‘ดีอี’ เปิดผลงานปราบโจรออนไลน์มิ.ย.จับ 2,349 ราย - เดินหน้า ‘ดิจิทัลวัคซีน’

‘ดีอี’ เปิดผลงานปราบโจรออนไลน์มิ.ย.จับ 2,349 ราย - เดินหน้า ‘ดิจิทัลวัคซีน’

‘ดีอี’ เปิดผลงานปราบโจรออนไลน์เดือนมิ.ย.จับกุมผู้กระทำผิด 2,349 ราย ลุยปิดเว็บพนัน สกัดซิมผี-บัญชีม้า เดินหน้า ‘ดิจิทัลวัคซีน’ สร้างภูมิคุ้มกันประชาชนจากภัยไซเบอร์

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 6/2567 พร้อมหารือเพื่อดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี และแถลงมาตรการและผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา มี  7 เรื่องที่สำคัญดังนี้

1. การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ ในเดือนมิถุนายน (ข้อมูล ตร.) การจับกุมคดีออนไลน์รวมทุกประเภท มิถุนายน 2567 มีจำนวน 2,349 ราย ลดลงร้อยละ 5.86 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567 , การจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ มิ.ย.67 มีจำนวน 1,082 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.69 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567 , การจับกุมคดีซิมม้า บัญชีม้า มิถุนายน 2567 มีจำนวน 160 ราย ลดลงร้อยละ 33.33 เทียบกับ 

การจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567 ทั้งนี้ตำรวจมีการจับกุมครั้งสำคัญ ในเดือน มิถุนายน2567 โดยสามารถจับกุม 4 เครือข่ายเว็บพนันบอลยูโร ได้ตัวผู้กระทำความผิด ทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 90 ราย ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท/เดือน พร้อมตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 287 ล้านบาท
 

นอกจากนี้ตำรวจยังร่วมกับ กรมศุลกากร ปฏิบัติการ ‘สกัดกั้น STARLINK, ซิมการ์ด และจุดตั้ง Simbox’ พบการนำเข้าเครื่อง STARLINK จำนวน 21 เครื่องและซิมการ์ด จำนวนประมาณ 15,675 ชิ้น ซึ่งมีปลายทางพัสดุอยู่ในจังหวัดพื้นที่แนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้มีการขยายผลตรวจค้นพื้นที่ 14 จุด ทั่วประเทศ พบเครื่อง STARLINK จำนวน 4 เครื่อง, อุปกรณ์ SIMBOX จำนวน 96 เครื่อง 

โดยซิมการ์ดทั้งของไทยและต่างประเทศ กว่า 33,000 ชิ้น ขณะที่ DSI มีการจับกุมที่สำคัญในเดือน มิถุนายน 2567 ได้แก่ จับกุมผู้จัดหาบัญชีม้าแล้วนำไปขายต่อให้กับตัวแทนเว็บไซต์พนันออนไลน์ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ 2011/2566 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน  ฯลฯ

2. การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน โดยปิดโซเชียลมีเดีย และเว็บผิดกฎหมายทุกประเภท เดือน มิถุนายน 2567 จำนวน 14,363 รายการ เพิ่มขึ้น 5.2 เท่า จากเดือน มิถุนายน 2566 ที่มีจำนวน 2,763 รายการ , ปิดเว็บพนัน มิถุนายน 2567 จำนวน 5,771 รายการ เพิ่มขึ้น 20.9 เท่า จากเดือน มิถุนายน 2566 ที่มีจำนวน 276 รายการ
 

3. การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน มีผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 มิถุนายน 2567 มีดังนี้ ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 900,000 บัญชี แบ่งเป็น ปปง.ปิด 416,348 บัญชี ธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี และ AOC ระงับ  209,823 บัญชี , การยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ยกระดับการจัดการ “บัญชี” เป็น “บุคคล” ทุกธนาคารจัดการบัญชีม้าตามระดับความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกันและมาตรการที่ให้สถาบันการเงินดำเนินการ 

โดยมีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถล็อคเงินในบัญชีไม่ให้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และปลดล็อคได้ยากขึ้น และ/หรือ ปรับลดค่าวงเงินในการสแกนใบหน้าการทำธุรกรรม ใน mobile banking รวมทั้งการเสนอบริการเพิ่มเติม อาทิการถอนเงินที่อาศัยบุคคลอื่นช่วยอนุมัติ (double authorization) การโอนเงินเฉพาะรายชื่อที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 

สำหรับกวาดล้างบัญชีม้าจากการใช้รายชื่อเจ้าของบัญชีม้า และรายชื่อผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทำการปิดบัญชีธนาคารทุกธนาคาร จากชื่อบุคคลดังกล่าว โดยในเดือนมิถุนายนมีการปิดบัญชีม้าไปแล้วจำนวน 72,296 บัญชี

4.การแก้ไขปัญหาซิมม้าและ ซิมที่ผูกกับ Mobile Banking ซึ่งผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 มิถุนายน 2567 มีดังนี้ การระงับหมายเลขโทรออกเกิน 100 ครั้ง/วัน แล้ว 50,736 หมายเลข มีผู้มายืนยันตัวตน 418 เลขหมาย ไม่มายืนยันตัวตน 50,318 เลขหมาย , การกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน 

