ชาวเน็ตจี้ให้เอาผิด นทท.ต่างชาติ โชว์คลิปดำน้ำยิงปลานกแก้ว

ชาวเน็ตจี้ให้เอาผิด นทท.ต่างชาติ โชว์คลิปดำน้ำยิงปลานกแก้ว

ชาวเน็ตจี้ให้เอาผิดทั้งคนก่อเหตุและคนพาไป หลังหนุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โชว์คลิปดำน้ำยิงปลานกแก้วในท้องทะเลไทยเป็นพวง

ทำเอาโซเซียลเดือดรับการท่องเที่ยว ลังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่ง โพสต์คลิป Tik Tok โชว์การดำน้ำยิงปลาปลานกแก้ว ที่อยู่บริเวณแนวปะการังในท้องทะเลของประเทศไทยจำนวนมาก ขณะที่ หมอแล็บแพนด้า ออกมาโพสต์ระบุว่า มีคนแจ้งเข้ามาเยอะเลยครับ ชาวต่างชาติโพสต์ติ๊กต็อกจับปลานกแก้วในบ้านเราเป็นพวงเลย เอาไงดี

ชาวเน็ตจี้ให้เอาผิด นทท.ต่างชาติ โชว์คลิปดำน้ำยิงปลานกแก้ว

ซึ่งภายหลังที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นอน่างร้อนแรง โดยส่วนใหญ่ตำหนิการกระดังกล่าวว่าผิดกฎหมาย รวมถึงเป็นการทำลายระบบนิเวศทางทะเลอย่างรุนแรง พร้อมทั้งบอกว่า การกระทำดังกล่าวนั้นมีส่วนรู้เห็นโดยผู้ที่นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยว ที่ไม่มีเตือน  และเรียกร้องให้นำนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวรวมถึงคนเรือที่พาไปมาลงโทษตามกฎหมาย
 

ทั้งนี้ เพจ Drama-addict เองก็ได้มีการแชร์เรื่องราวดังกล่าว พร้อมทั้งยกข้อกฎหมายมาระบุว่า 

ชาวเน็ตจี้ให้เอาผิด นทท.ต่างชาติ โชว์คลิปดำน้ำยิงปลานกแก้ว

สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธพืช ระบุว่า ปลานกแก้ว (Parrotfish) เป็นปลาทะเลขนาดกลางชนิดหนึ่ง มีเกล็ดขนาดใหญ่ จะงอยมีปากยืดหดได้ ปากคล้ายนกแก้ว (เป็นที่มาของชื่อปลานกแก้ว) เนื่องจากปลานกแก้วมีรูปร่าง ลักษณะและสีสันสวยงาม จึงมีผู้นิยมจับมาดูเล่นและนำมาเป็นอาหาร ทำให้ประชากรปลานกแก้วลดลง ส่งผลกระทบระบบนิเวศโดยรวมของทะเลบริเวณนั้นก็จะเสียสมดุลไปอย่างมาก ปะการังตายมากขึ้น ฟื้นตัวช้า และเมื่อเกิดการฟอกสีเนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ก็จะฟื้นตัวยากหรือตายไปอย่างถาวร

“สำนักอุทยานแห่งชาติ ขอรณรงค์ทุกท่านร่วมกัน ไม่สนับสนุน ไม่ซื้อ ไม่รับประทานปลานกแก้ว หากพบเห็นการจับปลานกแก้วในเขตอุทยานแห่งชาติให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย”

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีประกาศฉบับลงวันที่ 11 ส.ค. 2558 ห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวน เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือทำอันตรายกับสัตว์ต่าง ๆ ทุกชนิดในอุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดและต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

มาตรา 16(3) นำสัตว์ออกไปหรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ประกอบกับ มาตรา 21 ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 16 ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ หรือ งดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 24 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 16(3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