ตร.บุกจับแก๊งตุ๊กตุ๊ก หลอกขายแพ็กเกจเกินราคา-ข่มขู่ขายสินค้า นทท.
"สุรเชษฐ์" นำทีมตร.บุกจับแก๊งตุ๊กตุ๊ก-รถแท็กซี่ 140 คัน หลอกนทท.อ้างพระบรมมหาราชวังปิด ก่อนเสนอข่ายโปรเเกรมเที่ยวเกินราคา-ข่มขู่ขายสินค้า
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พร้อมตำรวจท่องเที่ยว, กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, ตำรวจ สน.ชนะสงคราม, สน. พระราชวัง, เทศกิจและเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมจัดระเบียบ และจับกุมผู้กระทำความผิดที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวโดยรอบพระบรมมหาราชวัง โดยสามารถจับกุมรถตุ๊กตุ๊ก และรถแท็กซี่ที่กระทำผิดได้ 140 คัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีแก๊งตุ๊กตุ๊กหลอกลวงนักท่องเที่ยวที่เดินมาเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ว่าพระบรมมหาราชวังปิด เพื่อจะขายโปรแกรมนำเที่ยวและนำไปซื้อสินค้า อาทิ เครื่องประดับ ชุดสูท ล่องเรือนำเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวของผู้ค้าโดยรอบบริเวณ ในการยัดเยียดขายสินค้า, ขายสินค้าราคาเกินจริง, ข่มขู่นักท่องเที่ยวที่ไม่ซื้อสินค้า, รวมถึงกลุ่มรถแท็กซี่และตุ๊กตุ๊กที่จอดกีดขวางการจราจรทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพระบรมมหาราชวังได้ลำบาก จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อจัดระเบียบและจับกุมผู้กระทำความผิด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า การท่องเที่ยวพระบรมมหาราชวังถือเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่กลับมีกลุ่มคนที่กระทำความผิดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้วยการบอกว่า พระบรมมหาราชวังปิด และพาไปเที่ยวที่อื่นหรือพาไปซื้อสินค้าตามร้านต่างๆที่ได้มีการตกลงกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิด ขอเตือนว่าไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนี้และจะเข้าตรวจสอบร้านที่ร่วมกันหลอกนักนักเที่ยวอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันตุ๊กตุ๊กก็จะต้องไม่มีพฤติกรรมไซด์แขก หรือการหลอกลวงนักท่องเที่ยว หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจะร่วมกับกรมขนส่งทางบกเพิกถอนใบอนุญาต โดยในครั้งแรกจะพักใบอนุญาต 3 เดือน หากพบอีกครั้งจะเพิกถอนใบอนุญาตขับรถสาธารณะในทันที พร้อมผลักดันออกนอกพื้นที่
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กว่าวว่า สำหรับการจับกุมในวันนี้ มีข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 68 ราย, ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จำนวน 19 ราย, และกลุ่มเสี่ยงกระทำความผิด 52 ราย ซึ่งจะทำการลงประวัติและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 32.5 ล้านคน โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้ 33-34 ล้านคนอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกคนช่วยให้การท่องเที่ยวของไทยดีขึ้น เพื่อเป็นภาพลักษณ์ให้ประเทศ โดยจากนี้ตำรวจจะกวดขันทุกวัน โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดก็จะดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน