'สมคิด' หนุนแก้ กม.ที่ดิน ขยายสิทธิ 'ส.ป.ก.' เพื่ออุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว

'สมคิด' หนุนแก้ กม.ที่ดิน ขยายสิทธิ 'ส.ป.ก.' เพื่ออุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว

"สมคิด" หนุนแก้ปัญหาที่ดิน แบ่งที่ดินกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ พร้อมขยายสิทธิ "ส.ป.ก." ทำอุตสาหกรรม และท่องเที่ยว ด้านนักวิชาการหนุนปฏิรูปกม.ที่ดิน หวังพลิกเศรษฐกิจ

ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน  สมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง  ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้จัดการสัมมนาเรื่อง “ที่ดินของรัฐ : บริหารจัดการใหม่พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย”

โดย นายสมคิด เชื้อคง  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง  ที่ดินของรัฐ กับข้อจำกัดและโอกาสการพัฒนาในมุมของกฎหมาย ตอนหนึ่งระบุว่า ประเทศไทยมีที่ดินรวม 320 ล้านไร่  แต่ถ้ารวมทุกโฉนดพบว่ามีที่ดินเกิน 320 ล้านไร่  เพราะมีปัญหาการทับซ้อน  ข้อมูลของแต่ละหน่วยงานไม่ตรงกัน งานยากของรัฐบาลคือการลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ที่ดิน  เช่น เอาที่ดินจากกองทัพซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจโอนให้กรมธนารักษ์  แล้วกรมธนารักษ์ให้คนยากจนเช่าทำกินในราคาถูก

“ที่ดินของรัฐหลายเรื่องทำยาก  ช้าเกือบทุกเรื่อง  ต้องปรับปรุงกฎหมายที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน  ประเทศไทยเจ้าระเบียบ เขียนระเบียบเขียนกติกามากจนทำอะไรไม่ได้  เหมือนทำรั้วเพราะกลัวขโมยจนออกจากบ้านตัวเองไม่ได้  กลัวทุกเรื่องทุกอย่างจนกลายเป็นปัญหา ทั้งนี้ รัฐบาลชุดก่อนต้องการทวงคืนผืนป่า  เป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกทุกเรื่อง  ใช้กฎหมายคสช.รื้อถอน  วันนี้คดีแห้งไปแล้วกว่า 3 หมื่นคดี  ได้ที่ดินคืนแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อ  กฎหมายเกี่ยวกับที่ดินมีเยอะมาก  หากจะแก้ต้องไปในทิศทางเดียวกัน” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวด้วยว่าที่ดินส.ป.ก.ตามกฎหมายให้ทำการเกษตรอย่างเดียวแต่โลกวันนี้เกษตรอย่างเดียวไม่เพียงพอ รัฐได้ผลตอบแทนเป็นภาษีก็น้อย  เราสามารถปรับโครงสร้างส.ป.ก.ได้  ไม่ได้แปลว่าจะยกที่ส.ป.ก.ให้เป็นของเอกชน  แต่แปลว่าถ้าไม่เหมาะกับการเกษตรอาจจะเป็นอุตสาหกรรมหรือเพื่อการท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ดีจากสถิติผู้ที่มาร้องทุกข์ที่ทำเนียบรัฐบาล  อันดับแรกคือเรื่องที่ดินทำกิน  แปลว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้  ถ้าจะแก้ได้ต้องบูรณาการจริงๆทุกหน่วยงาน

ขณะที่ นายกิติชัย รัตนะ อาจารย์ประจำภาควิชาอนุรักษ์วิทยา  คณะวนศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งในช่วงสัมมนา หัวข้อที่ดินของรัฐ บริหารจัดการใหม่ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ว่า   ปัจจุบันมีความไม่ชัดเจนว่าที่ดินส.ป.ก. ทำประโยชน์เพื่อเกษตรได้ดีจริงหรือ  เพราะพบว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินส่งผลต่อผลิตภาพต่ำมาก  เกษตรกรไทยติดกับเรื่องต้นทุนการผลิตและหนี้สิน  ดังนั้นมีความจำเป็นที่รัฐสภาต้องเพิ่มมูลค่าที่ดินใหม่ รัฐบาลกลางต้องจัดสรรแบ่งปันบริหารการใช้ประโยชน์ที่ดินด้วยแนวคิดแบบพลิกโฉม ด้วยการออกกฎหมายใหม่ ยกเลิกกฎหมายเก่าที่ไม่จำเป็น   

\'สมคิด\' หนุนแก้ กม.ที่ดิน ขยายสิทธิ \'ส.ป.ก.\' เพื่ออุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว

ทางด้าน นายชวลิต ชูขจร  อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่มีที่ดินของตนเอง และมีกฎหมายบังคับใช้ 16 ฉบับใช้บังคับอยู่  แต่ละฝ่ายต่างถือกฎหมายคนละฉบับในการทำหน้าที่ของตน  เมื่อมีนโยบาย กฎหมาย และภาษีเข้ามากำกับ  ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยไม่คำนึงถึงความคุ้มค่าหรือผลผลิต

“ที่ดินส.ป.ก.40ล้านไร่ เคยมีนโยบายต้องรักษาไว้เพื่อความมั่นคงของประเทศ  ใช้กฎหมายส.ป.ก.ที่ห้ามจำหน่ายจ่ายโอน  แต่ความจริงที่ดินรัฐมีการบุกรุกตลอด รัฐจัดการแบบมีปัญหาดินพอกหางหมู ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าปัญหามีอยู่จริง  สำหรับปัญหาใหญ่คือความไม่เป็นเอกภาพของหน่วยงานราชการ  มีการตั้งสคทช.เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียว  แต่สิ่งที่หน่วยงานต่างๆกำลังทำอยู่ไม่เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาอะไรได้” นายชวลิต กล่าว

ขณะที่นายพรสิทธิ์ ด่านวนิช  รองนายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง  กล่าวว่าตนเองเป็นตัวแทนของภาคเอกชนที่ประสบปัญหาการใช้ที่ดินของรัฐโดยเฉพาะเรื่องที่ดินส.ป.ก.กับการทำเหมืองแร่  ที่ดินส.ป.ก. ทั้งหมด 40 ล้านไร่  สำรวจแล้วมีแร่อยู่ในบริเวณแค่ 4 ล้านไร่  และเอกชนยื่นขอใช้พื้นที่เพียง 3 แสนไร่  จะเกิดประโยชน์ในแง่ค่าภาคหลวง  ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับส.ป.ก. รายได้ส่วนใหญ่ 60% จะตกแก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเมื่อมีการทำเหมืองจะเกิดการจ้างงานชาวบ้านในพื้นที่  จะมีกองทุนให้กับชุมชนใกล้เคียง  หลังการทำเหมืองจะมีแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่สำหรับเกษตรกร