เหยื่อพันคนถูกมูลนิธิฯฉาว หลอกทำบุญ-แชร์ลูกโซ่เสียหาย100ล้าน

เหยื่อพันคนถูกมูลนิธิฯฉาว หลอกทำบุญ-แชร์ลูกโซ่เสียหาย100ล้าน

ร้องกองปราบ! ชาวลำพูนกว่า10คน แห่แจ้งความจับมูลนิธิฯฉาว แฉหลอกทำบุญพ่วงลงทุนแชร์ลูกโซ่ เสียหาย100ล้านบาท เผยมีคนตกเป็นเหยื่อกว่า1,000คน

ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม นายดุสิต อารีวงศ์ อายุ 78 ปี พร้อมชาวบ้านชาวลำพูนกว่า 10 ราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สมเจตน์ แก้วสีดำ รองสว.(สอบสวน) กก.4 บก.ป. กรณีที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง ได้มีพฤติกรรมการหลอกลวงขอรับบริจาคเงินจากประชาชน

โดยอ้างว่าเป็นการไถ่ถอนพระอรหันต์ 28 องค์ สร้างความเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท พร้อมนำหลักฐานเอกสารรายชื่อผู้เสียหายกว่า 1,000 ราย รูปภาพประกอบขณะที่มีการต่อเติมพระพุทธรูป คำประกาศเชิญชวนให้ชาวบ้านร่วมบริจาค เทปเสียงมายื่นให้กับพนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี

นายดุสิต กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้พนักงานสอบสวนกองปราบตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมูลนิธิแห่งหนึ่ง และให้ดำเนินคดีกับนายนพ (นามสมมติ) ที่อ้างว่าเป็นผู้ดูแลมูลนิธิ มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเกจิอาจารย์ เขียนตำนานพระพุทธประวัติฉบับพิสดาร โน้มน้าวให้ผู้คนศรัทธาบริจาคเงิน และอ้างว่าเป็นผู้มีบุญบารมีเก็บพระอรหันต์ 28 องค์ พระพุทธรูปโบราณอายุพันกว่าปีที่สิงสถิตอยู่บนดอยไซ

นอกจากนี้ยังกล่าวอ้างถึงที่มาของพระพุทธรูปที่นำมาประดิษฐ์ไว้ในมูลนิธิว่า ทำมาจากพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ที่นำมาจากประเทศอินเดีย ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โดยจะมีการเชิญชวนให้ประชาชนที่เข้าไปสักการะบูชาและปฏิบัติธรรม ร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นการไถ่ถอนพระพุทธรูป โดยอ้างว่าจะมีบุคคลนำพระพุทธรูปแต่ละองค์มาคืนให้ แต่ต้องให้เงินแลกเปลี่ยนหรือไถ่ถอน เป็นองค์ ๆ ไปโดยมีราคาที่กำหนด เมื่อครบตามราคาที่กำหนดจะมีบุคคลนำพระพุทธรูปไว้ที่มูลนิธิ และนายนพจะนำเงินที่ทางประชาชนมาบริจาคให้กับผู้ที่นำพระมาคืน

นายจำรัส ณ บางช้าง หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายนพ (นามสมมติ) ผู้ดูแลมูลนิธิ เพราะเป็นบุคคลมีชื่อเสียงที่จังหวัดลำพูน เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้เก่า โดยมีการอ้างตัวว่ามีญาณวิเศษ ทำให้คนหลงเชื่อและมาทำบุญกันมากมาย โดยขั้นตอนแรกหลอกเรื่องการสร้างพระพุทธรูป ภายหลังมีการนำธุรกิจเข้ามาในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ชื่อโครงการ “ร่วมด้วยช่วยกัน ติดเทอร์โบ” โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องจ่ายเงินจำนวน 3,500 บาท จากนั้นจะได้อาหารเสริมบำรุงสายตาไปจำนวน 1 กล่อง และจะได้เงินปันผลอาทิตย์ละ 1,000 บาท จำนวน 3 อาทิตย์ และอาทิตย์ที่ 4 จะได้เงินทุนคืน ตนลงทุนไปทั้งสิน 460,000 บาท ซึ่งก็ได้คืนในช่วงแรกจำนวน 100,000 กว่าบาท

ช่วงหลัง ๆ นายนพ ได้ขอบิณฑบาตเงินต่างๆ ไปเรื่อย จนเกิดความสงสัย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหมืองจี้ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของมูลนิธิดังกล่าวพร้อมทั้งที่มาของพระพุทธรูปที่นายนพ กล่าวอ้างว่าทำมาจากพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 จากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จึงได้เข้าไปตรวจพบว่าไม่ใช่พระพุทธรูปในประวัติศาสตร์หรืออรหันต์พันปี เนื่องจากในสมัยอดีตไม่มีพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะแบบนี้ และยืนยันว่าเป็นเพียงของใหม่ที่สร้างขึ้นมาเอง

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ที่ผู้เสียหายนำมามอบให้เพื่อตรวจสอบว่ามูลนิธิดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือข้อหาอื่น ๆ หรือไม่ หากพบว่ามีหลักฐานกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีต่อไป