เริ่มแล้ว! ลงทะเบียน 'ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ' ผู้ยืนยันตัวตน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' สำเร็จ
เปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 ณ เวลา 14.00 น. มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 8,426,717 ราย
สำหรับจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ เวลา 14.00 น. จำนวนทั้งสิ้น 987,578 ราย โดยสามารถขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 2 ช่องทาง ได้แก่
- ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https:บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน
- ขออุทธรณ์ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายใต้โครงการฯ ปี 2565 ที่ประสงค์จะรับสิทธิมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (มาตรการบรรเทาฯ) จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับ ค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวสำเร็จรับบริการอยู่ ดังนี้
การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า
1. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
- ผ่านเว็บไซต์ คลิกที่นี่
- เบอร์ติดต่อ 1130
2. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
- ผ่านเว็บไซต์ คลิกที่นี่
- เบอร์ติดต่อ 1129
3.กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
- ผ่านเว็บไซต์ คลิกที่นี่
- เบอร์ติดต่อ 086 848 1284
การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา
1. การประปานครหลวง (กปน.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการประปานครหลวง
- เว็บไซต์ คลิกที่นี่
- หมายเลขโทรศัพท์ 1125
2. การประภาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการประภาส่วนภูมิภาค
- เว็บไซต์ คลิกที่นี่
- หมายเลขโทรศัพท์ 1662
โดย ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจะเปิดให้ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ได้อีกครั้งในวันที่ 15 มีนาคม 66 ทั้งนี้ ถ้าลงทะเบียนกับการประปานครหลวงหรือการประปาส่วนภูมิภาคสำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
1. ค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี ตามโครงสร้างค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ภายใต้มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้มีบัตรฯ
- ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
2. ค่าน้ำประปา
- กรณีใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าน้ำประปาตามจำนวนที่ใช้จริง
- กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
- หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท และต้องชำระค่าน้ำประปาเต็มทั้งจำนวนด้วยตนเอง
ทั้งนี้ หากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ “ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566”
สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566