พุทธศาสนิกชนกว่าพันคน ร่วมสืบสานประเพณีแห่ผ้าห่มพระพุทธไสยาสน์

พุทธศาสนิกชนกว่าพันคน ร่วมสืบสานประเพณีแห่ผ้าห่มพระพุทธไสยาสน์

พุทธศาสนิกชนกว่า 1,000 คน ร่วมสืบสานประเพณีแห่ผ้าห่มพระพุทธไสยาสน์ ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 65 ที่วัดสุวรรณคูหา (วัดถ้ำ) ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงากว่า 1,000 คน ร่วมงานประเพณีแห่ผ้าห่มพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน องค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำมานานมากกว่า 150 ปี และร่วมกันแห่เทียนพรรษา เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2565 โดยมีการจัดขบวนแห่ที่มีนางรำจากทุกหมู่บ้านใกล้วัดและจากอำเภอเมืองพังงากว่า100 คน ร่ายรำกันอย่างสวยงามนำหน้าขบวน ต่อด้วยขบวนแห่จากครู-นักเรียน และชาวบ้าน ซึ่งต้องใช้วงดนตรีและเครื่องเสียง 3ชุด ร่วมสร้างความคึกคักให้กับขบวนแห่ ทำให้น้องๆเด็กนักเรียน ทนความมันของเสียงดนตรีไม่ไหวร่วมโชว์ลีลาเต้นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งขบวนมีความยาวเกือบ1กิโลเมตร

จากนั้นพระปลัดธนารักษ์ พุทธรักขิโต รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณคูหา ได้นำกล่าวคำถวายผ้าห่มพระพุทธไสยาสน์ ก่อนจะร่วมกันส่งผ้าขึ้นห่มองค์พระ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีแห่ผ้าห่มพระพุทธไสยาสน์ ของชาวตำบลกระโสม ที่ได้หยุดจัดงานนี้ไปร่วม2ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทางวัดสุวรรณคูหาได้รับความร่วมมือผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชนจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันอาสาฬหบูชา
 

สำหรับพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน มีขนาดความยาว 7 วา 2 ศอก ตามประวัติได้บันทึกไว้ว่า พระยาบริสุทธิโลหะภูมินทราธิบดี ผู้สำเร็จราชการเมืองตะกั่วทุ่ง ได้มีดำริให้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์และสร้างวิหารขึ้น โดยจ้างช่างชาวจีนและไทย ในปี พ.ศ. 2401 ส่วนวัดสุวรรณคูหาหรือวัดถ้ำนั้น มีสร้างเป็นวัดอยู่ภายในถ้ำมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา