กปร.มอบโล่เชิดชู 10 ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการเขาชะงุ้ม ราชบุรี

กปร.มอบโล่เชิดชู 10 ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการเขาชะงุ้ม ราชบุรี

สำนักงาน กปร.มอบโล่เชิดชูเกียรติพร้อมประกาศนียบัตร ให้ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567 โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ราชบุรี ด้านเกษตรอินทรีย์ 7 แห่ง และด้านเกษตรผสมผสาน 3 แห่ง

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) มอบโล่เชิดชูเกียรติพร้อมประกาศนียบัตร ให้ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567 ของโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ราชบุรี 10 แห่ง

โดยนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติพร้อมประกาศนียบัตรให้ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567 ของโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ราชบุรี โดยมีนางสาวกฤษณา ทิวาตรี รักษาการผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ กล่าวต้อนรับ และนายปริญญวัฒน์ วัชรอาภากร ผู้อำนวยการกองแผนงานและยุทธศาสตร์ สำนักงาน กปร. กล่าวรายงานความเป็นมาโครงการ

เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า พื้นที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ ในอดีตนั้น ดินมีสภาพเสื่อมโทรม เพาะปลูกพืชผักไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดําริให้ปรับปรุงดินโดยใช้หญ้าแฝกปลูกร่วมกับต้นไม้ ลดการใช้สารเคมีและปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งประสบความสำเร็จ จึงได้ขยายผลสู่เกษตรกร ทำให้ในพื้นที่ปลูกพืชได้หลากหลายชนิดทั้งเพื่อบริโภคในครัวเรือนและเชิงพาณิชย์ 
 

“เพื่อขยายผลสำเร็จ สำนักงาน กปร. จึงจัดทำโครงการขยายเสริม เพิ่มเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริฯ ขึ้น เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ให้กระจายครอบคลุม มีศูนย์เรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินทั่วประเทศ 221 แห่ง ซึ่งมีองค์ความรู้หลากหลายสาขา ได้แก่ เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ ประมง ปศุสัตว์ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่น ๆ  ที่เป็นแบบอย่างแก่เกษตรกรรายอื่นๆ ได้เข้าไปศึกษาดูงานได้เป็นอย่างดี สำหรับโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ มีศูนย์เรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวน 10 แห่ง” เลขาธิการ กปร. กล่าว

กปร.มอบโล่เชิดชู 10 ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการเขาชะงุ้ม ราชบุรี

ในครั้งนี้ มีศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ของโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ รับโล่เชิดชูเกียรติ พร้อมประกาศนียบัตร ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านเกษตรอินทรีย์ และเกษตรผสมผสาน ผ่านการประเมิน จำนวน 10 แห่ง

ประกอบด้วย ด้านเกษตรอินทรีย์  7 แห่ง ได้แก่ 1.นายโชคดี ตั้งจิตร 2. นายชวัลวิท คล้ายอยู่  3. นายไมตรี พวงอินทร์ 4. นางสาววาสนา กราบเคหะ 5. นางสมคิด ทองสุข 6. นายสมบูรณ์ ว่องประเสริฐ 7. นางสาวสมหมาย แดงชาติ และด้านเกษตรผสมผสาน จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1. นางสำเนียง เกตุมณี 2. นายสุกิจ สุภาพงค์ 3. นายสุรัตน์ ฉายแก้ว 

โครงการขยายเสริมเพิ่มเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริฯ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ เพื่อกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงสร้างความยั่งยืนให้แก่เกษตรกร โดยสำนักงาน กปร. ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินและกระบวนการตามหลัก Plan Do Check Act : PDCA จัดทำเป็นคู่มือการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ

มีศูนย์เรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินแล้ว จำนวน 221 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลายสาขา ได้แก่ ด้านเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ ประมง ปศุสัตว์ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้สนใจได้เข้าไปศึกษาหาความรู้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตให้เกิดความยั่งยืน

ทั้งนี้ ในปี 2567 สำนักงาน กปร. ได้ผลักดันการดำเนินงานในหลายมิติ ทั้งในเรื่องการขยายช่องทางการตลาด (Product Champion) จำนวนกว่า 100 รายการ และการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวนกว่า 90 รายการ ตลอดจนการเร่งสร้างต้นแบบเกษตรกรที่ได้รับองค์ความรู้จากศูนย์ศึกษาฯ และศูนย์สาขาฯ ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ จำนวน 221 แห่ง

จากนั้น คณะได่ไปเยี่ยมชมพื้นที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ อาทิ ฐานการเลี้ยงไส้เดือนดินและการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจากใบทองหลาง แปลงปลูกหญ้าแฝกเพื่อผลิตเวชภัณฑ์ และห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อขยายพันธุ์หญ้าแฝกและพืชชนิดอื่น และเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ด้านเกษตรอินทรีย์ 2 แห่ง ซึ่งเป็นเกษตรที่ได้รับโล่เชิดชูเกียรติในครั้งนี้

