เคาะ 3 มาตรการฟื้นภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย-ตั้งศูนย์ประสานสถานทูตต่างชาติ
กระทรวงต่างประเทศ-การท่องเที่ยวฯ-สตช. จับมือตั้งศูนย์ประสานงานสถานทูตต่างประเทศ ขณะที่ ททท.วาง 3 มาตรการรับมือท่องเที่ยวไทยจากเหตุกราดยิงในห้าง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (4 ต.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ มีการแถลงข่าวหลังการประชุมร่วมหารือเพื่อพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว ภายหลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงในห้างสยามพารากอน โดยนางสาวสุดาวรรณ ศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกท่าน กับเหตุการณ์สุดวิสัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นไม่ว่าที่ใดในโลกนี้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประชุมเห็นพ้องให้มีการจัดตั้งศูนย์ Situation Command Center ขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยจะเป็นศูนย์เฉพาะกิจที่ประสานงานกับสถานเอกอัคราชทูตและสถานกงสุลต่างชาติในประเทศไทยทั้งหมด และเป็นช่องทางการสื่อสารและอัพเดทสถานการณ์กับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.เป็นต้นไป
สำหรับท่าทีของสถานทูตต่างประเทศที่มีรายงานพลเมืองของตนเองเสียชีวิตนั้น รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โทรศัพท์ถึงเอกอัคราชทูตจีนเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยชี้แจงว่าทางการไทยมีการตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว สามารถควบคุมสถานการณ์ให้จบลงได้แล้ว และได้เข้าไปเยี่ยมดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเอกอัคราชทูตจีนได้กล่าวขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการอย่างรวดเร็วและลงพื้นที่ด้วยตนเอง ในส่วนของเมียนมานั้นทางกระทรวงการต่างประเทศก็ได้มีการติดต่อไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้มีการบริหารจัดการข่าวต่างๆ ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ และเฝ้าติดตามสถานการณ์หลังเกิดเหตุโดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ส่วน คือ
- มาตรการด้านความปลอดภัยที่อาจต้องมีการยกระดับในทุกพื้นที่ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ
- มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมถึงดูแลอำนวยความสะดวกแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
- มาตรการสื่อสารภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดย ททท. วางกรอบการดำเนินการสื่อสารเป็น 3 ระดับ เป็นช่วงบริหารจัดการทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้ส่งผลที่ดีกับภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจ
สำหรับความกังวลว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่งมีการออกมาตรการฟรีวีซ่าเพื่อดึงให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นนั้น นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า จะต้องมีการสร้างความเชื่อมั่นในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่แค่ต้องทำกับเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น แต่ยังต้องรวมถึงนักท่องเที่ยวทุกชาติและประชาชนชาวไทยเองด้วย ซึ่งต้องมีการบูรณาการในหลายภาคส่วน เช่น การดูแลสถานที่ที่มีคนหมู่มากอาจจะมีการใช้มาตรการเข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัยที่เหมาะสมต่อไป
ในส่วนผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีนนั้น น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ในเรื่องของตัวเลขนักท่องเที่ยวจีน ทาง ททท. จะมีการประเมินสถานการณ์โดยดูจากยอดจองล่วงหน้าก็ได้จะเห็นภาพ แต่ในแง่ของการดำเนินการในส่วนของภาครัฐเราได้ทำเต็มที่เช่นกัน
สำหรับกรณีการประสานพูดคุยกับสถานทูตที่มีผู้เสียชีวิตแล้วหรือไม่นั้น นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์พูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และในวันนี้กระทรวงการต่างประเทศจะลงพื้นที่สยามพารากอน และเยือนสถานทูตที่มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด พร้อมทั้งเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป
รมช.ต่างประเทศฯ กล่าวด้วยว่า ได้เห็นปัญหาหลายๆ อย่างเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ทุกฝ่ายคงต้องช่วยกันคิดอย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องสุขภาพจิตของประชาชนคนไทย เรื่องการควบคุมปืน และการซื้ออาวุธปืน ที่ต้องกลับมาดูอย่างจริงจัง แต่ย้ำว่า "นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้ว ไม่มีเหตุการณ์ต่อเนื่องใดๆ เกิดขึ้นอีก"
ทางด้าน พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีความเป็นไปได้ในการออกมาตรการควบคุมปืนในไทยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกว่า ในกรณีนี้อาวุธที่ใช้เป็นปืนพลาสติกซึ่งนำมาดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้องให้ใช้ได้ หลังจากนี้จะมีการเพิ่มมาตรการควบคุม รวมถึงกฎหมายในการควบคุมแบลงก์กัน ซึ่งเดิมโดยตัวของมันเองจะไม่ผิดกฎหมายก่อน แล้วนำมาแปรสภาพเป็นอาวุธปืนทีหลัง ในส่วนนี้จะมีการดำเนินการเพิ่มเติมมาตรการการควบคุม รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมวัสดุสิ่งเทียมอาวุธปืนต่างๆ
พล.ต.ท. สำราญกล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวประเมินว่าเป็น Active shooter ทางตำรวจและห้างได้เคยร่วมซักซ้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าวมาตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีก่อน ในภาพรวมของการรับมือกับสถานการณ์ขณะเกิดเหตุก็ถือว่าสามารถคุมด้วยดีและสามารถระงับเหตุได้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับความกังวลว่าประเทศไทยควรมีระบบการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน (Emergency Alert System) เหมือนในต่างประเทศทันทีหรือไม่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพียงว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องนี้แล้ว และจะนำไปบูรณาการกันต่อไป