พบการลักลอบเผาป่าที่เชียงใหม่ มากกว่า15จุด
จนท.เผยพบการลักลอบเผาป่าที่เชียงใหม่ ในช่วงวันหยุด มากกว่า 15 จุด สาเหตุคาดเผาหาของป่าและแกล้งจุด
ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงานจากนายพึ่งบุญ กันธิยาใจ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าออบหลวง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่.16 (เชียงใหม่) ว่า เมื่อเวลา 08.30 น. (11มี.ค.) ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ข้างทาง บริเวณ กม.20 -21 ม. 1 ตำบลหางดง อำเภอฮอด พิกัด 47Q 0442660 UTM 2015268 จึงพร้อมด้วยชุดปฏิบัติการดับไฟป่าบูรณาการ ของสถานีควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง และผู้นำท้องถิ่นลงพื้นที่ช่วยกันดับ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พบพื้นที่ถูกไฟไหม้เสียหาย 16 ไร่ สาเหตุคาดว่ามีแกล้งจุดในพื้นที่ป่าเต็งรัง
วันเดียวกัน เวลาประมาณ 11.00 น.นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายอำเภอสันกำแพง มอบหมายให้ นายนคร กาวิชัย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับนายนิคม ยะคำ กำนันตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง , กำนันตำบลออนกลาง และกำนันตำบลออนเหนือ อำเภอแม่ออน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำรวจพื้นที่ที่มีการเผาในตำบลห้วยทราย, ออนใต้ อำเภอสันกำแพง และตำบลออนกลาง, ออนเหนือ อำเภอแม่ออน พบว่ามีไฟป่าในพื้นที่ตำบลห้วยทรายจำนวนหลายจุด จึงแจ้งหน่วยดับไฟป่าเข้าดับทันทีเพื่อไม่ให้เกิดการลุกลาม
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงวันหยุดดาวเทียม Terra ระบบ MODIS ของ GISTDA ตรวจพบจุดความร้อน(Hotspot) บริเวณจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 14 จุด ข้อมูลสำหรับแจ้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการดับไฟเข้าระงับเหตุ สาเหตุหลักคาดว่าเป็นการลักลอบเผาเพื่อหาของป่าในพื้นที่ โดยศูนย์วอร์รูมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดโทรศัพท์สายตรง ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง ทางหมายเลขโทรศัพท์ 053-112236 และ หมายเลข 191 เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าดับทันที
ด้านนายชานนท์ คำทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ ขอให้ทุกจังหวัดระดมสรรพกำลังเฝ้าระวังการเกิดไฟ และดับไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้ง ขอความร่วมมืองดการเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรอย่างเคร่งครัด เนื่องจากได้รับแจ้งจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า มีความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อน ในตอนกลางวัน และสภาวะความแปรปรวนของอากาศลดลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสภาวะอากาศนิ่ง หากเกิดการเผาในพื้นที่ ก็อาจส่งผลทำให้ทุกจังหวัดมีแนวโน้มฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้นได้