เตือน 17 จว. เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศ ฉบับที่ 26 เตือน 17 จังหวัด เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พายุโซนร้อนมู่หลาน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 11 – 13 สิงหาคม 2565 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
กอนช. ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่าจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน รวมทั้งมีบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิมอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ในช่วงวันที่ 11 – 17 สิงหาคม 2565 ดังนี้
เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณ
ภาคเหนือ 7 จังหวัด
- จังหวัดเชียงราย (อำเภอเวียงแก่น ขุนตาล เทิง ดอยหลวง และเชียงของ)
- จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่แตง และเวียงแหง)
- จังหวัดพะเยา (อำเภอเชียงคำ และปง)
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปาย แม่สะเรียง แม่ลาน้อย ขุนยวม ปางมะผ้า และสบเมย)
- จังหวัดน่าน (อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เชียงกลาง ท่าวังผา ทุ่งช้าง บ่อเกลือ ปัว และสองแคว)
- จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย)
- จังหวัดตาก (อำเภออุ้มผาง)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด
- จังหวัดเลย (อำเภอด่านซ้าย และวังสะพุง)
- จังหวัดหนองคาย (อำเภอรัตนวาปี)
- จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ บึงโขงหลง โซ่พิสัย เซกา และปากคาด)
- จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม ท่าอุเทน โพนสวรรค์ บ้านแพง และศรีสงคราม)
- จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอเมืองศรีสะเกษ ยางชุมน้อย และราษีไศล)
ภาคตะวันออก 5 จังหวัด
- จังหวัดนครนายก (อำเภอเมืองนครนายก บ้านนา ปากพลี และองครักษ์)
- จังหวัดปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี กบินทร์บุรี ประจันตคาม ศรีมหาโพธิ บ้านสร้าง และนาดี)
- จังหวัดระยอง (อำเภอแกลง)
- จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี นายายอาม แก่งหางแมว ขลุง เขาคิชฌกูฏ โป่งน้ำร้อน มะขาม แหลมสิงห์ ท่าใหม่ และสอยดาว)
- จังหวัดตราด (อำเภอเกาะช้าง เกาะกูด แหลมงอบ และเขาสมิง)
เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของแม่น้ำกก แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเลย แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำตราด
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) 9 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม และกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี อ่างเก็บน้ำน้ำพุง จังหวัดสกลนคร อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ
2. ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ สถานีสูบน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมทั้งวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ และระดับน้ำในลำน้ำ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วม ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์