ขู่ปิด 15 วันหากพบผิดซ้ำ ปม "แมลงสาบ" ไต่ยั้วเยี้ยเต็มหม้อชาบู - ผจก.ร้าน ลาออกแล้ว
ผอ.ส่วนส่งเสริมอนามัยสิ่งแวดล้อม ระบุหากเจอทำผิดซ้ำอีกจะสั่งปิดร้าน 15 วันทันที กรณีพบแมลงสาบไต่ในหม้อชาบู ขณะที่ ผู้จัดการบุฟเฟ่ต์ชาบูร้านดังลาออก แสดงความรับผิดชอบแล้ว
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวใน "กลุ่มคนรักบุฟเฟต์" ถึงเหตุการณ์ณ์ที่ทำเอาคอบุฟเฟ่ต์ชาบูสะเทือนใจไม่น้อย เมื่อไปกินชาบูร้านดังแห่งหนึ่งแต่กลับพบ “แมลงสาบ” ไต่ยั้วเยี้ยเต็มหม้อชาบู
ล่าสุด ( 6 ก.ค.65) นายเพิ่มพงษ์ พุ่มวิเศษ ผอ.ส่วนส่งเสริมอนามัยสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครนนทบุรี และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านบุปเฟ่ต์ที่เกิดเรื่องตามคลิปตามคำสั่งของนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมีตัวแทนร้านบุฟเฟ่ต์ที่เกิดเหตุและตัวแทนห้างดังย่านรัตนาธิเบศร์ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว พร้อมทั้งสอบถามถึงสาเหตุที่มีแมลงสาบออกมาจำนวนมากตามคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียล
นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอภาพข่าวคลิปเหตุการณ์ที่มีลูกค้าเข้าไปรับประทานอาหารในร้านอาหารบุปเฟ่ต์ ก่อนจะพบว่ามีแมลงสาบจำนวนมากวิ่งไต่ออกมาจากหม้อชาบูจนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสะอาดนั้น ซึ่งหลังทราบข่าวทางเทศบาลนครนนทบุรีได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าทางร้านบุฟเฟ่ต์มีการดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี
แต่สาเหตุที่มีแมลงสาบจำนวนมากนั้นน่าจะเกิดจากเศษอาหารที่ตกเข้าไปอยู่ภายในท่อสายไฟหรืออยู่ในเตาไฟฟ้า เมื่อถูกความร้อนแมลงสาบจึงไต่หนีมาที่หม้อชาบูตามคลิปที่ปรากฏ ทางเทศบาลนครนนทบุรีจึงได้กำชับให้ทางร้านทำการพ่นยาฆ่าแมลงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันในเรื่องสัตว์พาหะนำโรคที่วิ่งมาตามท่อซึ่งทางเทศบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสุขลักษณะเป็นประจำ รวมทั้งการตรวจเรื่องสุขาภิบาลอาหารตรวจสถานที่ โดยการออกตรวจร้านอาหารทั่วในพื้นที่ปีละ 2 ครั้ง
นอกจากนั้นถ้ามีเรื่องร้องเรียนจากประชาชนก็จะลงตรวจตามที่ร้องมา ถ้าตรวจสอบพบว่าไม่ได้มาตรฐานจะมีกฎหมายตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขของเทศบาล ให้ทำการแก้ไขปรับปรุง หากไม่มีการแก้ไขปรับปรุงทางเทศบาลก็จะดำเนินการสั่งพักใช้ใบอนุญาต 15 วัน และถ้าหากยังไม่ดำเนินการจะพักใช้ใบอนุญาต และตามด้วยยกเลิกใบอนุญาต
นายเพิ่มพงษ์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์นี้ได้คุยกับทางผู้จัดการร้านคนใหม่ได้รับการชี้แจ้งว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นผู้จัดการร้านอีกคนหนึ่งเป็นคนดูแลร้าน ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวออกไปรุนแรงและส่งผลกระทบต่อร้านมากขนาดนี้ ทำให้ผู้จัดการร้านคนดังกล่าวขอลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว และผู้จัดการใหม่คนปัจจุบันมาทำหน้าที่แทนพร้อมกับประสานและแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทางเทศบาลนครนนท์รับทราบ โดยให้ความร่วมมือในตรวจสอบเป็นอย่างดี
และหลังเกิดเรื่องทางบริษัทเจ้าของสาขาได้สั่งการให้ทางร้านเร่งทำความสะอาด พ่นยาฆ่าแมลงทุกสัปดาห์ พร้อมกับกำชับให้พนักงานดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ โดยเน้นย้ำไม่ให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามโต๊ะและภาชนะโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ทางร้านบุฟเฟ่ต์ได้ติดต่อไปยังลูกค้าคนดังกล่าวแล้วเพื่อขอโทษและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น