ทษช.ลุยบ่อนไก่ เห็นใจชาวหาบเร่แผงลอยถูกจัดระเบียบ

พรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคฯ, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรค และนายแพทย์เหวง โตจิราการแกนนำพรรคฯ ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมีหม่อมหลวงณัฏฐพล เทวกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 2 ครอบคลุมพื้นที่เขตปทุมวัน, บางรักและเขตสาทร พร้อมผู้สนับสนุนพรรคให้การต้อนรับ

มีการเดินพบปะและรับฟังปัญหาประชาชนบริเวณตลาดเช้าของชุมชนและผู้อยู่อาศัยในแฟลตบ่อนไก่และในโครงการบ้านมั่นคงย่านนั้น ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจ่ายตลาดต่างให้การตอบรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง มีหลายคนเข้ามาให้กำลังใจ รวมถึงสะท้อนปัญหาที่เผชิญอยู่และถามถึงแนวทางการแก้ไขของพรรคไทยรักษาชาติกับหัวหน้าพรรคฯ ด้วย ระหว่างนี้แกนนำพรรคฯยังได้ถือโอกาสใส่บาตรพระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาตภายในตลาดเช้าร่วมกัน และยังมีแม่ค้าขายขนมครก ขอให้ร้อยโทปรีชาพล ทดลองเเคะขนมครกจากเตาด้วยตัวเองด้วย

ร้อยโทปรีชาพล ระบุว่า ส่วนใหญ่ชาวชุมชนสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจที่มีความยากลำบากในการทำมาหากิน รวมถึงข้อจำกัดในเรื่องของสถานที่ โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอย ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก จากการจัดระเบียบของรัฐบาลปัจจุบัน ที่ไม่ได้คำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้ค้า ที่จะขายของในตลาดช่วงเช้าและเย็น แต่ช่วงกลางวันจะออกขายตามริมฟุตปาธ ซึ่งกลุ่มนี้หวังรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติ ยืนยันถึงแนวทางหาช่องทางทำกินและสนับสนุนเงินทุน จัดทำไมโครไฟแนนซ์ให้ผู้ต้องการทำการค้ามีแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินธุรกิจขนาดเล็กได้

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่รวมกลุ่มทำผลิตภัณฑ์ทั้งสบู่, แชมพู, น้ำยาล้างจานและอื่นๆ สะท้อนปัญหาไม่มีช่องทางจำหน่าย โดยพรรคไทยรักษาชาติ มีแนวนโยบายจะเปิดช่องทางค้าขายโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หรือดิจิตอลอีโคโนมี่ ผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ มาหาตลาดและสร้างราย ซึ่งร้อยโทปรีชาพล เชื่อว่า หากเศรษฐกิจฐานรากแข็งแรง ก็จะหล่อเลี้ยงถึงส่วนกลางและส่วนบนเป็นวงจรเศรษฐกิจโดยรวม

สำหรับประเด็นคุณภาพชีวิตนั้น ชาวชุมชนมีโรงเรียนในพื้นที่แต่เปิดสอนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น ชาวชุมชนจึงอยากให้ทำเป็นโรงเรียนขยายโอกาสเปิดถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และยังมีการสะท้อนปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดหนัก ในช่วง 4-5 ปีมานี้ ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติเสนอการ ใช้ผลงานการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นเกณฑ์พิจารณาในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจและข้าราชการในพื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ที่สำคัญต้องทำต้องถือว่าผู้เสพ นั้นเป็นผู้ป่วย ที่นำสู่การบำบัดรักษาต่อไป