พลิกวิกฤตน้ำท่วม เป็นโอกาสสร้างรายได้ 400-800 บาทต่อวัน

เช้าวันนี้( 8 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงนี้ ส่งผลให้พื้นที่นาข้าวของของชาวบ้านตลอดแนวลำน้ำอิงตั้งแต่ อ.เมืองพะเยา ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะชาวบ้าน ดอกบัว หมู่ 6,7,10 และ 11 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา พากันไป "ตั้งจ๋ำ” ในภาษาเหนือ หรือ ยกยอ ในภาษาภาคกลาง ในพื้นที่นาของตนเองหรือตามทางน้ำสาธารณะหลังจากที่มีฝนตกกระหน่ำในพื้นที่ติดต่อกันมาหลายวัน

นางสาวมัลลิกา ส่องแสง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 309 ม.10 ต.ท่างวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่มายกยอ กล่าวว่า ปกติทุกปีในช่วงนี้ชาวบ้านจะมาตั้งจ๋ำในที่นาของตนเอง หรือไม่ก็ทางน้ำสาธารณะถือเป็นเรื่องปกติ แต่ปีนี้ฝนตกชุกมากทำให้น้ำอิงทะลักเข้าท่วมนาในเขตบ้านดอกบัวทั้ง 4 หมู่ เป็นบริเวณกว้าง ทำให้ปลาใหญ่น้อยในพื้นถิ่น เช่น ปลาสลาก( สะ-ลาก) หรือปลาสลาด(สะ-หลาด) ในภาษากลาง ปลาสร้อยน้อย ปลาเนื้ออ่อนและปลากระจก ว่ายตามน้ำเข้าสู่ทุ่งนา จึงถือเป็นโอกาสทองของชาวบ้านที่จะตั้งจ๋ำเพื่อนำไปขายหรือเก็บทำปลาจ่อม ปลาร้า หรือตากแห้งไว้ทอดกรอบ

นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อไปว่า เมื่อที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำยังไม่สูงเท่าวันนี้ ทำให้ได้ปลาจำนวนมาก โดยได้เฉลี่ยต่อคนไม่ต่ำกว่า 20 กก.มากสุดได้ถึง 40 กก.ต่อคน ปลาที่ได้จะมีชาวบ้านมารอซื้อถึงที่ ในราคากก.ละ 20 บาท วันไหนไม่มีคนซื้อก็นำไปทำปลาจ่อม ปลาร้า ซึ่งจะได้ราคาสูงกว่ากันเป็นเท่าตัว ที่เหลือก็เก็บไว้กินกันเองภายในครอบครัว

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขต จ.พะเยา ในพื้นที่อ.เมืองพะเยา ระดับตลิ่ง ม.รทก.(เมตรต่อระดับน้ำทะเลปานกลาง) 392.53 ในขณะที่ระดับน้ำจริงคือ 392.30 ม.รทก. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังอาจจะเกิดภาวะวิกฤติน้ำท่วมฉับพลันได้