นางวาสนา กราบเคหะ เกษตรกร ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หนึ่งในศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ด้านเกษตรอินทรีย์ เล่าว่า ได้ปรับปรุงบำรุงดิน 10 ไร่ เพื่อปลูกอินทผาลัมอินทรีย์ตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice ; GAP) คือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีในการผลิตพืช เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัยทั้งต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค 

“ปลูกอินทผาลัม พันธุ์บาฮีเหลือง บาฮีแดง โคไนซี่ ลาเวนเดอร์ แบบผสมผสาน โดยใช้พันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จึงต้องระวังเรื่องเชื้อรา และต้องดูแลเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากได้ปรับปรุงดินที่ดีจึงไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรา และโรคพืช ทำให้ผลผลิตอินทผาลัมเจริญเติบโตได้ดี และมีความสมบูรณ์ โดยเก็บผลผลิตสดขายได้ปีละครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นรายได้หลักในตอนนี้” นางวาสนา กล่าว

กปร.มอบโล่เชิดชู 10 ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการเขาชะงุ้ม ราชบุรี

ด้านนายชวัลวิท คล้ายอยู่ เกษตรกร ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อีกหนึ่งศูนย์เรียนรู้ฯ ด้านเกษตรอินทรีย์ บอกว่า ตนมีพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน ปลูกมะเขือเทศ โดยใช้นวัตกรรมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาการนำสิ่งปนเปื้อนจากสารเคมีสู่ดิน ทำให้ดินเสื่อมโทรม โดยมีรายได้จากการขายผลผลิต 5,000 – 6,000 บาทต่อเดือน

“เอาขยะพลาสติกมาผ่านกระบวนการเผาไหม้กลั่นเป็นน้ำมันใช้กับเครื่องยนต์ทางการเกษตรต่างๆ โดยขยะพลาสติก 1 กิโลกรัม จะได้น้ำมัน 80 มิลลิลิตร หรือ 1 ลิตร นำไปใส่เครื่องสูบน้ำเพื่อรดต้นไม้ได้นานถึง 3 - 4  ชั่วโมง ทำให้ช่วยลดค่าน้ำมันได้ถึง 50 - 60 บาท ขณะที่ขยะพลาสติกไม่มีค่าใช้จ่าย” นายชวัลวิท กล่าว

นายไมตรี พวงอินทร์ เกษตรกร หมู่ 10 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อีกหนึ่งศูนย์เรียนรู้ฯ ด้านเกษตรอินทรีย์ กล่าวว่า ในพื้นที่จะมีฐานเรียนรู้หลากหลาย เช่น การจัดการดิน น้ำ พืช การวางระบบน้ำอัจฉริยะ โดยได้เข้ามาเรียนรู้เทคโนโลยีนี้ที่ศูนย์ฯ แล้วนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ จนประสบผลสำเร็จ 

ตนเองมีที่ทำกินทั้งหมด 40 ไร่ แบ่งพื้นที่ปลูกพืชแบบผสมผสาน และทำนา เสร็จจากฤดูนาก็ปลูกอ้อย ข้าวโพด และมันญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากเก็บหัวขายแล้วยังใช้เป็นพืชคลุมดิน บำรุงดินอีกด้วย นอกจากนี้ได้ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ใต้ต้นไม้ เพื่อนำใบไม้มาผสมกับเศษพืชผัก กากอ้อย และแกลบ เป็นปุ๋ยหมักใช้ใส่พืชผักและต้นไม้ 

“ดินและปุ๋ยที่หมักตอนนี้ นับเป็นรายได้หลัก เพราะมีลูกค้าสั่งซื้อต่อเนื่องตลอดทั้งปี นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เราภาคภูมิใจพื้นที่มีความสมบูรณ์ เพาะปลูกได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งพิงเทคโนโลยี เพียงน้อมนำพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ ก็จะประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด ภูมิใจที่ได้ทําตามคําสอนของพระองค์ท่าน เกิดความมั่นคงทั้งพื้นดินและผู้คน” นายไมตรี กล่าว

ขณะที่นายโชคดี ตั้งจิตร เกษตรกร หมู่ 8 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ในพื้นที่มีฐานเรียนรู้การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) บอกว่า การเพาะปลูกข้าวอินทรีย์ และผักสลัดอินทรีย์มาตรฐาน Organic Thailand โดยใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใบทองหลาง ในการบำรุงพืชที่ปลูก ซึ่งทองหลางเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีไรโซเบียม(กลุ่มของแบคทีเรียแกรมลบ) อยู่ในปมราก และสารประกอบไนโตรเจนที่ถูกไรโซเบียมตรึงไว้ จะถูกสะสมในต้น และเมื่อย่อยสลายจะปลดปล่อยธาตุไนโตรเจนลงสู่ดิน ทำให้ดินคงความอุดมสมบูรณ์อยู่ได้นาน ที่สำคัญใบของทองหลางเป็นพรีไบโอติกซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ได้เป็นอย่างดี เมื่อนำมาผลิตเป็นจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง แล้วนำมาใช้ผสมน้ำอัตรา 1 ต่อ 100 จะช่วยให้ผักมีสีเขียวสวย มีรากงอกดี ช่วยให้ดินลดความเค็มลงได้เป็นอย่างดี