำรวจผลกระทบต่าง ๆ จากภาวะ "น้ำมันแพง" ที่ทำให้สินค้าหลายอย่างพาเหรดขึ้นราคาพร้อมกันในช่วงนี้

 

 

กรณี "ผักแพง" จากการสอบถามนางยิ้ม อายุ 55 ปี ชาวบ้านมะกอก หนึ่งในเกษตรกรที่ปลูกผักสวนครัวขาย บอกว่า ตนนั้นปลูกผักสวนครัวหลายชนิด อาทิ โหระพา, กระเพรา, ผักขึ้นฉ่ายไทย และผักชี เป็นต้น

 

เมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ประสบกับปัญหาฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผักหลายชนิดเกิดใบขึ้นรา เน่าเสีย เป็นจำนวนมาก จึงเก็บผลผลิตขายได้น้อย ประกอบกับราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และน้ำมัน ก็แพงขึ้นทุกอย่าง ทำให้ต้นทุนการปลูกผักสูงขึ้นตามไปด้วย

 

นางยิ้ม เผยต่ออีกว่า ชาวบ้านที่ปลูกผักสวนครัวทุกคนในหมู่บ้านนี้ก็ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า ดังนั้นจึงทำให้ผักสวนครัวหลายชนิดขาดตลาด พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อก็ต้องตั้งราคาแข่งกันเพื่อให้สามารถซื้อผักไปขายในตลาดได้ ทำให้ตอนนี้ผักหลายชนิดปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง โดยเฉพาะผักชี และผักขึ้นฉ่ายไทย ซึ่งปลูกได้ยาก

 

 

พ่อค้าคนกลางรับซื้อให้ราคาสูงมากโดยเฉพาะผักชี ราคารับซื้อหน้าสวนกิโลกรัมละ 120 บาท ส่วนผักขึ้นฉ่ายไทย รับซื้อหน้าสวนกิโลกรัมละ 40 บาท แม้ว่าผักสวนครัวจะขายได้ราคาดี แต่ต้นทุนการปลูกก็สูง และราคาก็ไม่แน่นอน จึงไม่มีใครกล้าขยายแปลงปลูกเพิ่ม

 

นอกจากนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็มีอาชีพทำนาด้วย อย่างเช่นตนเองก็ทำนากว่า 20 ไร่ แต่มาเจอราคาปุ๋ย ราคายา และราคาน้ำมันที่แพงขึ้นมากในช่วงนี้ ก็ไม่รู้ว่าปีนี้จะทำนาต่อไปไหวหรือไม่ จึงฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือความเดือดร้อนของเกษตรกรด้วย

 

ข่าวโดย ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ จ.นครราชสีมา