"ครูแดน" ครูสอนคิวบู๊ชื่อดัง ถูกจับรีดค่าไถ่ 24 ล้านบาท - ยังไม่รู้ชะตากรรม
ว้าแดงจับ "ครูแดน" ครูสอนศิลปะการต่อสู้แนวหน้าของประเทศไทย รีดค่าไถ่ 24 ล้านบาท ยังไม่ทราบชะตากรรม ด้านแม่ ร้องขอความช่วยเหลือ กระทรวงต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและญาติของ นายระม้าย โมริพันธ์ หรือ "ครูแดน" อายุ 40 ปี ชาว จ.สกลนคร มีอาชีพเป็นผู้กำกับละครและครูสอนศิลปะการต่อสู้ ให้กับดารานักแสดงในวงการบันเทิงของประเทศไทย ได้พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่เมียนมาและกองทัพสหรัฐว้า ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) หรือว้าแดง ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เพื่อขอให้ปล่อยตัว "ครูแดน" กลับประเทศไทย เนื่องจากได้ถูกทหารว้าจับไปคุมขังเอาไว้ที่เมืองโต๋น ห่างจากชายแดนไทยเข้าไปประมาณ 150 กิโลเมตร โดยที่ไม่มีความผิดใดๆ
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นางคำ โมริพันธ์ มารดาของ "ครูแดน" ได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ช่วยบุตรชายโดยระบุว่า
บุตรชายได้ถูกกลุ่มคนหลอกเข้าไปทำงานในประเทศเมียนมา และต่อมาทราบว่าถูกคุมขังอยู่ที่เมืองโต๋น และถูกใช้แรงงานอย่างหนัก จากนั้นกลุ่มดังกล่าวบังคับให้ "ครูแดน" ติดต่อกับตนเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 24 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวกลับประเทศไทย
ทั้งนี้ ยังมีการข่มขู่ว่าหากแจ้งเจ้าหน้าที่ไทยหรือขอความช่วยเหลือจะถูกฆ่า โดยได้ร้องทุกข์ไปยังคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย และกองกำลังผาเมืองซึ่งเป็นหน่วยงานทหารที่ดูแลพื้นที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์นายระม้าย หรือ "ครูแดน" หายตัวไปในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ซึ่งนางคำได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดนายระม้ายยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เมืองโต๋น ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
อย่างไรก็ตาม ในหนังสือขอความช่วยเหลือนางคำ ได้แนบจดหมายที่นายระม้ายแอบเขียน และส่งผ่านสื่อสาธารณะหรือโซเซียลมีเดียระบุว่า ตนถูกส่งไปอยู่ที่คุกเมืองโต๋นเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยถูกทารุณกรรมทั้งร่างกาย และจิตใจอย่างสาหัส ต้องใส่โซ่ตรวนที่ขา และถูกบังคับใช้แรงงานตั้งแต่เวลา 05.00 น.จนถึงค่ำทุกวัน
“งานที่ทำนั้นหนัก เช่น ตัดไม้ ฯลฯ ต้องตากแดดและฝนจนเจ็บไข้ กล้ามเนื้ออักเสบและไม่มียารักษา รวมทั้งมีอาการปวดบ่าและไหล่ทั้ง 2 ข้างเพราะกล้ามเนื้อฉีกขาด อาหารมีเพียงข้าวและน้ำต้มผักทุกวัน โดยผัก 1 กำกินกัน 10-20 คน ส่วนกลางคืนก็แทบไม่ได้นอน เพราะหนูเยอะมาก พลิกตัวก็มีโซ่กดทับรัดขา เมื่อลุกเดินก็เดินไปได้ทีละคืบ โซ่รัดจนเป็นแผลที่ขาแต่ได้ฝืนทน ครั้นจะหนีก็มีคนบอกว่าจะยิงทิ้ง”
"ครูแดน" ระบุอีกว่า ตนเคยถูกคนสั่งให้นำไปยิงทิ้งแล้ว 2 ครั้ง แต่คนดูแลสถานที่หรือพ่อเลี้ยงรู้ว่าตนไม่ได้ทำความผิดอะไรจึงให้งดไว้เสียทำให้รอดมาได้ ทั้งนี้นอกจากตนยังมีคนไทยถูกหลอกไปคุมขังเหมือนตนอีก 1 คน แล้วมักจะมีคนไปสอบถามว่าพวกตนเอาเงินไปใช่หรือไม่ ซึ่งพวกตนก็ได้แต่บอกว่าไม่ได้นำเงินไปและไม่รู้เรื่องใดๆ
แหล่งข่าวชายแดนระบุว่า ก่อนที่ "ครูแดน" จะถูกคุมขังและต้องประสบกับทารุณกรรมในดินแดนของว้าแดง เขาได้รับการประสานจากคนในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย ให้พาคณะหรือทีมงานไปถ่ายทำภาพยนตร์ทำให้ "ครูแดน" และพวกลักลอบเข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็ก แต่ปรากฏว่ารองานอยู่นานหลายวันก็ไม่มีงานทำ ทำให้คนอื่นๆ เดินทางกลับประเทศไทย
ส่วน ครูแดน ได้ถูกนาย "ชัย" ผู้มีธุรกิจสีเทาและมีอิทธิพลอยู่ในเขตของว้าแดงแจ้งว่า จะพาไปพักที่แห่งใหม่โดยให้คนไปรับ แต่ปรากฎว่าได้พาเดินทางไกลถึงเมืองโต๋น และคุมขังเหมือนเป็นนักโทษโดยที่ไม่มีความผิด จากนั้นบังคับให้ทำงานหนักนานกว่า 3-4 เดือน และเรียกค่าไถ่ 24 ล้านบาทดังกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุที่ ครูแดน ถูกกระทำเช่นนี้ คาดว่าอาจเกิดจากมีคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้วไม่นำเงินไปจ่ายที่ต้นทางการผลิต จึงได้ลักลอบพาตัวคนไทยไปกล่าวหาว่าเป็นคนนำยาเสพติดไปแล้วไม่จ่ายเงิน จากนั้นให้กองกำลังของว้าสอบปากคำและใช้งานหนักดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เนื่องกรณีครูแดนได้รับความเมตตาจากผู้บริหารคุกจึงลดการทำงานหนักลงแล้ว โดยให้ไปทำงานบ้านที่บ้านรองผู้บริหารคุกคนหนึ่ง บางครั้งออกไปจ่ายตลาดกับภรรยารองผู้บริหารคนดังกล่าว รวมทั้งครั้งหนึ่งเคยจะถูกปล่อยตัวกลับด้วย แต่ปรากฎว่าได้มีบุคคลคาดว่าคือนายชัยแจ้งไม่ให้ปล่อยตัวทำให้ต้องทนทุกข์อยู่ในแดนว้าจนถึงปัจจุบัน