'ดีอี' โชว์ผลงานปราบโจรออนไลน์ เฟส 2 กวาดล้างซิมผี บัญชีม้า ปิดเว็บพนัน
'ดีอี' โชว์ผลงานปราบโจรออนไลน์ เฟส 2 กวาดล้างซิมผี บัญชีม้า ปิดเว็บพนัน ปรับปรุงกฎหมายสกัดฟอกเงิน-เพิ่มมาตรการลดความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ บรรเทาเดือดร้อนของประชาชน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 4 พ.ค.67 ร่วมกับผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ระยะที่ 2
สำหรับมาตรการและผลการดำเนินงาน ระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ค.67 ที่ผ่านมา มี 8 เรื่องที่สำคัญดังนี้ 1.การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ จับกุมอาชญากรรมออนไลน์จำนวน 2,295 ราย ลดลง 8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี โดยพบการจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ 991 ราย และคดีซิมม้า บัญชีม้า 199 ราย
ที่สำคัญมีการปฏิบัติการจับกุมหลายครั้ง ได้แก่ การจับกุม เว็บไซต์.บ้านหวย.com เงินหมุนเวียนประมาณ 80 ล้านบาทต่อเดือน ยึดทรัพย์ประมาณ 70 ล้านบาท การทลายเว็บพนัน "หวานเจี๊ยบ" ด้วยเงินหมุนเวียน 1,000 ล้านบาทต่อเดือน การปฏิบัติการต่อต้านแก๊ง Call Center ที่กัมพูชา และการจับกุมการหลอกลวงลงทุนคริปโต โยงเครือข่ายการพนันออนไลน์ จับกุมได้ 25 ราย ยึดทรัพย์ 125 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยังจับกุมคดีเว็บพนัน "แม่มนต์" วงเงินหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท
2.ปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน รวม 15,758 รายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 9.3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับเดือน พ.ค.66 ที่มีการปิดกั้นเพียง 1,687 รายการ เช่นเดียวกันกับการปิดกั้นเว็บพนันที่สูงถึง 6,459 รายการในเดือนนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีการปิดเพียง 78 รายการ โดยเพิ่มขึ้น 82.8 เท่า
3.การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน ได้ระงับบัญชีม้ากว่า 800,000 บัญชี โดย ปปง. ระงับ 344,079 บัญชี ธนาคารระงับ 300,000 บัญชี และ AOC ระงับ 171,794 บัญชี พร้อมนำมาตรการเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อตัดตอนการใช้บัญชีในการกระทำความผิด โดยมีการปรับปรุงกระบวนการ Customer Due Diligence และตั้งเป้าระงับ/ปิด บัญชีม้ามากกว่า 12,000 คนต่อเดือน หรือ 100,000 บัญชีต่อเดือน
4.การแก้ไขปัญหาซิมม้า และซิมที่ผูกกับ Mobile Banking โดยระงับการใช้งานหมายเลขที่โทร.ออกเกิน 100 ครั้งต่อวันจำนวน 42,298 เลขหมาย ในนั้นมีเพียง 372 เลขหมายที่ยืนยันตัวตน และ 41,926 เลขหมายไม่ได้ยืนยันตัวตน นอกจากนี้ กสทช. ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์ยืนยันตัวตนใหม่ สำหรับผู้ถือซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม โดยมีเลขหมายที่เข้าข่าย 5.0 ล้านเลขหมาย และเลขหมายที่ต้องยืนยันตัวตน 2.6 ล้านเลขหมาย
พร้อมระงับการใช้งานชั่วคราว 2.3 ล้านเลขหมาย และในกลุ่มผู้ถือซิม 6-100 เลขหมายต่อค่าย มีเลขหมายเข้าข่าย 4.0 ล้านเลขหมาย ยืนยันตัวตนแล้ว 1 ล้านเลขหมาย กระบวนการตรวจสอบซิมที่ใช้กับโมบายแบงกิ้งจะแล้วเสร็จภายใน 120 วัน โดยประชาชนยังสามารถใช้งานโมบายแบงกิ้งได้ตามปกติ และกำลังพิจารณาข้อยกเว้นเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
5.การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยสำนักงาน กสทช. สั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตปรับเสาสัญญาณในพื้นที่ชายแดนเสี่ยง เช่น อ.แม่สอด จ.ตาก อ.แม่สาย อ.เชียงของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี อ.เมือง จ.ระนอง โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 19 มิ.ย.67
6.การแก้กฎหมายเร่งด่วน และปรับปรุงมาตรการเพื่อตอบโต้ปัญหาการฟอกเงินและการกระทำผิดทางการเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเน้น 3 ประเด็นหลัก 1) เพิ่มความเร็วในการคืนเงินให้ผู้เสียหาย 2) การเพิ่มโทษสำหรับการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล และ 3) ป้องกันการโอนเงินผิดกฎหมายโดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัล
นอกจากนี้ ก.ล.ต. และ ปปง. ได้ยกระดับมาตรฐานการฟอกเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลของ FATF และสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาบัญชีต้องสงสัย ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยังได้พิจารณาร่างประกาศเกี่ยวกับการควบคุมบริการขนส่งสินค้า COD เพื่อป้องกันการกระทำผิดออนไลน์
7.การเพิ่มบทบาท ความรับผิดชอบให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และธนาคาร ซึ่งกระทรวงดีอี ได้หารือแนวทางร่วมกันกับบริษัท ไลน์ประเทศไทย แพลตฟอร์ม Meta และ X เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์เชิงรุก ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ และการปิดกั้น URL ที่ผิดกฎหมายแบบเชิงรุก
8.การบูรณาการข้อมูล โดยศูนย์ AOC 1441 กระทรวงดีอี ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.), ตร., DSI, ปปง., ธปท. และสำนักงาน กสทช.
"รัฐบาลเร่งดำเนินการบูรณาการในการปราบปรามอาชญากรรมดิจิทัล รวมถึงการจับกุมคนร้าย การกวาดล้างบัญชีม้า และซิมม้า การอายัดบัญชีธนาคาร และการปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงและเว็บพนันออนไลน์ ผลงานในเดือน เม.ย.67 แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้เร่งรัดการดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนผู้เสียหาย และมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงซื้อขายออนไลน์ เพื่อลดความเดือนร้อนของประชาชน" นายประเสริฐ กล่าว