รวบ 18 มงกุฎ อ้างเป็นทนาย-อัยการ ตุ๋นเหยื่อ4ล้าน
ตำรวจท่องเที่ยว บุกรวบ 18 มงกุฎ คาห้างชื่อดังย่านเอกมัย หลังอ้างเป็นทนาย-อัยการ หลอกตุ๋นเงินเหยื่อกว่า 4 ล้าน
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2562 พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ทท , พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 สั่งการให้พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1บก.ทท.1 พ.ต.ต.สมัชญ์ บำรุงชาติ สว.งานสืบสวน กก.1บก.ทท.1 ร.ต.อ.ศุภรัตน์ มีปรีชา ร.ต.ท.เจตน์ ยุทธโยธิน รองสว.งานสืบสวน กก.1บก.ทท.1 และเจ้าหน้าที่งานสืบสวน กก.1บก.ทท.1 จับกุมนายอคเดช โพธิจันทร์ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ จ.1/2562 ลงวันที่ 2 ม.ค. ในฐานความผิดฐานฉ้อโกง , ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม โดยจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งย่านเอกมัย
ร.ต.อ.ศุภรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านทองย่านกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ว่าถูกนายอคเดช ใช้กลอุบายหลอกว่าสามารถให้คำปรึกษาทางคดี วิ่งเต้นคดี หรือช่วยเหลือคดีความได้ ทางผู้เสียหายจึงหลงเชื่อจึงได้โอนเงินว่าจ้างกว่า 1.5 แสนบาท ต่อมาผู้เสียหายรายนี้เกิดสงสัยพฤติกรรมว่าไม่เหมือนทนายความทั่วไป ตามที่กล่าวอ้าง จึงขอให้ทางตำรวจท่องเที่ยวร่วมตรวจสอบ ก็พบว่าไม่ได้ปรากฎรายชื่อในสภาทนายความ ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.กระทุ่มแบน ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ
ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวจึงได้ทำการแกะรอยจนพบข้อมูลว่า นายอคเดชได้นัดหมายลูกความรายหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าย่านเอกมัย จึงเฝ้าติดตาม กระทั่งชุดสืบสวนพบผู้ต้องหารายนี้อยู่ลูกความในร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในห้างดังกล่าว จึงแสดงตัวจับกุม นอกจากนี้จากการตรวจค้นพบกระเป๋าใส่เอกสาร และเสื้อคุมที่มีโลโก้ของสำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งบัตรข้าราชการสำนักอัยการสูงสุดระบุชื่อนายอคเดช อัยการประจำกองประจำสำนักอัยการสูงสุด และเอกสารราชการส่วนหนึ่งที่มีการปลอมแปลงเสมือนจริง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้เป็นทนายความหรืออัยการตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งทันทีที่ผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพทางลูกความของผู้ต้องหาบางรายได้เกิดอาการตกใจแทบลมจับ เนื่องจากได้มีการโอนเงินไปกว่า 4 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการให้ทำคดีฟ้องร้องต่อศาล เพื่อขอค่าอุปการะบุตรจากสามีชาวอเมริกันมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ทางลูกความรายนี้ เตรียมดำเนินการแจ้งความตามกฎหมายต่อไป
รองสว.งานสืบสวน กก.1บก.ทท.1 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ของนายอรเดช มาตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบแบบฟอร์มเอกสารทางราชการ อาทิ แบบฟอร์มใบแถลงต่อศาล แบบฟอร์มคำร้องต่อศาล แบบฟอร์มการถอนคดี รวมทั้งแบบฟอร์มประเภทอื่นๆจำนวนมาก อีกทั้งยังพบสัญญาว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาบริษัทเกี่ยวกับโมเดลลิ่งแห่งหนึ่งด้วย รวมทั้งรูปภาพของนายอคเดชขณะใส่ชุดทนายความ
อย่างไรก็ตาม นายอคเดช ให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้ปลอมแปลงเอกสารทั้งหมด รวมทั้งตัดต่อภาพตนเองในขณะสวมชุดข้าราชการฝ่ายตุลากร ชุดทนายความ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีความใฝ่ฝันเป็นทนายความ ผู้พิพากษา ไม่คิดว่าการกระทำของตนเป็นการหลอกลวงผู้ใด ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าสี่ครั้ง โดยเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงนำไปใช้เที่ยวเตร่
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง,ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ทั้งนี้หากประชาชนรายใดตกเป็นผู้เสียหายถูกนายอคเดชหลอกลวง สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สภ.กระทุ่มแบน หรือแจ้งมายังกก.1บก.ทท.1ภายในสนามศุภชลาศัย หรือสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง