จับแก๊งควาย หลอกคนแก่ซื้อหวยปลอม สูญเงินนับล้าน

ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)เมื่อเวลา  16.30น.วันที่ 22 กันยายน พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อภิสันฐ์ ไชยรัตน์ , พ.ต.ท.ชัยฏิภูมิ อำนวยชัย รองผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.พงพิทักษ์ บุญบำรุง , พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงษ์ สว.กก.5 บก.ป. จับกุม นายสุทธิศักดิ์ ธรรมสังวาลย์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.3 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.595/2560 ลงวันที่ 16 มี.ค. 60 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พร้อมของกลาง ธนบัตรรัฐบาลไทย 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ , ธนบัตรปลอม 1,000 บาท จำนวน 104 ใบ โดยจับกุมได้ที่ร้านล้างรถ ริมถนนบางกรวย - กรุงเทพฯ ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ร่วมกับพวกอีก 3 คน มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหายให้ซื้อลอตเตอรี่ปลอม มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน ซึ่งตัวผู้ต้องหาจะทำทีเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน แต่งกายดี และพกเงินปลอมจำนวนมาก ก่อนที่จะเข้าไปตีสนิทเหยื่อตามป้ายรถประจำทางโดยจะพูดคุยในเรื่องทั่วๆ ไป จากนั้นเพื่อนร่วมขบวนการก็จะปลอมตัวเป็นคนขายของหาบเร่ เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นคนต่างด้าวมีสลากถูกรางวัลที่ 1 ไม่สามารถไปขึ้นเงินได้ ต่อมาทางผู้ต้องหาจะนำเงินปลอมที่พกมาเพื่อที่จะขอซื้อสลากดังกล่าว โดยจะชวนให้เหยื่อร่วมหุ้น ทั้งนี้หากเหยื่อลงเชื่อก็จะพาไปเบิกงานที่ธนาคารแล้วเอาเงินของเหยื่อไป โดยจะบอกให้เหยื่อไปรอเงินที่จะได้จากการขึ้นรางวัลที่บาท ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนีและแบ่งเงินกัน ซึ่งมีเหยื่อหลงเชื่อแก๊งนี้หลายรายมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

จากการสอบสวน นายสุทธิศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมกับพวกตระเวนออกหาเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุและดูมีฐานะ ก่อนที่จะเข้าไปตีสนิท แล้วหลอกให้ซื้อลอตเตอรี่ปลอม โดยทำมาแล้วกว่า 5 ปี ได้ส่วนแบ่งในการหลอกแต่ละครั้งหลายแสนบาท รวมแล้วกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับในคดีฉ้อโกงมาหลายครั้ง แต่ก็ได้เจรจาจ่ายค่าเสียหายไปหมดแล้ว

“ผมยอมรับผิดในการกระทำที่ผ่านมา หากติดคุกแล้วออกมาผมจะไม่กลับไปหลอกลวงอีก โดยจะอยากจะฝากเตือนประชนให้ระมัดระวังพฤติกรรมของมิจฉาชีพลักษณะแบบนี้” นายสุทธิศักดิ์ กล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ประสานให้พนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง มารับตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดี ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 ราย ทางเจ้าหน้ากำลังติดตามจับกุม โดยขณะนี้สามารถออกหมายจับได้แล้วทั้งหมด อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบมีหมายจับในคดี”ร่วมกันฉ้อโกง” อีกจำนวน 6 หมายจับ ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี และที่ผ่านมาเคยถูกออกหมายจับ 19 หมายด้วยกัน