"ลุงจรูญ" เปิดบ้านแถลง ท้าฝ่าย "ครูปรีชา" รวมทั้งแม่ค้าและ ตร.สาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ขณะที่ดร.ออกหมายเรียกแล้ว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 1 ก.พ.61 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา พร้อมด้วยนายศุภกร สุพรรณรังษี ทนายความ ตัวแทนของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชน และสังคมเปิดบ้านพักส่วนตัวเลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัยวังสารภี หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เปิดแถลงข่าวสรุปความเห็นกรณีว่า ล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาทนั้นเป็นของนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปีครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี อยู่บ้านเลขที่143/22หมู่3ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรีและจะมีการออกหมายเรียกให้ ร.ต.ท.จรูญ ไปรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหา“ยักยอกทรัพย์ตกหล่น”และข้อหา“รับของโจร”
โดยการแถลงข่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค.61 ท่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7)ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วสำหรับการเปิดบ้านแถลงข่าวในครั้งนี้มีสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง นอกจากการแถลงข่าวเปิดใจแล้ว ร.ต.ท.จรูญ ยังให้สื่อมวลชนได้ซักถามข้อสงสัยได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
ทั้งนี้ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล แถลงว่า หลังจากฟังดูและฟังคำแถลงข่าวของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว ตนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสักเท่าไหร่ เพราะที่จริงแล้วผมนั้นเป็นฝ่ายถูก แต่กลับถูกกระทำมาโดยตลอด ผมจึงมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสักเท่าไหร่
ถามว่าอะไรถึงบอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็อย่างเช่นที่ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงออกมาว่าจะสั่งฟ้องตน ทั้งๆที่หลักฐานก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งสื่อมวลชนเองก็น่าจะเห็นเช่นกัน สำหรับการสั่งฟ้องทั้งสองข้อหา บอกตามตรงว่าตนยอมรับไม่ได้ เพราะผมเป็นคนซื้อและผมเป็นคนถูกรางวัลเอง จะยอมรับข้อกล่าวหานี้ได้อย่างไร และเราเชื่อว่าหลักฐานที่เขานำมาอ้างนั้นน่าจะเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมาเอง
สำหรับหลักฐานที่เขาบอกว่ามีพยานบุคคลที่เห็นตนก้มเก็บเอาลอตเตอรี่ขึ้นมา ซึ่งหลักฐานตรงนี้ก็เช่นกัน ในเมื่อตนซื้อลอตเตอรี่มาเองแล้วจะมีหลักฐานดังกล่าวมาได้อย่างไรเพราะหลังจากที่ซื้อลอตเตอรี่แล้วเสร็จ ตนก็เก็บเอาไว้ในกระเป๋า และไม่มีการไปทำตกหล่นกลางทางอย่างแน่นอน และนอกจากซื้อจากแม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่อยู่หลังศาลพระภูมิภายในตลาดเรดซิตี้แล้วก็ไม่ได้มีแม่ค้าคนไหนมาขายให้อีกเลย และก็ไม่ได้ไปซื้อเจ้าอื่นด้วย และจากการที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าวว่ามีพยานบุคคลเห็นตนเก็บลอตเตอรี่ได้ ตรงนี้ตนก็เชื่อว่าไม่มีและเป็นไปไม่ได้แน่นอน ขอย้ำว่าเชื่อว่าไม่มี โดยหากเจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐานที่ตนมีเพื่อขอให้นำไปโต้แย้งนั้น ตรงนี้ไม่มีเพราะหลักฐานที่มีอยู่ได้มอบให้กับทางทนายความไปหมดแล้ว แต่ตนไม่สามารถบอกได้ว่าหลักฐานดังกล่าวนั้นคืออะไร หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางทนายความเท่านั้น
ถามว่ามั่นใจมากน้อยแค่ไหนว่าหลักฐานที่มีอยู่นั้นสามารถนำไปโต้แย้งได้ ซึ่งตอบเลยว่ามีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถนำไปโต้แย้งและลบล้างข้อกล่าวหาได้เป็นอย่างแน่นอน ซึ่งอันที่จริงแล้วตนเป็นคนไปซื้อลอตเตอรี่ด้วยตนเอง และโอกาสที่ตนจะไปเก็บของตกหล่นขึ้นมานั้นไม่มีอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่ามีข้อสงสัยตรงที่ว่าในเมื่อไปซื้อลอตเตอรี่และมีการพูดคุยอยู่กับแม่ค้า จำไม่ด้เลยหรือว่าหน้าตาของแม่ค้าคนดังกล่าวนั้นมีใบหน้าอย่างไร ตอบว่าความสงสัยของเขานั้นผมไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย บอกตามตรงว่าตนจำหน้าแม่ค้าคนดังกล่าวไม่ได้จริงๆ รู้แต่เพียงว่าแม่ค้าคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้หญิงเท่านั้น และไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าผมสั้นหรือผมยาว เพราะระหว่างที่เข้าไปซื้อตนก็เลือกหาเฉพาะเลขที่ต้องการเท่านั้น โดยไม่ได้สนใจเลยว่าแม่ค้าคนนั้นจะหน้าตาสวยงามหรือไม่ขนาดไหน และตนไม่เคยมีแม่ค้าประจำ เมื่อต้องการเสี่ยงโชคถ้าเจอที่ไหนก็ซื้อมันตรงนั้น และที่ผ่านมาก็ไม่เคยจำหน้าแม่ค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะเล่าย้อนกลับไปให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า อันที่จริงแล้ววันนั้นตนไม่ได้ตั้งใจที่จะไปซื้อสลากฯเลย แต่ตั้งใจไปตลาดกับภรรยาก็เพื่อต้องการไปซื้อกับข้าว แต่ฉุกคิดได้ว่ารุ่งขึ้นของวันถัดไป (1 พ.ย.60)ลอตเตอรี่ก็จะออกแล้ว ก็เลยคิดว่าจะลองเสี่ยงโชคดู และตั้งใจไว้ว่าจะซื้อเลขท้าย 26 ซึ่งในขณะนั้นเป็นเลขมงคล และไม่เคยคิดว่าจะต้องถูกรางวัลใหญ่ ขอเพียงถูกเลขท้ายสองตัวก็พอแล้วดังนั้นจึงเดินไปดูเลขที่แผงขาย
เมื่อเจอเลขท้าย 26 ตนก็บอกกับแม่ค้าว่าตนต้องการเลขนี้ แม่ค้ายังบอกกับตนอยู่เลยว่าเลขนี้กำลังดัง แต่ตนก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเลขที่ตนจะซื้อนั้นดังมาก่อน แต่มันเป็นเลขที่ตนต้องการจะซื้อ จากนั้นแม่ค้าก็เป็นคนหยิบลอตเตอรี่ขึ้นมาให้ ซึ่งเป็นเลขชุด 5 ใบที่อยู่ในซองพลาสติก ซึ่งตนก็ถามไปว่าขายราคาเท่าไหร่ แม่ค้าก็บอกกับตนว่าขายราคา 700 บาทตามที่ติดราคาเอาไว้ จากนั้นตนก็จ่ายค่ายลอตเตอรี่ไปจำนวน 700 บาท ซึ่งเป็นแบงค์ละ 100 ทั้งหมด จากนั้นตนกับภรรยาก็เดินไปหาซื้อกับข้าวต่อและก็เดินทางกลับบ้านทันที
ถามว่าขณะซื้อนั้นได้แย้งเรื่องขายราคาแพงหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้แย้งอะไร แต่มีความรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจเท่านั้นเอง ซึ่งในวันนั้นเองตนก็ไม่รู้นึกคิดอย่างไรจึงอยากซื้อเลขขึ้นมา เมื่อคิดดูแล้วถ้าหากไปเถียงกับแม่ค้าเรื่องราคาก็คงไม่มีประโยชน์เพราะคิดเพียงว่าพรุ่งนี้ (1 พ.ย.60)หวยก็จะออกแล้ว และช่วงระหว่างคุยกับแม่ค้าตนก็ไม่ได้สังเกตใบหน้าแม่ค้าเลย เพราะมัวแต่มองดูลอตเตอรี่และราคาขายเท่านั้น และที่ผ่านมาหลังจากมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยมีแม่ค้าคนไหนเลยที่ออกมาบอกว่าตนซื้อลอตเตอรี่กับเขา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเรารู้ว่าแม่ค้าคนดังกล่าวอาจจะไปเป็นพยานให้กับฝั่งครูปรีชาไปแล้วก็ได้
