'นิด้า' รับสมัครนักศึกษา 'MPPM' กทม. รุ่น 28
"นิด้า" เปิดรับสมัครหลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนแห่งแรกของไทย รุ่นที่ 28 ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. หลักสูตรที่สร้างผู้บริหารระดับประเทศในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแถวหน้าของประเทศจำนวนมาก ได้รับการรับรองมาตรฐานจากAUNQA
รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐฐา วินิจนัยภาค ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต ภาคพิเศษ กทม. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2566 หลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต ภาคพิเศษ กรุงเทพมหานคร (Master of Public and Private Management : MPPM) รุ่นที่ 28
โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 (เปิดเรียนวันที่ 29 มกราคม 2566) โดยเปิดรับผู้มีประสบการณ์ทำงาน 1 ปีขึ้นไป คัดเลือกโดยการสอบสัมภาษณ์ ดาวโหลดใบสมัครได้ที่ http://gspa.nida.ac.th
ผู้สนใจสามารถรับสมัครออนไลน์ได้ที่ https://entrance.nida.ac.th และขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ (081) 513-9507 และ (081) 339 - 4835
สำหรับหลักสูตร MPPM ของนิด้า ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 27 ปี จากแนวคิดความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นโยบายรัฐต้องมีความรู้เบื้องต้นเดี่ยวกับหลักการ แนวคิด ความเข้าใจบทบาทของภาครัฐ รวมถึงบทบาทของภาคเอกชน
และในขณะเดียวกันภาคเอกชนควรทราบถึงที่มาของนโยบายภาครัฐ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจและความร่วมมือกัน
ปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้แล้วมากกว่า 5,000 คน ซึ่งหลายคนเป็นผู้บริหารระดับประเทศ ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี อธิบดี ผู้อำนวยการสำนักฯ และข้าราชการระดับสูงในหลายกระทรวง รวมทั้งในฝั่งของภาคเอกชนก็มีผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์หลายคนที่จบการศึกษาจากหลักสูตรนี้
ที่สำคัญหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรการจัดการภาครัฐและเอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวได้รับการรับรองมาตรฐานจากเครือข่ายการประกันคุณภาพมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network Quality Assurance : AUNQA) ด้วย
โดยจุดเด่นของหลักสูตร MPPM ภาคพิเศษของนิด้าประกอบด้วย
1.เป็นหลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย
2.สอนโดยคณาจารย์ระดับปริญญาเอก ด้านการจัดการภาครัฐและเอกชนมากว่า 36 ท่านที่มีประสบการณ์จากการสอน การวิจัย รวมทั้งการทำงานในคณะกรรมการระดับประเทศที่สามารถนำความรู้ความสามารถมาถ่ายทอดให้นักศึกษาได้
3.หลักูตรบูรณาการความรู้จากภาควิชาการ ภาคปฏิบัติ และประสบการณ์อย่างมีระบบซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
4.หลักสูตรนี้ช่วยเสริมสร้างแนวคิดและวิสัยทัศน์ การวิเคราะห์ให้กว้างไกลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล และยุค New Normal
และ 5.เป็นหลักสูตรที่ช่วยสร้างเครือข่ายจากหลายหลายวิชาชีพและหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน
การเรียนในหลักสูตรนี้กำหนดการเรียน การสอน เฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 17.00 น. โดยมีกำหนดเปิดภาคเรียนในช่วงเดือน ม.ค.ปี 2566
ทั้งนี้หลักสูตรนี้มีค่าใช้จ่ายในการเรียนประมาณ 218,500 บาท ตลอดหลักสูตรรวมค่าดูงานภายในประเทศและค่าเอกสารตำราต่างๆ