"กัน จอมพลัง" ลงเมืองคอนช่วยยาย-หลานถูกเก๋งชนไม่รับผิดชอบ

"กัน จอมพลัง" ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยยาย หลาน ถูกรถเก๋งพุ่งชนแล้วไม่รับผิดชอบ จากกรณีเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้" มีการโพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดพร้อมข้อความที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา โดยระบุว่า "พุ่งมาชนเอาดื้อ ๆ เลย ชนแล้วไม่เยียวยาไม่ดูแล เด็กเล็กเจ็บหนักก็ไม่คิดจะสนใจ เมื่อไหร่กฎหมายบ้านเราจะมีการแก้ไขเพื่อปกป้องดูแลผู้เสียหายอย่างเต็มที่สักที ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนจนถึงวันนี้ (เหตุการณ์รถชนหน้าโรงเรียนอนุบาลทวดทอง)

 

คุณขับรถชนเราแล้วคุณไม่เคยคิดที่จะติดต่อถามอาการเรา แม่เรา ลูกๆเราเลย ใจคุณทำด้วยอะไร เด็กหญิงอายุ 4 ขวบ เด็กชายอายุ 5 ขวบ แม่เราอายุ 58 ปี เราอายุ 29 ปี คุณไม่เคยคิดที่จะถามถึงอาการของพวกเราเลย คุณไม่เคยโทรมาแสดงความเสียใจ เจอกันในห้องฉุกเฉินทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลูกสาวเราอาการสาหัส แม่เราอาการสาหัส อยู่โรงพยาบาล 14-15 วันไม่มีแม้แต่จะให้ใครติดต่อมาเลย นอกจากเราโทรไป แต่คุณไม่รับสาย ใจคุณแน่มาก รอเจอกันในชั้นศาลนะถ้ายังไม่มารับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ (ปล.คนขับเก๋งสีดำชนเราโดยที่เราลงรถแล้วจะพาลูกเดินเข้าโรงเรียน)"

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(4 สิงหาคม 2565) เมื่อเวลา 10.00 น. "กัน จอมพลัง" ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีของ น.ส.ปานตา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวและแม่ของเด็ก ๆ ที่บาดเจ็บสาหัส จากกรณีถูกรถเก๋งพุ่งชนแล้วไม่รับผิดชอบ โดยเข้าพบกับ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

 

ซึ่ง "กัน จอมพลัง" ได้สอบถามความคืบหน้าทางคดี ซึ่ง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจไม่ได้นิ่งดูดาย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมได้เชิญตัวนายอำนวย (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ชาว อ.ฉวาง ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งที่ก่อเหตุ เข้าสอบสวนตามขั้นตอน โดยพนักงานสอบสวนมีการเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องตามขั้นตอน แต่ติดขัดที่ใบรับรองแพทย์ของผู้บาดเจ็บยังได้ไม่ครบ จึงต้องรอให้ทางโรงพยาบาลส่งใบรับรองแพทย์ของผู้บาดเจ็บมาให้ครบ จึงจะดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป

 

นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้เสียหายและคู่กรณีมาพบเพื่อไกล่เกลี่ยค่าเสียหายแล้วในเบื้องต้น แต่ยังตกลงค่าเสียหายเยียวยากันไม่ได้

 

 

ต่อมาทาง กัน จอมพลัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และสมาชิกสภาเทศบาล ได้ร่วมเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 22/3 ซอยชุมแสง 3 ถนนกะโรม อ.เมืองนครศรีธรรมราช พบว่า นางสมร อายุ 58 ปี (ยาย) และ ด.ญ.กัล อายุ 4 ปี ยังคงรักษาอาการบาดเจ็บที่บ้าน เป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยมีญาติ ๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นมีการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยประสานทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราชดูแลเรื่องการดูแลผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยเฉพาะแพมเพิสซึ่งมีความจำเป็นมากสำหรับผู้ป่วยติดเตียง

 

น.ส.ปานตา ลูกสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บ เผยว่า ตนร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับคุณ กัน จอมพลัง ซึ่งเบื้องต้นมีความสบายใจขึ้นเรื่องการดูแลแม่และลูกที่ป่วยติดเตียง แต่ยังกังวลเรื่องคดี เพราะคู่กรณีปฏิเสธที่จะช่วยเหลือทุกกรณี ผ่านมา 2 เดือนแล้ว คู่กรณีไม่เคยแสดงความรับผิดชอบหรือมาเยี่ยมเลย

 

ด้าน กัน จอมพลัง เผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ตนจึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ พบว่าในส่วนคดีนั้น ทางตำรวจไม่ได้นิ่งดูดาย แต่ยังติดขัดเรื่องใบรับรองแพทย์ของผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ซึ่งยังรักษากับทางโรงพยาบาล ทางตำรวจจึงไม่สามารถส่งฟ้องได้ แต่ทาง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ยืนยันว่าดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

 

ในส่วนทางคดีนั้นมีการตั้ง ทนายโนบิ ให้มาช่วยเหลือผู้เสียหายอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามตนได้ประสานกับทางตำรวจ และเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับญาติผู้เสียหาย นอกกจากนี้ทาง ร.อ.ธรรมนัท พรหมเผ่า ได้มอบหมายให้ตนนำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้กับผู้เสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้วย

 

ข่าวโดย ชชาดล เจริญพงศ์ จ.นครศรีธรรมราช