สำหรับการที่พนักงานสอบสวนเรียกให้ไปพบกับครูปรีชาครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 พ.ย.60 ที่ ภ.จว.กาญจนบุรี ซึ่งทางครูปรีชาก็ได้แต่พูดว่าเราคงทำบุญร่วมกันมา จึงถูกรางวัล และจะแบ่งให้ตนแบบวินๆ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าอะไรแบ่งกันแบบวินๆแต่ก็ไม่ได้พูดบอกว่าจะแบ่งกันคนละ 15 ล้านบาท เพียงแต่บอกว่าแบ่งกันแบบวินๆเท่านั้น ซึ่งวันนั้นเราเองก็ไม่ยอมอยู่แล้ว และได้แต่นั่งฟังเขาพูดเฉยๆเท่านั้น และไม่ได้พูดตอบโต้อะไร ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าเราเป็นคนซื้อมาและถูกรางวัล จะมาแบ่งอะไรแบบวินๆ เป็นใครก็ไม่ยอม
แต่อย่างไรก็ตามถามว่าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วอยากจะฝากบอกไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ว่าอย่างไรบ้าง ร.ต.ท.จรูญ ตอบเชิงประชดว่า ตนรู้สึกซึ้งมากๆ ซึ่งในน้ำใจ เขาคงเห็นเราเป็นแค่ตำรวจเก่าๆ เขาเป็นตำรวจรุ่นใหม่ จึงรู้สึกซึ้งมาก และที่ผ่านมาตนเจอในลักษณะนี้ตั้งแต่วันแรก จึงตัดสินใจเข้าไปหาทางกระทรวงยุติธรรม ไปพบทางเจ้าหน้าที่DSI.เพื่ออะไร เพื่อให้เขามาขุดคุ้ยเราอย่างนั้นหรอ ซึ่งจนถึงขณะนี้ตนเชื่อตามที่ทนายษิทรา เคยบอกเอาไว้ว่าเป็นการกระทำที่เป็นขบวนการจริงๆ ตนเชื่ออย่างนี้จริงๆ เพราะผมไปเจอมากับตัวเองมาแล้ว ก็เพราะเช่นนี้ตนจึงวิ่งไปที่กระทรวงยุติธรรม และDSI.และถึงจุดนี้แล้วก็อยากจะเรียกร้องว่าขอให้หน่วยงานที่เป็นกลางจริงๆลงมาทำคดี ลงมาหาข้อมูลที่แท้จริงว่าใครเป็นคนผิดหรือใครเป็นคนถูกกันแน่ และไม่ต้องมาเชื่อตนแต่ขอให้ไปค้นหาความจริงให้มันปรากฎเท่านั้นพอ
ร.ต.ท.จรูญ วิมูลกล่าวว่าที่ผ่านมาตนยอมทำตามเจ้าหน้าที่มาโดยตลอดเช่นการไปตรวจDNAผลก็ออกมาแล้ว และหากต้องการให้ไปเข้าเครื่องจับเท็จอีกครั้งหนึ่งตนก็พร้อมทุกเมื่อ ขอให้บอกว่ามาว่าจะให้ไปทำอะไร ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าขอให้ส่งหน่วยงานที่มีอำนาจและมีความยุติธรรมช่วยลงมาดูคดีนี้ด้วย และเพื่อความแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เป็นพุทธศาสนิกชน นับถือศาสนาพุทธ โดยในวันอาทิตย์ ที่ 11 ก.พ.61 นี้ ตนและครอบครัวจะไปแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาญจนบุรี ว่าหากตนโกหก หรือปั้นเรื่องปั้นราวขึ้นมา ก็ขอให้ครอบครัวของตนล่มจมไปเลย และการไปสาบานในครั้งนี้ก็อยากจะท้าฝ่ายตรงข้ามคือครูปรีชา รวมทั้งแม่ค้าขายลอตเตรี่ ที่เป็นพยาน หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าข้างฝ่ายตรงข้ามไปร่วมสาบานพร้อมกัน หากใครโกหกก็ขอให้ล่มจมเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปยัง พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ทราบว่าวันนี้พนักงานสอบสวน ได้ทำการออกหมายเรียกให้ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ไปพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเป็นหมายแรกแล้ว
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้นำกำลังลงพื้นที่ตลาดสดเรดซิตี้ เพื่อติดตามหากล้องวงจรปิด ตามที่ทางครูปรีชากล่าวอ้างว่ามี แต่ยังไม่พบกล้องดังกล่าวแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงแค่ขาเหล็กสำหรับติดกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่เสาไฟฟ้าบริเวณใกล้กับศาลพระพรหมเท่านั้น แต่แม่ค้าที่อยู่บริเวณดังกล่าวบอกว่า กล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ ได้ถูกเก็บไปแล้วตั้งแต่ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา