‘กปร.’จัดอบรม 2 หลักสูตร ‘นบร.-พพร.’ หวังผลสัมฤทธิ์ สนองงานพระราชดำริ
“กปร.” อบรมหลักสูตร “นบร.-พพร.” สร้างความรู้ สืบสาน รักษา ต่อยอดงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นำความรู้ประยุกต์ให้เกิดผลสัมฤทธิ์
นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กปร.เป็นหน่วยงานกลางในการรับและประมวลพระราชดำริ ประสานการดำเนินงานเผยแพร่ และขยายผลการติดตามและประเมินผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาตามแนวพระราชดำริเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในการสนองพระราชดำริ ให้มีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
หนึ่งในการขยายผล คือ การจัดฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ แนวทางการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้จัดหลักสูตรอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงานทั้ง 2 ระดับ ได้แก่ หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริหรือ หลักสูตร นบร. และหลักสูตรนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ หรือ หลักสูตร พพร. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นำประสบการณ์การสนองพระราชดำริของแต่ละหน่วยงานมารวบรวมเป็นองค์ความรู้นำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเกิดผลสัมฤทธิ์
“การอบรม นบร. ในปี 2567 เป็นรุ่นที่ 12 ส่วน พพร. เป็นรุ่นที่ 11 เราต้องการพันธมิตรและทีมงานเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเผยแพร่องค์ความรู้การพัฒนาด้านต่างๆ ไปสู่สังคมและประชาชนในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก็คือการสร้างตัวคูณให้แก่ กปร. นั่นเอง” นางพิชญดา กล่าว
ด้านนายปิยวัตน์ ดิลกสัมพันธ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เข้าอบรมหลักสูตร นบร. รุ่นที่ 12 เปิดเผยว่า มีความสนใจในหลักสูตรนี้เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา ศาสตร์แห่งแผ่นดิน ในหมวดวิชาศึกษาทั่วไป ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กำหนดเป็นนโยบายให้นิสิตทุกคนลงทะเบียนเรียนโดยรายวิชา มุ่งเน้นการเข้าใจถึงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อการพัฒนานิสิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้มีความเข้าใจต่อหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อการทำงาน และต่อประเทศชาติในอนาคต
“ที่ผ่านมาได้ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้วในระดับหนึ่ง เมื่อเข้ารับการอบรมก็มีความเข้าใจและมีความรู้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำไปปรับใช้ทั้งการดำเนินชีวิตและการทำงานในการถ่ายทอดสู่นิสิตในมหาวิทยาลัยต่อไป” นายปิยวัตน์ กล่าว
ขณะที่ว่าที่ร้อยตรี จตุรภัทร รัตนวิสาลนนท์ ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานรุ่นหลักสูตร พพร. รุ่นที่ 11 เปิดเผยว่า การอบรมนอกจากจะได้รับความรู้ความเข้าใจในหลักการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 การสืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศ์แล้ว ก็ยังมีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่ ที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริมาปฏิบัติใช้ในด้านต่างๆ จนประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ โครงการรักษ์น้ำ พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี กระบวนการผลิตสินค้าแบบปลอดภัย และการพัฒนาในพื้นที่สูง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในพื้นที่จังหวัดน่าน
“เป็นการสร้างเครือข่ายของบุคลากรที่ทำงานเชื่อมโยงกัน จากหลายกรม และกระทรวง ตลอดถึงภาคเอกชน การอบรมในครั้งนี้ มีเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในการทํางานร่วมกัน นับตั้งแต่ด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ น้ำ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ที่ทุกคนสามารถนําไปปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบในสังกัดต่อไปได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ โดยได้รับความรู้ ความเข้าใจ ได้ประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาในต่างประเทศ นับว่าเป็นฐานความรู้สำคัญในการที่จะนำไปออกแบบ ต่อยอด และยกประสิทธิภาพการขับเคลื่อนการพัฒนางานในอนาคตต่อไป” ว่าที่ร้อยตรี จตุรภัทร กล่าว
โดยทั้งสองหลักสูตรนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนการสืบสาน รักษา ต่อยอด สามารถทำงานสนองพระราชดำริและนำการพัฒนาไปสู่การปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการตระหนักรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อคนไทยเสมอมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน