รวบยกแก๊งเดินสายเรี่ยไรหลอกทำบุญ

รวบยกแก๊งเดินสายเรี่ยไรหลอกทำบุญ

ตร.รวบยกแก๊งเดินสายเรี่ยไร หลอกทำบุญ

ที่หน้ากองกำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงส์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และ นายณัฐสิทธิ์ พงษ์ตลาด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก็งค์เรี่ยไร เดินสายหลอกเอาเงินชาวบ้านให้ร่วมทำบุญ 6 คน คือ นายมนูญ ไชยคำ ชาว จ.หนองคาย นายยงยศ ยุระปักษ์ อายุ 55 ปี ชาว จ.นครราชสีมา น.ส.ดวงเดือน ศรีพันธ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.ขอนแก่น นายพิทยา ราชสมบัติ อายุ 31 ปี นายทนนท์ บุดดา อายุ 24 ปี และ น.ส.สุวรีย์ ทิพลาศรี อายุ 37 ปี ชาวอุดรธานี ข้อหาจ่ายเงินเรี่ยไรที่ได้มาในกิจการอย่างอื่น นอกวัตถุประสงค์แห่งการเรี่ยไร

พล.ต.ต.พีระพงษ์ กล่าวว่า ช่วงทอดกฐิน ทางตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีกลุ่มคน 7-8 คน มาเช่าบ้านอยู่ที่ ซ.ราษฎร์บูรณะ 4 บ้านชัยพร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพฤติการณ์ในการออกเรี่ยไรไปตามหมู่บ้านทั่วภาคอีสาน โดยจะออกไปแต่ละครั้งประมาณ 5-10 วัน เมื่อกลับมาพร้อมกับเงินที่ได้จากการเรี่ยไรมาแบ่งกัน พร้อมนำเงินมาใช้จ่าย และซื้อยาบ้ามาเสพ จึงนำกำลังตรวจสอบ พบกลุ่มบุคคลตามที่รับแจ้ง โดยในบ้านมีกองขวดสุรา ขวดเบียร์ วางเกลื่อน พบของกลางและอุปกรณ์เสพยาบ้า จึงยึดเป็นของกลาง

จากการสอบสวนนายมนูญ ไชยคำ สารภาพว่าเป็นหัวหน้าแก็งค์ ได้เรี่ยไรตามหมู่บ้าน ทั่วภาคอีสาน โดยเริ่มจากหาซื้อซองกฐินจาก นายสำรวย ไม่ทราบนามสกุล ที่เป็นผู้ไปติดต่อขอพิมพ์ซองกฐินจากวัดต่าง ๆ โดยนายสำรวยจะจ่ายเงินให้ทางวัด 5,000-20,000 บาท และหากมีลูกนิมิตรจะให้ทางวัด 20,000- 30,000 บาท หากมีพระติดรถไปด้วย ก็จะนิมนต์พระจริงไป โดยให้เงินทำบุญ 500-1,000 บาท เมื่อพิมพ์ซองที่ให้เวลา 1 เดือนเสร็จ จะไปรับซองมาก็จะจ่ายเงินให้นายสำรวย ครั้งละ 5,000 บาท จากนั้นนำซองกฐินเดินเรี่ยไรไปตามหมู่บ้าน ครั้งละ 5-10 วัน แบ่งเงินที่หักค่าใช้จ่ายที่จะได้ประมาณคนละ 5,000 บาท หากซองหมดก่อนก็จะไปซื้อจากนายสำรวยอีก บางครั้งเข้าไปติดต่อกับทางวัดเอง เพื่อมอบเงินให้กับวัด 2,000-5,000 บาท เพื่อขอซองกฐินหรือซองผ้าป่าจากทางวัด อ้างว่า จะไปเรี่ยไรหาเงินมาทำบุญให้กับวัด ครั้งหลังสุดไปเรี่ยไรที่ จ.นครราชสืมา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 วัน เมื่อกลับมาก็ไปหาซื้อเหล้า เบียร์มาดื่มกินกัน จนเช้าวันนี้จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุม

นายณัฐสิทธิ์ กล่าวว่า การเรี่ยไรในลักษณะนี้ถือว่ามีความผิด เพราะต้องแจ้งเจ้าคณะจังหวัดในพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เพื่อขอหนังสือในการออกเรี่ยไรทำบุญ ผู้ที่จะทำบุญสามารถเรียกดูหนังสือขออนุญาตได้ หากไม่มีแสดงว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ออกหากินด้วยการเรี่ยไรแน่นอน

พล.ต.ต.พีระพงษ์ กล่าวว่า สำหรับโทษข้อหาเรี่ยไรมีน้อย มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ทำให้มีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงเรี่ยไรไปตามหมู่บ้านจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ที่สืบทราบ ยังมีกลุ่มที่มีพฤติการณ์เช่นเดียวกันอีกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะที่บ้านโคกนาคลอง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีไม่ต่ำกว่า 10 กลุ่ม โดยจะออกเรี่ยไรตลอดทั้งปี ซึ่งสั่งการให้เร่งจับกุมให้หมดจากพื้นที่เร็ว