‘พัชรวาท’ ปลื้ม ภาพรวม PM2.5 ลดลง ลุยต่อ แผนแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่น ฉบับ2

‘พัชรวาท’ ปลื้ม ภาพรวม PM2.5 ลดลง ลุยต่อ แผนแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่น ฉบับ2

“พัชรวาท” ปลื้มค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลง เมื่อเทียบปี 2566 ลุยต่อทันที สั่งถอดบทเรียนเร่งจัดทำแผนแก้มลพิษฉบับ 2 ก่อนชง นายกฯ - ครม. พิจารณาต่อไป

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการมลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคนที่ 1  นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ตัวแทนรองประธานคนที่ 2 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานภายใต้มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี2567 ว่า สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นตามเป้าหมาย จากการทำงานหนัก ทั้งค่าเฉลี่ยฝุ่นPM 2.5 ที่ลดลง จำนวนวันฝุ่นเกินค่ามาตรฐานลดลง และจำนวนจุดความร้อนลดลง เมื่อเทียบกับปี 2566 

‘พัชรวาท’ ปลื้ม ภาพรวม PM2.5 ลดลง ลุยต่อ แผนแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่น ฉบับ2

ทั้งนี้ หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเข้าฤดูฝน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5  และจุดความร้อนคลี่คลาย PM 2.5 ทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกภาค แต่หมอกควันภาคใต้ จะเข้าสู่ช่วงเฝ้าระวังตั้งแต่ก.ค. - ก.ย. สาเหตุจากป่าพรุ และหมอกควันข้ามแดน พบจำนวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตร ดังนั้น ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ เฝ้าระวังการเกิดไฟในป่าพรุ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบจุดความร้อนที่สูงขึ้นในพื้นที่เกษตรและกำชับหน่วยงานในสังกัดและผู้ว่าฯ ควบคุมอย่างเข้มงวด 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางการจัดทำแผนขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ฉบับที่ 2 และแผนเฉพาะกิจประจำปี 2568 โดยได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดฯ ถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหา และส่งรายงานผลส่งให้กรมควบคุมมลพิษ ในเดือนมิ.ย.และให้กรมควบคุมมลพิษ เร่งจัดทำและนำแผนทั้ง  2  ฉบับ  ไปรับฟังความคิดเห็น และนำกลับมาเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาภายในเดือนสิงหาคม เพื่อเสนอ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป