'ศรีวราห์' ตรวจความพร้อมรับคลื่นมหาชนกลับกรุงฯ ยันยังไม่พบปัญหา
"ศรีวราห์” ตรวจความพร้อมรับคลื่นมหาชนกลับกรุงฯ ยันยังไม่พบปัญหา
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมรับประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร หลังหยุดเทศกาลปีใหม่ โดยมีการตรวจสอบที่ กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.02 และ สถานีขนส่งหมอชิต
โดยรองผู้บัญชาการตำรวจตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ปริมณฑลที่เป็นเส้นหลักในการเดินทางของประชาชน ทั้งสายเหนือและสายใต้ ยังไม่พบว่ามีพื้นที่ใดมีปัญหาการจราจร ซึ่งในพื้นที่ปริมณฑล ช่วงจังหวัดสระบุรี มีการเปิดช่องทางเดินรถสวนทางในช่องทางการจราจรขาออก เพื่อเพิ่มช่องทางในทิศทางขาเข้า เพื่อรองรับปริมาณรถที่อาจจะมากขึ้นในช่วงกลางดึก ทำให้การจราจร ณ ขณะนี้ยังคงเคลื่อนตัวได้ดี มีเพียงบางพื้นที่ที่มีปริมาณรถมากแต่ก็ยังคงใช้ความเร็วได้ ส่วนที่สถานีขนส่งหมอชิต จากการตรวจสอบพบว่ามีความพร้อมในการรองรับประชาชนที่จะเดินทางเข้ามา โดยมีการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัย และยังมีการจัดรถตู้จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้ามาอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางไปต่อรถตามจุดสำคัญๆในพื้นที่กรุงเทพเช่น สถานีรถไฟฟ้าต่างๆโดยรถตู้ของตำรวจจะมีอำนวยความสะดวกไปตลอดจนหมดช่วงเทศกาล ขณะที่ในส่วนของสถานีขนส่งหมอชิต ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ และสุนัขตำรวจ คอยเข้ามาตรวจดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งของผิดกฏหมายที่อาจจะอาศัยช่วงเทศกาลอย่างนี้นำวัตถุระเบิดหรือยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่อีกด้วย
นอกจากนี้ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างเดินทางตรวจสอบความพร้อมของด่านจราจรบนถนนวิภาวดี ก็พบว่า ที่ด่านกวดขันจราจรในช่วงเทศกาล ของกองบังคับการตำรวจจราจร ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถนนวิภาวดีสามารถตรวจค้นรถยนต์เก๋งวีออสสีดำต้องสงสัย พบยาเสพติดเป็นยาไอซ์นำ้หนักรวมกว่า 3.87 กรัม และยาบ้าอีก 4 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ 5 ราย คือ นางสาวสุรีย์ ป้องภัย , นางสาวสมใจ นิลประพันธ์ุ , นางสาวกิติมา ทุสาวุธ , นางสาวจิรพร สังข์ลาย และนายณปภัช กวินรัตนาพร ที่โดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นรถพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในเคสโทรศัพท์มือถือของ นางสาวสุรีย์ จำนวนหนึ่ง และตรวจสอบบริเวณด้านหลังเบาะคนนั่งข้าง พบกระเป๋าใส่กุญแจภายในซุกซ่อน ยาไอซ์และยาบ้า โดยยาไอซ์มีการแบ่งเป็นซองเล็กๆคล้ายเตรียมนำไปจำหน่าย และจากการสอบปากคำยังไม่มีผู้รับว่ายาเสพติดเป็นของใคร แต่ทั้งหมดรับว่าเสพยาไอซ์มา โดยทั้งหมดเดินทางมาจากพื้นอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพ แต่ถูกจับกุมได้ก่อน เบื้องต้นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีการสั่งการให้ ตำรวจในพื้นที่จังหวัดสระบุรีนำกำลังขยายผลเข้าค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่ายังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่หรือไม่ก่อนสั่งการให้ สน.พหลโยธิน รับตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีอีกครั้งในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,บาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย