เลือกใช้ "เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี หัวเตาแก๊ส" อย่างไร? ให้คุ้มค่าและประหยัด
ตั้งแต่ก๊าซหุงต้มมีราคาแพง ทำให้ทุกคนหันมาใช้ถ่านกันมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหาร อย่าง ร้านตามสั่ง หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป นอกจากนั้น ยังส่งผลให้ปริมาณความต้องการเตาถ่านมากขึ้น โดยตรงให้ความต้องการมีมากกว่าปริมาณถ่าน
การสั่งซื้อจากเตาเผาล่วงหน้าจำนวนมาก ส่งผลให้มีการปรับขึ้นราคาขายส่ง จากกระสอบละ 160 บาท ปรับขึ้นเป็น 180 บาท และราคาแบ่งขายปลีกจากราคาถุงละ 30 บาทก็จำเป็นต้องขึ้นเป็น 35 บาทในปัจจุบัน
แถมมีแนวโน้มว่าจะต้องปรับขึ้นอีก เพราะผู้ประกอบอาชีพเผาถ่านหลายๆ แห่ง ออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบันไม้ที่จะนำมาเผาถ่านหายากขึ้น ฉะนั้น การหันไปใช้เตาถ่านแทนเตาแก๊สเพื่อหวังลดค่าใช้จ่าย อาจจะไม่ตรงประเด็น หรือแก้ปัญหาได้ เนื่องจากถ่านหุงต้มก็ปรับราคาตามความต้องการของตลาดเช่นกัน
"เตามหาเศรษฐี" แทนการใช้ก๊าซหุงต้ม
เมื่อก๊าซหุงต้น ราคาแพงจนผู้ประกอบการ ร้านค้า ปรับเปลี่ยนความต้องการ “ก.พลังงาน” ได้ผุดไอเดีย ชวนประชาชนหันมาใช้เตาอั้งโล่ ชื่อ เตามหาเศรษฐี ทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม หลังจากที่มีการปรับราคาขึ้นสูง
โดย “เตามหาเศรษฐี” มีคอนเซปต์คือ "ดูรวม ๆ แล้วประหยัดเหลือเกิน เตามหาเศรษฐี" มีความร้อนสูง ประหยัดถ่าน ทนทาน ช่วยประหยัดเงิน เป็นเตาที่พัฒนาขึ้นมาทดแทนเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดทั่วไป มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนมากกว่าเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดถึง 29% ถ้าหากตามบ้านเรือนหันมาใช้เตามหาเศรษฐี จะสามารถประหยัดไม้ ฟืน และถ่าน ที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500 - 600 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และช่วยลดการใช้ก๊าซ LPG ในครัวเรือนด้วย
คุณสมบัติมีลักษณะเพรียว และน้ำหนักเบา ให้ความร้อนสูง อุณหภูมิกลางเตาประมาณ 1,000 - 1,200 องศาเซลเซียส ประหยัดถ่านกว่าเตาอั้งโล่ท้องตลาด 30 - 40% วางภาชนะหุงต้ม หรือหม้อ ได้ 9 ขนาด ขณะหุงต้มไม่มีควันและก๊าซพิษเกิดขึ้น เนื่องจากเผาไหม้สมบูรณ์ อายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 2 ปี
ทำความรู้จัก "เตาอั้งโล่" ทั่วไป
ขณะที่ “เตาอั้งโล่” ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเตาอั้งโล่เป็นอุปกรณ์สำหรับก่อไฟให้ความร้อนในการหุงต้มอาหาร มีรูปทรงคล้ายถัง ปากกลมผายออกเล็กน้อย ก้นสอบ ผนังเตาหนาประมาณ 2 นิ้ว ด้านหน้าเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยม พื้นเตาเป็นช่องให้อากาศเข้าหรือใช้พัดโบกให้ลมเข้าไปเพื่อเร่งไฟ ปากเตาทำเป็นจมูกเตาสำหรับวางก้นหม้อ 3 ปุ่มสูงขึ้นจากปากเตาเล็กน้อยเพื่อยกก้นภาชนะให้พ้นปากเตาและเป็นการระบายอากาศ
ภายในเตาระหว่างปากเตากับก้นเตามีรังผึ้งหรือตะกรับทำจากดินเผาเป็นแผ่นกลม เจาะรูเรียงกันเป็นวงเหมือนรังผึ้งเพื่อให้ขี้เถ้าร่วงลงไปยังก้นเตาและทำให้อากาศถ่ายเทด้วย เชื่อกันว่านำมาจากประเทศจีน เนื่องจากคำว่า "อั้งโล่" มาจากภาษาแต้จิ๋ว แปลว่าเตาสีแดงซึ่งเป็นสีของดินเผา
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการนำมาใช้ในดินแดนประเทศไทยแต่เมื่อใด สันนิษฐานว่าอาจจะมีการนำเข้ามาเมื่อราว 100 ปีมาแล้ว เนื่องจากมีการค้าขายเริ่มแรกระหว่างประเทศไทย-จีน หรืออีกนัยหนึ่ง อาจจะมีการนำเข้ามาเมื่อตอนชาวจีนพวกหนึ่งอพยพเข้ามาในประเทศไทยเนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองในช่วงราว 100 ปีมาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อ.เจษฎ์ เทียบชัดๆ เตาอั้งโล่ (มหาเศรษฐี) VS เตาแก๊ส อะไรใช้พลังงานมากกว่ากัน
เตามหาเศรษฐี คือ? ซื้อได้ที่ไหน เปิดพิกัดแหล่งขาย เช็กราคาได้ที่นี่!
จาก "เตามหาเศรษฐี" สู่การสำรวจ "ราคาถ่าน" แต่ละชนิดแพงแค่ไหน?
บุกโรงงานผลิต "เตามหาเศรษฐี" ยันประหยัดพลังงาน ใช้ถ่านน้อย - ติดไฟนาน
ความแตกต่างระหว่างเตาอั้งโล่ทั่วไป VS เตามหาเศรษฐี
ทั้งนี้ สำหรับคุณสมบัติของ "เตามหาเศรษฐี" หรือ "เตาอั้งโล่" มีดังนี้
- คุณสมบัติของ “เตามหาเศรษฐี”
- มีลักษณะรูปร่างเพรียว เคลื่อนย้ายสะดวก ทนความร้อน แข็งแรงทนทาน
- วางหม้อได้ 9 ขนาด เบอร์ 16-32
- เส้าเตาสูงกวาขอบเตาเล็กน้อยและขอบเตาเสมอกันโดยรอบ
- สูญเสียความร้อนน้อย
- ช่องบรรจุถ่านเล็ก บรรจุถ่านได้ 400-500 กรัม พอเหมาะต่อ 1 มื้อ
- รังผึ้งหนา และทนทาน
- รูรังผึ้นเล็กและเรียว และดูดอากาศได้ดี
- มีฉนวนกันความร้อนได้นาน
- ถังเปลือกเตาหนา ผุกร่อนช้า
- ความร้อนสูง 1,000-1,200 องศาเซลเซียล
- ราคา 200-250 บาท
- อายุการใช้งานยาวนาน 2 ปี
- สิ้นเปลืองถ่านน้อย ประหยัดถ่านได้ 30-40%
- คุณสมบัติ "เตาอั้งโล่" ทั่วไป
- มีลักษณะ รูปร่างเทอะทะ ทำให้ความร้อนถูกดูดเข้าไปในตัวเตามาก ทำด้วยดินเหนียวธรรมดาแตกชำรุดง่าย ใหญ่ หนา เทอะทะ
- วางหม้อได้แค่ขนาดเล็ก 1-2 ขนาด
- เส้าเตาสูงและขอบเตาเว้ามาก
- สูญเสียความร้อนมาก
- ช่องบรรจุถ่านใหญ่ ต้องใส่ถ่านมากเกินความจำเป็น
- รังผึ้งบาง ชำรุดง่าย
- รูรังผึ้งใหญ่ดูดอากาศไม่ดี
- ไม่มีฉนวนกันความร้อน หรือมีแต่บางเก็บความร้อนไม่ดี
- ถังเปลือกเตาบาง ผุกร่อนเร็ว
- ความร้อนต่ำ 500-600 องศาเซลเซียส
- อายุการใช้งานสั้นประมาณ 1 ปี
- สิ้นเปลืองถ่านสูง ไม่ประหยัดถ่าน
- ราคา 80-120 บาท
"หัวเตาแก๊สอินฟาเรด" นวัตกรรมประหยัดแก๊ส
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์แนะนำ ได้โพสต์ข้อความแนะนำสำหรับผู้ที่มาสะดวกใช้ “เตามหาเศรษฐี” ให้ใช้ “เตาอินฟาเรด" นวัตกรรมประหยัดแก๊สอย่างมีประสิทธิภาพแทนแนะนำ "หัวเตาแก๊สอินฟาเรด" นวัตกรรมประหยัดแก๊ส (และวิธีต่างๆ ในการประหยัดแก๊สหุงต้ม)
ช่วงนี้กระแสเรื่องหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน กำลังเป็นประเด็นใหญ่ หลังจากที่ค่าใช้จ่ายด้านนี้พุ่งสูงขึ้นทุกอย่าง ไม่ว่าจะค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน (โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน) ไปจนถึงค่าแก๊สหุงต้ม (ที่ขึ้นราคาต่อเนื่อง 1 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ต่อเดือน จนทำให้ตอนนี้ราคาแก๊สถัง 15 กิโล มาอยู่ที่ 363 บาท และจะเป็น 408 บาทในเดือนกันยายนนี้)
ถ้าไม่มีครัวที่อยู่กลางแจ้ง จะหนีจากที่ใช้แก๊สหุงต้มในการประกอบอาหาร ไปใช้เตาถ่าน "เตามหาเศรษฐี" ก็ไม่สะดวกอีก เพราะต้องมากังวลเรื่องฝุ่นควันเรื่องก๊าซพิษที่เกิดขึ้น (ถึงจะเคลมว่าไม่มี ก็ดูไม่ค่อยน่ามั่นใจตามด้วยนะ) ใช้งานก็ไม่ค่อยสะดวก ติดไฟก็ไม่เร็วเท่าเตาแก๊ส แถมราคาถ่าน ก็ขึ้นตามมาอีก (ตอนนี้ราคาถุงละ 35 บาท จากเดิมถุงละ 30 บาท)
"หัวเตาแก๊สอินฟาเรด" น่าสนใจดี เนื่องจากหัวเตาแก๊สแบบอินฟาเรดใช้แก๊สน้อยกว่าหัวแบบทองเหลือง ได้กว่า 40% เลยทีเดียวและก็แถมเรื่อง ทริคต่างๆ ในการใช้แก๊สหุงต้มให้ประหยัด ด้านล่างด้วย "#หัวเตาแก๊สแบบอินฟาเรด VS #เตาแก๊สแบบธรรมดา"