หนุ่มเครียดหนัก ซดยาตายหวังหนีคดีฆ่าเมีย
จนมุม! หนุ่มเครียดหนัก ซดยาฆ่าหญ้าหวังหนีคดีฆ่าเมีย แต่ไม่ตายถูกตำรวจรวบ
ความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวนายเรืองฤทธิ์ แลจะบก อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 293/2560 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ข้อหาฆาตกรรมนางศรีสุดา นำสันเทียะ อายุ 34 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ภรรยาที่อยู่กินแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส สาเหตุผู้ต้องหาขอเงินซื้อสุรา จึงทำร้ายร่างกายเมียจนทนไม่ไหวหนีออกจากบ้าน สามีออกติดตามหา เมื่อพบได้พยายามนำตัวกลับ แต่นางศรีสุดา ผู้เสียชีวิตไม่ยอมไปด้วย ผู้ต้องหา ไม่พอใจใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงเข้าลำตัวจนเสียชีวิต เหตุเกิดในหมู่บ้านหอกลอง หมู่ 7 ต.โนนไทย อ.โนนไทย
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 60 พ.ต.อ.พฤทธิ์ บุญปก ผกก.สภ.โนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ว่า พบตัวนายเรืองฤทธิ์ ผู้ต้องหาที่กระท่อมในทุ่งนา บ้านหนองสรวงสันติสุข หมู่9ต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่
พบนายเรืองฤทธิ์ นอนหมดแรง สภาพอิดโรยไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือช่วยตัวเองได้ เพียงแต่พูดจาตอบโต้ได้ โดยนายเรืองฤทธิ์บอกว่า กินหญ้าฆ่าหญ้ามาร่วม2วัน เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยกันอุ้มผู้ต้องหาใส่หลังและช่วยคอยประคองพากันเดินเท้าลัดทุ่งนากันอย่างทุลักทุเล เพื่อนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลโนนไทย
พ.ต.อ พฤทธิ์ ผกก. สภ.โนนไทย เปิดเผยว่า เป็นเวลาร่วม 15 วัน ในการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งอาศัยความชำนาญในพื้นที่ จึงสามารถหลบหนีการไล่ล่าแบบหวุดหวิด ทั้งชีวิตของนายเรืองฤทธิ์ เติบโตมากับท้องไร่ท้องนา จึงเชี่ยวชาญการดำรงชีพในชนบท ประกอบกับอาณาเขตที่หลบซ่อนมีขนาดพื้นที่หลายพันไร่ โดยเป็นไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลัง และนาข้าว ใช้สุนัขดมกลิ่น เมื่อพาเดินเข้าไปในไร่ข้าวโพดกลิ่นก็จางหายไปต่อไม่ได้ จากการสอบถาม ช่วงกลางวัน ผู้ต้องหารู้จะมีคนตามจับ ใช้วิธีหลบซ่อนในไร่แบบเล่นซ่อนหา จนพลบค่ำแอบออกมาหาญาติสนิทเพื่อขออาหาร น้ำดื่ม ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังพร้อมจัดสายสืบลงพื้นที่หาข้อมูลความเคลื่อนไหว และเพิ่มมาตรการกดดันทุกวิถีทาง จนผู้ต้องหาหิวโซ หักข้าวโพดกินประทังชีพโดยเฉพาะญาติสนิทถูกประกบจนไม่สามารถแอบช่วยเหลือได้ ผู้ต้องหาตัดสินใจกินยาฆ่าหญ้าหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ กลับหมดเรี่ยวแรง เคลื่อนไหวไม่ได้
อย่างไรก็ตามอาการสาหัส เนื่องจากฤทธิ์ยาฆ่าหญ้าได้แพร่ และซึมเข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ ได้นำตัวส่งให้แพทย์ล้างท้องช่วยชีวิตพร้อมจัดกำลังเฝ้าอยู่หน้าห้องผู้ป่วยอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง สั่งห้ามเข้าเยี่ยมทุกกรณี