เจ้าของกระชังปลาเร่งจับปลาขึ้นขาย หวั่นปลาน็อคตาย
เจ้าของกระชังปลาเร่งจับปลาขึ้นขาย หวั่นปลาน็อคตาย หลังเขื่อนสิริกิติ์ลดการปล่อยน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกษตรกรเจ้าของกระชังปลา ริมน้ำน่าน หมู่ 7 ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องจับปลาที่พอได้ขนาด เพื่อขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อ โดยยอมขายลดราคาจากปกติ 75 บาท/กิโลกรัม เหลือเพียง 60 บาท เพื่อต้องการลดจำนวนปลาในกระชังให้น้อยลง หลังเขื่อนสิริกิติ์ลดการปล่อยน้ำ จาก 17 ล้าน ลบ.เมตร เหลือเพียงวันละ 11 ล้าน ลบ.เมตร เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2558 เป็นวันแรก
นางสุขิตา จันทร์รุน เจ้าของกระชังปลา กล่าวว่า หลังมติ ครม.กำหนดให้เขื่อนสิริกิติ์ลดการปล่อยน้ำเหลือวันละ 11 ล้าน ลบ.เมตร ตนและเจ้าของกระชังปลาริมน้ำน่าน ทั้งอำเภอเมือง อำเภอตรอน และอำเภอพิชัย มากกว่า 1000 ราย ได้เตรียมจ้างคนงานคนละ 300 บาทต่อวัน รายละไม่ต่ำกว่า 10 คน เพื่อลากกระชังปลาทั้งหมดกระชังออกไปกลางน้ำลึก ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งที่ 2 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมามีการลากแล้ว 1 ครั้ง และทราบว่าเขื่อนสิริกิติ์จะลดลงต่อเนื่องวันละ 1 ล้าน ลบ.เมตร จนกว่าฝนตกเหนือเขื่อนและมีปริมาณน้ำไหลเข้ามากพอ
“ปลาที่เลี้ยงไว้อายุ 4 เดือนเหลือเพียง 1 เดือนจะจับขายได้ แต่เพื่อให้ปลาไม่น็อคตาย จึงต้องเร่งจับปลาที่โตพอได้ขนาดขาย เพื่อลดจำนวนมากในประชังจากเดิม 700 ตัวต่อกระชัง เหลือเพียง 500 ตัว ยอมขายลดราคากิโลกรัมละ 60 บาท จากปกติ 75 บาท และปลาที่มีขนาดเล็กเกินไป ก็จะจับมาทำปลาร้า ขายกิโลกรัมละ 25 บาท ดีกว่าปลาน็อคตาย
อย่างไรก็ตามขอให้เขื่อนสิริกิติ์หากลดการปล่อยน้ำอย่างต่ำกว่า 6 ล้าน ลบ.เมตร มิเช่นนั้นกระชังปลาท้ายเขื่อนเฉพาะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับผลกระทบ ขาดทุนแน่นอน เพราะค่าอาหารต่อเดือนต้องแบกรับภาระแล้ว 2 แสนบาทต่อเดือน” นางสุขิตากล่าว