บุกแบงก์ TTB ในห้างดัง ใช้ไขควงจี้ชิงเงิน 2 แสน
หนุ่มวัย 30 ผีพนัน ใช้ไขควงจี้ชิงเงินธนาคาร TTB กว่า 2 แสนบาท ถูก รปภ. อดีตนักมวยใจกล้ารวบทันควัน
กรณีบุกแบงก์ TTB ในห้างดัง ใช้ไขควงจี้ชิงเงิน 2 แสน เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2566 พ.ต.ท.พัชร์ธนพล รัชตาธารากาญจน์ ได้รับเหตุใช้ไขควงจี้ชิงทรัพย์ เงินสดกว่า2แสนที่ ธนาคาร ทหารไทยธนชาต (TTB) ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หมู่ 1 ถ. เทพรัตน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงรายงาน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่บริเวณชั้นที่ 1 หน้าร้านรีวาย ใกล้ทางออกพบ นายทวีศักดิ์ อายุ 37 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจสุวรรณภูมิ ควบคุมตัวอยู่ พร้อมของกลาง เงินสด จำนวน 207,000 บาท ที่ใส่อยู่ในถุงพาสติก และไขควงวัดไฟ หลังก่อเหตุเดินเข้าไปใช้ไขควงจี้ที่ด้านหลังพนักงานธนาคาร ทหารไทยธนชาต (TTB) บังคับให้นำเงินใส่ถุง ก่อนจะจี้พนักงานธนาคารรายดังกล่าวเดินออกมาจากธนาคาร จนเกือบถึงบันไดเลื่อน ก่อนจะวิ่งหนีลงมาชั้นที่ 1 จนถูกเจ้าหน้าที่ ศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจสุวรรณภูมิ ช่วยกันล้อมจับและควบคุมตัวไว้ได้
จากการสอบถาม นายสุริพงศ์ เจริญหทัยรัตน์ อายุ 30 ปี หนึ่งในพนักงาน รปภ.ที่เข้าไปจับกุม บอกว่า ขณะนั้นกำลังเข้าเวรอยู่ภายในห้างและเป็นช่วงที่ธนาคารต่างๆ ในห้างกำลังปิดจึงเป็นช่วงที่ถูกวางมาตรการป้องกันเหตุไว้ จังหวะที่กำลังเดินตรวจตราในห้างอยู่นั้น วิทยุก็แจ้งว่ามีสัญญาณแจ้งภัยของธนาคารดัง ตนเองตอนแรกก็ยังไม่ทราบว่าเป็นธนาคารไหน เพราะตอนนั้นทุกอย่างยังคงปกติ กระทั่งพบว่ามีคนร้ายจับตัวพนักงานเป็นตัวประกันเดินออกมาจากธนาคาร แล้ววิ่งหนีลงบันได้เลื่อน จึงวิ่งตามก่อนจะช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้
ส่วน นายอลงกรณ์ ฤกษ์ตุลา อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. อีกคนที่เข้าไปล็อกตัวคนร้ายรายนี้ และ รปภ.คนนี้ดีกรีเป็นถึงอดีตนักมวยเก่า จึงมีความกล้าในการจับกุมคนร้าย เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นเข้าเวรในห้อง รปภ พอวิทยุแจ้งมาว่ามีคนร้ายก่อเหตุปล้นธนาคาร ตนเองก็รีบไปพอไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายกำลังหลบหนีออกจากห้าง ซึ่งขณะนั้นหมั่นใจแล้วว่าประตูทุกบานของทางห้างถูกล็อกปิดทั้งหมดจึงล้อมจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด ถามว่ากลัวไหม คุณอลงกรณ์ ตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กลัว เพราะตนเองเป็นนักมวยเก่า
ด้าน นายทวีศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การทั้งน้ำตาและเอ่ยปากขอโทษพนักงานของทางธนาคาร โดยบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ แต่ที่ทำลงไปเพราะเป็นหนี้พนันออนไลน์จำนวนกว่า 5 แสนบาท และวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะต้องหาเงินไปใช้หนี้และไถ่รถที่เอาไปจำนำไว้ จึงตัดสินใจวางแผนมาก่อเหตุ โดยนั่งรถแท็กซี่มาจากริมถนนเทพรัตน กม.19 ซึ่งห่างจากห้างแห่งนี้ประมาณ 7 กิโลเมตร พอมาถึงก็เดินวนอยู่หน้าธนาคารคิดว่าจะทำดีหรือไม่ทำ แต่เพราะความที่ต้องหาเงินไปใช้หนี้จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุโดยใช้ไขควงจี้เอวพนักงานเพื่อบังคับให้ส่งเงินมาให้
พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เข้าสอบปากคำเบื้องต้นด้วยตนเอง และ คุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในธนาคารดังกล่าว โดยเริ่มจากการเข้าไปในธนาคาร แล้วคนร้ายเดินเข้าไปประกบพนักงานธนาคารที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ช่องที่ 5 ซึ่งอยู่ด้านข้างของธนาคาร จากนั้นใช้ไขควง จี้เอวพนักงานหญิงคนดังกล่าวบังคับให้เปิดลิ้นชักเก็บเงินแต่ไม่มีเงินจึงจับตัวเป็นตัวประกันเดินไปที่เคาน์เตอร์ช่องที่ 2 เพื่อให้พนักงานคนอื่นไปหยิบเงินจากตู้เซฟมาให้ ครั้งแรกไม่ทราบจำนวนแต่คนร้ายพอเห็นเงิน ก็บอกว่าไม่พอขอเงินเพิ่มอีก พนังงานจึงส่งเงินอีกก้อนให้ รวมทั้งสิ้น 207,000 บาท ใส่ถุงพลาสติกให้กับคนร้าย
จากนั้นคนร้ายได้บังคับและจี้เอวพนักงานให้เดินออกจากธนาคารก่อนจะปล่อยตัวแล้ววิ่งหลบหนี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายทวีศักดิ์ พลาเลิศ อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ (ไขควง) นำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ต้องชื่นชม เจ้าหน้าที่ รปภ ของทางห้างที่มีความกล้าหาญและสามารถช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งในขณะปิดล้อมก็มีการประสานตำรวจไปด้วยจึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมจับกุมตัวได้สำเร็จ ส่วนมาตรการการป้องกันนั้นปกติแล้ว ทุกห้างและธนาคารจะมีตำรวจสายตรวจเดินเท้าในการ้องกันเหตุอยู่แล้ว เพียงแต่ทำได้แค่ห้างละนายเท้านั้นเนื่องจากกำลังไม่เพียงพอ
หลังจากนี้จะกำชับให้สายตรวจเดินเท้าเพิ่งวงลอบในการป้องกันเหตุและฝากเตือนนักพนันออนไลน์ให้ดูตัวอย่างคนร้ายรายนี้หากติดพนันก็จะคิดสั้นมาก่อเหตุจึงอยากให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เพราะสุดท้ายหากมาก่อเหตุก็ไม่สามารถหลบหนีได้พ้นทุกราย