เตรียมผลักดันสวัสดิการให้แรงงานนอกระบบ ชี้เป็นกลไกเชื่อมสู่ประตูการค้า

เตรียมผลักดันสวัสดิการให้แรงงานนอกระบบ ชี้เป็นกลไกเชื่อมสู่ประตูการค้า

"นิยม" โปรยยาหอม เตรียมผลักดันสวัสดิการให้แรงงานนอกระบบ ชี้เป็นกลไกเชื่อมสู่ประตูการค้า

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 65  ที่ศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "การขับเคลื่อนผลผลิตแรงงานนอกระบบเชื่อสู่ประตูการค้า" ทั้งนี้เพื่อยกระดับฝีมือ และสวัสดิการของแรงงานนอกระบบ โดยมี นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายเทวา ปัญญาบุญ ปลัดจังหวัดพะเยา นายบรรพต โพธิ์นุต สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพะเยา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและกลุ่มแรงงานนอกระบบให้การต้องรับ
 

นายบรรพต กล่าวว่า การขับเคลื่อนแรงงานนอกระบบฯ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แรงงานนอกระบบมีความตระหนักรู้ถึงความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตลอดจนเปิดโอกาสให้กลุ่มอาชีพ ภาคีเครือข่ายแรงงานได้แสดงผลงาน ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีความโดดเด่นในอัตลักษณ์และเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนระดับห้าดาวของจังหวัดพะเยา เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ตลอดจนกระตุ้นให้กลุ่มอาชีพ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกิดการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจภายในจังหวัดพะเยา

กิจกรรมประกอบด้วย การมอบรางวัลให้กับเครือข่ายแรงงานนอกระบบที่มีผลงานดีเด่น สถานประกอบกิจการที่มีแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี และมีมาตรฐาน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ การจัดนิทรรศการ โชว์ผลงาน และรางวัลของสตรีจังหวัดพะเยาที่ได้รับรางวัลผู้ประกอบอาชีพดีเด่น และเครือข่ายดีเด่นซึ่งได้รับรางวัลระดับประเทศ ภายในงานมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบการในจังหวัดพะเยา และสินค้าจากผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวม 30 กลุ่ม ซึ่งแรงงานนอกระบบที่มาร่วมงานในวันนี้ มาจากชมรมแรงงาน นอกระบบจังหวัดพะเยา เครือข่ายกลุ่มอาชีพในเขตเทศบาลเมืองพะเยา เครือข่ายผู้ประกันตนมาตรา 40 ผู้ประกอบอาชีพอิสระ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด

ด้านอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันแรงงานนอกระบบมีเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงแรงงานภาคการเกษตรด้วย ซึ่งทางกรมฯ ก็ได้มองเห็นถึงปัญหาและพยายามปรับปรุง ผลักดันในข้อกฎหมาย เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้ได้รับการคุ้มครอง ในขณะเดียวการทางกรมแรงงานฯก็ได้ยกร่างพราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ซึ่งจะทำให้แรงงานนอกระบบทั้ง 21 ล้านคนทั่วประเทศได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างดีเหมือนแรงงานปกติ ทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างยั่งยืน