"ทนายตั้ม" เชื่ออดีต "ผู้กำกับโจ้" ไม่อุทธรณ์ "คดีคลุมถุงดำ" เพราะเหตุนี้?
ไม่เชื่อจะสำนึกผิด! "ทนายตั้ม" ตั้งข้อสังเกตอดีต "ผู้กำกับโจ้" ไม่อุทธรณ์คดีคลุมถุงดำผู้ต้องหาดับคาโรงพัก เชื่อหวังให้คดีถึงที่สุดจะได้เข้าเกณฑ์อภัยโทษ ไม่กี่ปีก็ได้ออกมาแล้ว
วันนี้(4 สิงหาคม 2565) จากกรณีที่นางจันทา มารดาของอดีต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต "ผู้กำกับโจ้" ได้เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาว ไปยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำทรมานผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิตคาโรงพัก และศาลได้ลดโทษให้ผู้กำกับโจ้เหลือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
โดย มารดาของอดีต "ผู้กำกับโจ้" กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวแล้ว และรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ขาดความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และพร้อมจะน้อมรับโทษตามที่ศาลพิพากษา ไม่ประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ หรือ ฎีกา โดยให้โทษเป็นไปตามที่ศาลพิพากษาไว้
ขณะที่ น้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ เผยว่า พี่ชายของตนนั้นขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ทำไป จึงขอรับโทษตามที่ศาลพิพากษา พร้อมจะจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามที่ได้มีการตกลงกันไว้
ล่าสุด "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีที่อดีตผู้กำกับโจ้สำนึกผิดแล้วกับสิ่งที่ได้ทำลงไป โดยระบุว่า
"ผมไม่เชื่อว่าผู้กำกับโจ้จะสำนึกผิดจริง เพราะเดือนก่อนยังขู่อาฆาตผมจากในเรือนจำ ว่าที่ต้องติดคุก เพราะผมเปิดคลิปนาทีสังหาร แต่ที่ผู้กำกับโจ้ไม่อุทธรณ์ และเยียวยาโจทก์ร่วม เพราะต้องการให้คดีถึงที่สุด เพื่อเข้าหลักเกณฑ์ได้รับอภัยโทษ
หลายคนสงสัยว่าแบบนี้ผู้กำกับโจ้จะติดคุกจริงกี่ปี เป็นคนอื่นคงจะมี 15 ปี แต่ระดับผู้กำกับโจ้ผมว่าคงหวังว่าจะติดซัก 5-7 ปี ก็ออกมาลัลล้าได้แล้ว"
ที่มา ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