โดยผลการดำเนินงาน มีดังนี้ (1) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม โดยมีเลขหมายที่เข้าข่าย 5.0 ล้านเลขหมาย ซึ่งครบกำหนดการยืนยันตัวตนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว จำนวน 3.9 ล้านเลขหมาย และระงับการใช้งานซิม จำนวน 1.1 ล้านเลขหมาย (2) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมายต่อค่ายมือถือ จะต้องยืนยันตัวตนภายในวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมีเลขหมายที่เข้ข่าย 4.0 ล้านเลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 1.6 ล้านเลขหมาย และยังไม่มายืนยันตัวตน จำนวน 2.4 ล้านเลขหมาย

5. การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
- สำนักงาน กสทช. ตรวจเข้มพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน ลงพื้นที่ จ. ตาก รอบสอง เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เพื่อติดตามการลักลอบลากสายสัญญาณโทรคมนาคมข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยขณะนี้สามารถควบคุมการหันเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ทั้ง 7 พื้นที่ คือ (1) อ.แม่สอด จ.ตาก (2) อ.แม่สาย จ.เชียงราย (3) อ.เชียงของ จ.เชียงราย (4) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย (5) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (6) อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ (7) อ.เมือง จ.ระนอง 

ซึ่งปัจจุบันทุกพื้นที่ที่มีการหันเสาออกนอกประเทศไทยได้มีการระงับสัญญาณรวมแล้ว 366 สถานีฐาน ซึ่งมีทั้งการดำเนินการระงับสัญญาณ ปรับทิศทางสายอากาศ ลดกำลังส่ง และรื้อสายอากาศ และได้กำหนดพื้นที่เพิ่มเติมตามมาตรการระงับการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยง ในอีก 4 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

6. การบูรณาการข้อมูล โดยศูนย์ AOC 1441 โดยประชุมหารือแนวทางการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลของศูนย์ AOC กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 13 มิ.ย.67 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงขั้นตอนแนวปฏิบัติภาพรวมของการเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อบูรณาการข้อมูลศูนย์ AOC 1441 ให้กับหน่วยงานทั้ง 5 หน่วยที่ได้ลงนาม MOU 

โดย สอท. และสมาคมธนาคารไทย ส่งข้อมูลการแจ้งความในระบบ Thaipoliceonline ระบบบัญชีธนาคาร (Banking) และข้อมูลระบบ CFR ย้อนหลัง (Back Day) ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เพื่อนำมาใช้ในการประมวลผลข้อมูลของศูนย์ AOC 1441 และหาแนวทาง มาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อไป

7. การแก้กฎหมายเร่งด่วน การประชาสัมพันธ์เชิงรุก และอื่นๆ โดย 7.1 แก้ไขปัญหาการซื้อขายสินค้าหรือบริการออนไลน์แบบใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ‘เรื่องให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. .....’ ซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เดือนกรกฎาคมนี้ กฎหมายฉบับนี้ให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ส่งสินค้าและผู้ประกอบธุรกิจ ชื่อสกุลผู้รับเงินพร้อมหมายเลขติดตามพัสดุ 

พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วันก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ขาย เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน ให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ โดยหากพบว่ามีปัญหา ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้ โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 
7.2 การประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยจัดทำโครงการดิจิทัลวัคซีน เร่งสร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชนการตระหนักรู้เท่าทันอาชญากรรมออนไลน์ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ได้ทำการเตือนภัยออนไลน์ ประชาสัมพันธ์กันไปมาก แต่โดยรวมยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งควรปรับการรณรงค์ระดับชาติ ควรทำต่อเนื่อง ทิศทางเดียวกันและควรมีข้อความการเตือนไม่หลากหลายเกินไปขณะเดียวกัน เนื่องจากปัจจุบันแต่ละหน่วยงานมีกลุ่มเป้าหมายทั้งที่ซ้ำกัน และแตกต่างกัน ความร่วมมือจัดทำ mapping กลุ่มประชากรคนไทย จะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมดีขึ้น 

ทั้งนี้การแจ้งเตือน ให้ความรู้ภัยออนไลน์ต้องมีความรวดเร็ว ทันสถานการณ์ เนื่องจากการหลอกลวงออนไลน์สามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว และมีรูปแบบการหลอกลวงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงการขอความร่วมมือกับเอกชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด การร่วมกันจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการลดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ นอกเหนือจากการป้องกันปราบปราม 

“ภาพรวมของการดำเนินงานอย่างบูรณาการ เร่งรัดจับกุมคนร้าย กวาดล้างบัญชีม้าและซิมม้า เร่งการอายัดบัญชีธนาคาร ตัดเส้นทางการเงิน การปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ มีผลงานชัดเจน เป็นตัวเลขที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากในเดือนพฤษภาคม 2567 อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งการปราบปรามจับกุมคนร้าย กวาดล้างบัญชีม้า ซิมม้า ปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงต่อเนื่อง แก้ปัญหาหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ เพื่อให้จำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจากคดีออนไลน์ลดลงโดยเร็ว ช่วยลดความเดือนร้อนของประชาชน” นายประเสริฐ กล่าว