รวบ 'ม้ากดเงิน' เครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.61 ที่สน.บางเขน มีการแถลงผลการจับกุมเครือข่ายแก๊ง คอลเซนเตอร์ข้ามชาติจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายวสิฐวิชญ์ สุขเบื้องบน อายุ 43 ปี นายณัฐพงศ์ ตรัยรัตนยนต์ อายุ 38 ปี และนายซูน เช่า หลง(Mr.Sun,Shao Lung อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินจำนวน 31 รายการ เงินสด 154,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง บัตรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่ง รถยนต์ ฯลฯ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บอกว่า ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นหรือ "เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์" ทำให้มีผู้หลงเชื่อจนเป็นเหตุให้สูญเสียทรัพย์สินไปจำนวนมาก

ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งให้จัดตั้ง "ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับผู้สั่งการ และม้ากดเงิน มีผลการปฏิบัติได้ออกหมายจับ 44 หมาย จับกุม 28 หมาย ยังไม่ถูกจับ 15 หมาย อายัดตัว 1 หมาย ทั่วประเทศมีผู้เสียหายเข้าแจ้งกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วจำนวน 226 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้จะขยายผลจับกุมขบวนการนี้ในต่างแดนต่อไป ซึ่งได้มีการประสานไปยังตำรวจสากล กรมการกงศุล สถานทูตไทยในต่างแดน เพื่อเตรียมเข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือให้หมดไป

ล่าสุด จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย โดยมีพฤติกรรมคือ ใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีส้ม ทะเบียน ขข8372 ชลบุรี ตระเวนถอนเงินสดที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย จากตู้กดเงินสดในพื้นที่ลาดพร้าว ทองหล่อ บางเขน อ.บางแก้ว และอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กว่า 40 ครั้ง
นายวสิฐวิชญ์ รับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงและยอมรับในความผิดที่ทำโดยจะเป็นคนจัดหาบัญชีธนาคารซึ่งจะได้รับค่าจ้างบัญชีละ 7,000 บาท พร้อมทั้งฝากเตือนประชาชนว่าไม่ควรทำผิดแบบตนเลย

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวนายวสิฐวิชญ์และนานณัฐพงศ์ส่งพนักงานสอบสวนสน.บางเขน ส่วนนายซูน เช่า หลง ส่งพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป